อย.เตือนผู้ผลิต-นำเข้ายา มาแก้ไขเลขทะเบียนตำรับยา เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน กระทบปชช.รับยาเกินขนาด


เพิ่มเพื่อน    

12ม๊.ค.62-นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ( อย. ) เล็งเห็นถึงความปลอดภัยในการใช้ยาของผู้บริโภค โดยเฉพาะกรณีการใช้ยาซ้ำซ้อน    ที่เกิดจากความเข้าใจผิดจากการใช้ยา       ชนิดเดียวกันแต่แสดงชื่อสามัญทางยาบนฉลากยาและเอกสารกำกับยาไว้แตกต่างกัน  ซึ่งอาจทำให้ผู้บริโภคได้รับยาเกินขนาด และเกิดอันตรายจากการใช้ยาได้ ดังนั้น จึงเห็นสมควรให้มีการกำหนดมาตรฐานการแสดงชื่อสามัญทางยาของตัวยาสำคัญในทะเบียนตำรับยา ฉลากและเอกสารกำกับยาให้มีชื่อเดียวกัน    ตามแนวทางสากล กระทรวงสาธารณสุขจึงได้ออกคำสั่งกระทรวงสาธารณสุขที่ 455/2561 เรื่อง แก้ไข     ชื่อสามัญทางยาของตัวยาสำคัญในฉลากและเอกสารกำกับยาของทะเบียนตำรับยาแผนปัจจุบัน       (ฉบับที่ 2) ซึ่งได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ตั้งแต่วันที่ 24 เมษายน พ.ศ.2561 กำหนดให้แก้ไขทะเบียนตำรับยาแผนปัจจุบัน โดยให้แสดงชื่อสามัญทางยาของตัวยาสำคัญบนฉลากและเอกสารกำกับยาเป็นชื่อสามัญทางยาตามมาตรฐาน International Nonproprietary Names (INN) ให้ผู้รับอนุญาตผลิต นำเข้า หรือสั่งยาแผนปัจจุบันเข้ามาในราชอาณาจักร แก้ไขทะเบียนตำรับยาให้แล้วเสร็จภายใน 2 ปี นับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา คือภายในวันที่ 25 เมษายน พ.ศ.2562 เมื่อพ้นกำหนดแล้ว       กระทรวงสาธารณสุขจะดำเนินการเพิกถอนทะเบียนตำรับยาที่ไม่ได้ดำเนินการแก้ไขทะเบียนตามกฎหมายต่อไป ส่วนยาแผนปัจจุบันที่ผลิตขึ้นก่อนการแก้ไขทะเบียนนั้น ยังคงใช้ฉลากและเอกสารกำกับยาเดิมต่อไปจนกว่ารุ่นการผลิตนั้นจะสิ้นอายุ

รองเลขาธิการฯ กล่าวในตอนท้ายว่า อย.ขอให้ผู้ประกอบการผลิต นำเข้ายาแผนปัจจุบัน ดำเนินการแก้ไขทะเบียนตำรับยาให้แล้วเสร็จภายในเวลาที่กำหนด สำหรับผู้บริโภคควรรับประทานยาตามคำแนะนำ    ของแพทย์และปฏิบัติตามคำเตือนบนฉลากและเอกสารกำกับยาอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพ


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"