12 มี.ค.62 - นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา พร้อมด้วยนายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคและคณะ ลงพื้นที่เดินสายหาเสียงและปราศรัยช่วงโค้งสุดท้ายเพื่อไปช่วยผู้สมัครในพื้นที่ภาคใต้ จุดแรกที่ อ.หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เขตเลือกตั้งที่ 2 ของนายประนอม ละอองแก้ว เบอร์ 3 โดยช่วงเช้านายสุวัจน์ และคณะได้เดินเท้าแจกแผ่นพับแนะนำตัวผู้สมัคร ทักทายประชาชนสองข้างทาง บริเวณตลาดสดหอนาฬิกาและ ตลาดสดพลาซ่า ซึ่งเป็นสถานที่มีประชาชนเชื้อสายไทย - จีน อาศัยอยู่จำนวนมาก ต่างให้การต้อนรับทักทายด้วยรอยยิ้มและความสนใจตลอดเส้นทาง พร้อมมอบดอกไม้ให้กำลังใจ
จากนั้นนายสุวัจน์ พร้อมผู้สมัคร นั่งรถซาเล้ง ไปยังตลาดกิมหยง โดยนายสุวัจน์ ได้โชว์ฝีมือและลีลา "คั่วเกาลัด" ของทานเล่นที่ขึ้นชื่อของเมืองหาดใหญ่ ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนพ่อค้าแม่ค้าบริเวณดังกล่าวอย่างมาก ที่ต่างชื่นชมนายสุวัจน์ ที่แวะมาหาเสียงแล้วยังมาช่วยโปรโมทการท่องเที่ยวหาดใหญ่ให้เป็นที่รู้จักอีก ถือเป็นการลงพื้นที่หาเสียง เพื่อมาสร้างความมั่นใจถึงนโยบายของพรรคชาติพัฒนาว่าหลังการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 24 มี.ค.นี้ พรรคชาติพัฒนาพร้อมมาดูแลและพัฒนาเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในภาคใต้
นายสุวัจน์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีจุดยืนพรรคชาติพัฒนา หลังจากพรรคการเมืองใหญ่ต่างประกาศจุดยืนทางการเมืองว่า ขณะนี้ใกล้วันลงคะแนน ย่อมต้องมีการแสดงท่าทีของแต่ละพรรคการเมือง แต่สำหรับพรรคชาติพัฒนา ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประชาชน คือทางเลือกที่ดีที่สุด พรรคชาติพัฒนาให้ควมสำคัญกับความเรียบร้อยทางการเมือง อะไรที่จะทำให้เกิดปัญหาพรรคชาติพัฒนาจะไม่ทำ หรือไม่ให้เกิดขึ้น พรรคไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย ทำตามกฎกติกา และผลเลือกตั้งจากประชาชน คือ การตัดสิน ทางพรรคพร้อมทำทุกหน้าที่ในสภา จะได้กี่ที่นั่งไม่สำคัญ พร้อมทำงานรับใช้ประชาชน แต่เชื่อมั่นว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ที่นั่งในสภาไม่น้อยกว่าการเลือกตั้งครั้งก่อน
"การลงมาหาเสียงที่ภาคใต้ คนปักษ์ใต้ให้การตอบรับดีมาก เพราะพรรคชาติพัฒนา ไม่สร้างปัญหา เล่นการเมืองเดินสายกลาง จุดยืนทางการเมืองเหมาะสมกับสถานการณ์ในตอนนี้ เพราะความขัดแย้งทางการเมืองมีแต่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการลงทุน ดังนั้นการเมืองต้องนิ่ง ไม่ขัดแย้งกัน เพราะศักยภาพประเทศไทยไม่มีชาติใดสู้ได้ จึงขอโอกาสให้พรรคชาติพัฒนาได้ทำหน้าที่ ที่ต้องทำให้การเมืองนิ่ง" นายสุวัจน์ กล่าว
นายสุวัจน์ กล่าวว่านโยบายพรรคเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวภาคใต้ โดยเฉพาะราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ปาล์ม และ ยางพารา พรรคสนับสนุนให้จัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมและเขตเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อแปรรูปยางพาราเชิงอุตสาหกรรม ที่ปัจจุบันผลิตได้ปีละ 4 ล้านตัน แต่แปรรูปเป็นสินค้าอุตสาหกรรมเพียง 5 แสน เป็น ยางรถยนต์หรือถุงมือทางการแพทย์ มีมูลค่าสูงกว่ายางดิบหลายเท่าตัว ดังนั้นปริมาณยางพาราที่เหลือ 3.5 ล้านตัน หรือ 85% ต้องนำมาแปรรูปเป็นสินค้าอุตสาหกรรม หรือ ปาล์มน้ำมัน ต้องแปรรูปให้เป็นน้ำมันดีเซล หรือ ไบโอดีเซล เดิม บี 7 ต้องเพิ่มเป็น บี 20 หรือเพิ่มสัดส่วนน้ำไบโอดีเซล 13% ดังนั้นหากแปรรูปสินค้าเกษตรเป็นสินค้าอุตสาหกรรมได้จะทำให้ราคาขยับขึ้นอย่างแน่นอน
สำหรับการท่องเที่ยว จะเน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการท่องเที่ยวโดยเฉพาะการสร้างทางมอเตอร์เวย์พิเศษ ลงภาคใต้ เพราะปัจจุบันเส้นทางเลงใต้มีเพียงเส้นทางหลวงหมายเลข 4 หรือ ถนนเพชรเกษม จึงจำเป็นต้องสร้างทางสำรอง ถือเป็นการดึงดูดนักท่องเที่ยวและนักลงทุนมายังนิคมอุตสาหกรรมที่ภาคใต้ สำหรับการท่องเที่ยวทางทะเลต้องสนับสนุนโครงการพัฒนาการท่องเที่ยวในเขตพัฒนาการท่องเที่ยวฝั่งทะเลตะวันตก หรือ Thailand Riviera ตั้งแต่ ชะอำ จ.เพชรบุรี หัวหิน จ.ประจวบฯ ระยอง หรือ สมุย จ.สุราษฎร์ธานี ฯลฯ พร้อมกับสนับสนุนการก่อสร้าง มารีน่า ด้วยเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวทะเลฝั่งอ่าวไทย
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |