ถึงจะเป็นนักแสดงตลกแต่ชีวิตจริงไม่ตลก สำหรับ จั๊กกะบุ๋ม เชิญยิ้ม ที่มาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ว่าชีวิตพลิกผันจากคนที่เคยหาเงินได้เดือนละห้าแสนเป็นอย่างต่ำ ใช้ชีวิตหรูหรา กลับต้องติดลบมมีหนี้สิน กลายเป็นบุคคลล้มละลาย จนสุดท้ายต้องคิดสั้นฆ่าตัวตาย
“พีคสุดๆ ตอนนั้นวิ่งถ่ายละคร 4 เรื่อง ตอนนั้นอยากได้เงินและสนุกกับการทำงาน กลางวันทำงานถ่ายละคร กลางคืนร้องเพลงในผับ รวมรวมแล้วเดือนนึงได้ 5 แสน อย่างต่ำ ก็เป็นแบบนี้มาหลายปีเหมือนกัน ใช้เงินวันละแสนบางวันเกิน ผมเป็นคนชอบซื้อชอบสร้างอิมเมจให้กับตัวเอง สร้างสังคมให้กับตัวเอง ชอบซื้อเสื้อผ้า สนิทกับทุกแบรนด์ที่อยู่ในห้าง สามารถโทรไปให้เขาล็อกของให้โดยที่ไม่ต้องไปที่ชอป เสื้อผ้าตลาดนัดตอนนั้นใส่ไม่ได้
ตอนนั้นมันหลง หูอื้อตามืดตามัว มันคิดอะไรไม่ออก มันมีแต่ความฟุ้งเฟ้อ เพราะเงินหาง่าย ถ้าเรื่องหาเงินผมมีกำลังหาเงินได้เยอะ แต่ไม่เคยคิดว่าผมเหนือกว่าคนอื่น แต่เรื่องเงินผมมั่นใจว่าออกจากบ้านผมต้องได้เงินเท่าไหร่
จั๊กกะบุ๋มกับลูก
ชีวิตวัยเด็กเคยลำบาก ติดลบศูนย์ ผมเกิดและโตในสลัม พ่อแม่ไม่มีต้นทุนอะไร แล้วผมก็ดิ้นรนมาด้วยตัวเองตั้งแต่อายุ 8-9 ขวบ เริ่มเล่นตลกแล้ว ตอนนั้นก็ไม่ได้เงินเยอะ เราก็เล่นตลกและไม่เรียนหนังสือ จบ ป.6 เอง ตอนเด็กเอาเงินให้พ่อ แม่ ยังไม่รู้จักการใช้เงิน ได้มาเท่าไหร่ก็ให้แม่ แต่ช่วงวัยรุ่น เริ่มเข้าวงการ เริ่มเห็นอะไรที่มันกว้างขึ้น จากนั้นก็ควบคุมตัวเองไม่ได้ แต่คือไม่ได้ทิ้งนะครับ อยู่ด้วยกัน แต่ให้แบบยิบๆ ย่อยๆ ของในตู้เย็นแน่น ให้ตังค์บ้างแต่ไม่เยอะ เราเอาไปสร้างสังคมข้างนอก ลืมคิดถึงครอบครัว อยู่แบบนี้มาเป็น 10 ปี
ที่ชีวิตพลิกผันเพราะผมเป็นคนชอบทำ ชอบลงทุน และที่มาหมดจริงๆ ก็คือหมดกับร้านกาแฟ ซึ่งตอนที่เปิดร้านกาแฟก็เริ่มรู้ตัวแล้วว่าตัวเองจะดาวน์ลง แต่ยังมีเงินอยู่เป็นก้อนสุดท้าย หมดไปกับร้านกาแฟ 5 ล้าน แถวปากเกร็ด แค่เครื่องชงกาแฟก็ 3 แสน วันนึงขายได้ 8 แก้ว มันก็อยู่ไม่ได้ต้องปิดลง แต่ก็ยังไปต่ออีกเปิดร้านกาแฟอีกร้านที่หัวหิน ตอนนั้นขายดีมาก ขยายสาขาอีก ซึ่งอยู่ใกล้ๆกันมีแค่ตึกแถว 2 ห้องกั้นกลาง เห็นฝรั่งเยอะก็เลยเปิดร้านสเต็ก ผมเช่าตึกละ 3 หมื่น ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายลูกน้อง ตอนนั้นพอขายไม่ได้เลยมีโปรโมชั่นสเต็ก 9 บาท น้ำ 1 บาท มันหมดตัวมานานแล้วครับ แต่มันดื้อรั้น พอหามาได้อีกหน่อยเราก็คิดว่าเอาวะลองให้รู้ ตอนนั้นเราคิดว่าการเป็นนักแสดง ดารา ทำอะไรคนน่าจะให้ความสนใจ แต่เราคิดผิด จนต้องเอาของเก่ามาขาย พวกเสื้อผ้าแบรนด์ ผมเอาไปกองตลาดนัด ตัวประมาณ 20-60 บาท
มีเจ้าหนี้มาทวงเงินไหมเหรอ ผมไม่เปิดเสียงโทรศัพท์เป็นเดือน ผมนอนไม่หลับเลย ช่วงหนึ่งที่เป็นข่าวดัง ผมเริ่มซัพพอร์ตตัวเองไม่ไหว ก็เริ่มยืมคนข้างๆ เจ้าที่เป็นหลักแสนก็มี แต่เจ้าที่มีปัญหาก็คือ 5 หมื่น คือตอนนั้นผมเจ็บหนักมาจากหัวหินกลับมาอยู่กรุงเทพ งานไม่มี ขอความช่วยเพื่อนในวงการจนเขาไม่รับโทรศัพท์ผมแล้ว ตอนนั้นผมขอยืมเงินเขา เพราะไม่รู้จะของานยังไง บางคนไม่เชื่อว่าจะตกต่ำขนาดนี้ ไม่ช่วยเพราะไม่เชื่อก็มี และไม่ช่วยเพราะเราไม่คืนเขาก็มี เพราะว่าตอนนั้นมันไม่มีหนทางจริงๆ
ที่เป็นบุคคลล้มละลาย ตอนนั้นเป็นหนี้ประมาณ 3 ล้าน เจ้าหนี้จำหน้าไม่ได้แต่จำชื่อได้ คือตอนที่มีผมใช้จ่ายแบบไม่สนใจเรื่องบ้าน เรื่องรถ ตอนนั้นซื้อบ้าน ซื้อรถ แต่ไม่สนใจผ่อน เขาก็มายึดไป มีหนี้บัตรเครดิต มีหนี้บ้าน ทุกอย่างที่เป็นหนี้ผมมีหมด
ตอนนั้นชีวิตดิ่งสุดถึงขั้นฆ่าตัวตาย มันคิดอะไรไม่ออก นั่งย้อนถามตัวเองทำไมไม่เก็บเงิน ถ้าเก็บวันนั้น วันนี้จะมีเงิน 20-30 ล้านได้ ตอนนั้นครอบครัวแตกแยก เลิกรากันไป เมื่อก่อนลูกเรียนโรงเรียนเทอมละเป็นแสน ตอนนี้ก็ต้องลดเกรดลงมา ณ ตอนนั้นที่ให้ลูกเรียนแพงๆ ก็เพราะผมไม่มีโอกาสก็เลยอยากให้ลูกได้เรียนที่ดีๆ อยู่ในสังคมดีๆ ตอนนั้นเรามีก็ไม่ได้คิดอะไร แต่พอตอนที่เราไม่มีเงินส่งเสีย มันจะบอกว่าผมจมไม่ลงก็ได้ แต่ก็ต้องยอมให้ลูกลดตัวเองลงมาโดยที่เราส่งตามแบบกระท่อนกระแท่นของเรา ตอนที่ฆ่าตัวตาย ผิดหวังกับทุกอย่าง ชีวิตผมสำมะเลเทเมา เมาทุกวัน ผมกินเหล้าแบบหนัก ขับรถย้อนศร ขับรถขึ้นบันไดหน้าห้าง
วันที่ฆ่าตัวตาย ปกติผมขับรถเร็วอยู่แล้ว แล้ววันนั้นกะว่าถึงที่สุดแล้ว ไม่มีเป้าหมาย เมา แล้วมันเฮิร์ตกับความรู้สึกทุกอย่าง ไม่คิดอะไรแล้ว ขับรถแบบเร็วมาก มันเป็นภาวะคิดสั้น ผมกะจะชนอะไรก็ได้ เพราะผมขับมาเร็วมาก แต่ตอนนั้นรถลงข้างทาง ผมก็ลงจากรถแบบงงๆ แล้วโทรหาเพื่อนที่เป็นกู้ภัยบอกว่าให้มาเอารถขึ้นให้หน่อย ผมจะไปทำงาน ตอนนั้นเป็นช่วงเช้ามืดพอดี เรียกว่าเป็นฟ้าใหม่ของผมทำให้ผมคิดได้”
ขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจากอินสตาแกรม jukkabum99
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |