12 มี.ค.62-  นางธิดา ถาวรเศรษฐ กล่าวใน Facebook Live ถึงสถานการณ์การจัดการเลือกตั้งว่า น่ากังวล อันเนื่องมาจากสถานการณ์การเลือกตั้งล่วงหน้านอกราชอาณาจักร และเหตุการณ์ที่มีระเบิดในหลายพื้นที่ มันมีความน่ากังวลและบ่งบอกถึงความไม่เรียบร้อยที่จะเกิดขึ้น

"ขนาดเลือกตั้งล่วงหน้านอกราชอาณาจักร ซึ่งควรจะจัดการได้ง่าย เป็นการประสานกันระหว่างกระทรวงการต่างประเทศและกกต.กับจำนวนผู้มีสิทธิในระดับแสน ในวันที่ 17 มี.ค. เป็นการเลือกตั้งล่วงหน้าในจำนวนผู้ลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าระดับล้าน ดิฉันคิดว่ามันไม่เรียบร้อยแน่"

นางธิดาระบุว่าจากสถานการณ์การเลือกตั้งที่อาจจะเป็นอุปสรรคต่อการเลือกตั้งก็คือเรื่องของความไม่สงบ อันเนื่องมาจากสถานการณ์มีระเบิดที่สตูล หรือพัทลุง นี่เป็นเรื่องที่น่ากังวลซึ่งได้คุยกับพี่น้องประชาชนทางภาคใต้ เขาก็กังวลว่าจะมีเลือกตั้งหรือเปล่า? 50/50

ส่วนพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ บอกว่าให้เร่งติดตาม คาดว่าเป็นการกระทำของเครือข่ายของกลุ่มที่สูญเสียผลประโยชน์และต้องการทำลายความเชื่อมั่นของรัฐบาลนั้น กำลังสงสัยว่ากลุ่มไหนสูญเสียผลประโยชน์และต้องการทำลายความเชื่อมั่นของรัฐบาล ถ้าถามคนทางภาคใต้ คือคนที่มีปัญหากับรัฐบาล ขณะนี้เขาเข้าสู่วิถีการเลือกตั้ง เขาก็มัวแต่สนใจว่าพรรค ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเขาเป็นกองเชียร์พรรคประชาชาติ เขาก็ไปช่วยหาเสียง เขาไม่มีเวลามาวางระเบิดหรอก

"และสมมุติว่าเป็นพวกก่อกวนจริง ในทัศนะของดิฉันคิดว่าเขาก็ต้องรอดูว่าผลการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร และเขาก็คงไม่ต้องการที่จะให้ไม่มีการเลือกตั้ง ดังนั้นทุกฝ่ายที่ไม่ได้เป็นฝ่ายสนับสนุนรัฐบาล เขาอยากให้การเลือกตั้งครั้งนี้บ่งชี้ พูดตรง ๆ ว่าเขาอยากให้คสช.กลับบ้าน ให้ท่านนายกฯ กลับบ้าน จึงไม่มีเหตุอะไรที่เขาจะมาวางระเบิด" 

นางธิดากล่าวว่า  การจัดการเลือกตั้ง มีปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นที่กัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ผู้มาใช้สิทธิเลือกล่วงหน้าตั้งแค่ 4 พันกว่า แต่ทำคูหาเลือกตั้งไว้น้อยเกินไปเพียง 3 คูหา ท้ายที่สุดมีการนำลังกระดาษมาทำเป็นคูหาเพิ่ม มันน่าเกลียดมาก จนในเฟสบุ๊คมีคนเอาภาพการเลือกตั้งประธานนักเรียนมาเปรียบเทียบว่ายังดูดีกว่าการเลือกตั้งในระดับประเทศเสียอีก

นางธิดากล่าวว่า ไม่เพียงแต่เป็นการเลือกตั้งที่น่าเกลียดโดยใช้กล่องกระดาษแค่นั้น กลายเป็นว่าต้องเลือกถึง 2 วัน ซึ่งตามกฎหมายกกต.ต้องจัดการเลือกตั้งให้เสร็จภายใน 1 วัน จะมีข้อยกเว้นของต่างประเทศหรือเปล่า อันนี้ก็สุ่มเสี่ยงต่อการผิดกฎหมาย

"หรือความที่ว่า 8 ปีมันไม่ได้เลือกตั้ง เลยทำไม่เป็นหมดเลย กลายเป็นเด็กนักเรียนใหม่หมดเลย กระทรวงการต่างประเทศก็เคยชินกับการทำรัฐประหาร เคยชินกับการไม่มีการเลือกตั้ง และมีความสุขดีไหม โดยเฉพาะท่านรัฐมนตรี ดูท่านมีความสุขมาก ก็เลยทำให้คนในกระทรวงการต่างประเทศจัดการเลือกตั้งไม่เป็นค่ะ"

อีกปัญหาที่ชี้ให้เห็นเลยว่าการทำงานที่น่ากังวลของกกต. ยกตัวอย่างที่คุณไอติมเรียกร้องกกต.รับผิดชอบ เอกสารเลือกตั้งจัดหน้ากระดาษบกพร่อง อาจทำคนกาผิดเบอร์ คือมีภาพคน แล้วก็ภาพข้างบน แต่คุณไอติมหลานคุณอภิสิทธิ์กลายเป็นมาอยู่พรรคเพื่อไทย แล้วก็อีกคนจริง ๆ แล้วเขาอยู่พรรคอนาคตใหม่ แต่กลายเป็นพรรคพลังธรรมใหม่ ทั้งหมดนี้ นี่เป็นวิธีทำงานการจัดหน้าเอกสารก็คือ เขาเอารูปคนไว้ข้างบน ถัดมามีหมายเลข แล้วก็ชื่อ แล้วก็พรรค แต่การจัดหน้าเอกสารในการพิมพ์เพื่อให้รายละเอียดผู้สมัครมันควรจะมีการตรวจดูให้อยู่ในหน้าเดียวกันเนื่องจากครั้งนี้มีการเขียนเอาไว้ให้มันวิปริต ก็คือในพรรคเดียวกันแต่อยู่คนละเบอร์ มันก็เลยกลายเป็นเรื่องสับสนอลหม่านแล้ว ยังไม่พอ กกต.ยังพิมพ์เอกสารหน้าหน่วยให้ประชาชนเข้าใจผิดได้อีกด้วย

"ความผิดแบบนี้มันไม่ควรจะผิด  แล้วไอ้ที่หนักกว่านี้มันจะไม่ผิดหรือ แม้จะแก้ตัวว่าข้อมูลถูก แต่คุณไม่ให้ความสำคัญกับส.ส.แต่ละคนให้รายละเอียดอยู่ในกรอบเดียวกัน ทำให้ดิฉันรู้สึกไม่สบายใจว่าจะมีปัญหาอีกมากมาย ยกตัวอย่างเช่น การเลือกตั้งล่วงหน้าวันที่ 17 มี.ค. ผู้ลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าดูเหมือนจะเป็น 3 ล้านกว่านะ ดิฉันเห็นมีคนโวยวายแล้วว่าที่ลาดพร้าวมีคนลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าไว้ 5 หมื่น มี 3 คูหา"