'ประยุทธ์'ลั่นลงสนามรบถ้าแพ้คือตาย บอกเปลี่ยนลุคเพราะอยากหล่อ


เพิ่มเพื่อน    

11 มี.ค.62 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.30.น. ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เดินทางรับฟังการบรรยายของผู้แทนพิเศษระหว่างประเทศ เรื่องการเปลี่ยนแปลงโลก ซึ่งบรรยายโดย Mr Salim Ismail นักพูด นักเขียน การพัฒนาธุรกิจแบบก้าวกระโดด โดยไม่กำหนดการแจ้งแต่อย่างใด 

ทั้งนี้ เมื่อนายซาลิม ( Mr Salim Ismail ) บรรยายจบ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ขึ้นกล่าวบนเวทีว่า วันนี้ขึ้นมาพูด เพราะเป็นสัญญา ที่จะทำให้ทุกอย่าง ตนจะเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลงนี้ให้ได้ ถ้ามีโอกาสที่จะทำต่อไป ไม่ใช่หาเสียงทางการเมือง สิ่งที่ตนทำมา 4-5 ปีกำลังจะผลิดอกออกผล สิ่งที่ลงทุนจะเกิดอีก 5 ปีข้างหน้า ถ้าเริ่มต้นใหม่หรือกลับไปที่เดิมทั้งหมด ไม่มีทางอย่างที่คุณซาลิมพูด

พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวแซวนาย
ซาลิมว่า สิ่งที่คุณซาลิมพูดมีบางคำล่อแหลม โดยเฉพาะที่พูดว่า จำเป็นต้องเปลี่ยนผู้นำ เปลี่ยนฮิตเลอร์ ซึ่งตนเห็นว่าบางอย่างไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนมาก เพราะอยู่ตรงนี้ต้องมีอำนาจที่เด็ดขาด แต่ต้องใช้อย่างระมัดระวัง และต้องทำงานแบบพลังประชารัฐ ซึ่งไม่เกี่ยวกับพรรคใดทั้งสิ้น เพราะประชารัฐเกิดมาก่อน สิ่งสำคัญในวันนี้คือความร่วมมือของเราทุกคน และที่อยากกราบเรียนในสิ่งที่เรากังวลคือเศรษฐกิจระดับล่างที่ต้องมีความเป็นห่วงเท่าๆกัน ตั้งแต่วันแรกจนวันนี้ ยอมรับว่ายังไม่ดี แต่มันก็อยู่ที่ทรงสภาพ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า พวกเราระดับแกน ระดับหัวทั้งหมด ต้องช่วยกันขับเคลื่อน สร้างความเข้าใจให้ทุกคนพยายามเดินไปข้างหน้า ถ้าเราไม่สตาร์ทก้าวแรก ก้าวต่อไปก็ไปไม่ได้ อาจหกล้ม วันนี้เดินมาหลายอย่างแล้ว เราจะกลับไปที่เดิมหรือ ตนคิดว่าไม่ใช่ ตนไม่ได้ว่าทุกอย่างดีหมด 

"แต่ผมสัญญาว่า ถ้าเรามีโอกาสได้ทำต่อไป เช่นใน 3-4 เดือนข้างหน้า ผมจะทำให้มากและให้ดีที่สุด นั่นคือสัญญาของผม อย่าไปทวงสัญญา เรื่องโน้นเรื่องนี้ พอได้แล้ว ยังไงผมก็อยู่มา 5 ปีแล้ว สิ่งที่ผมพูดวันนี้ไม่เกี่ยวกับการเมือง พอแตะไปหน่อย ก้อเอาเชียว หัวเราะ เดี๋ยวผมก็โดนเขาด่าอีก"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า วันนี้ทุกอย่างจำไว้ ต้องเดินก้าวแรกเสมอ ซึ่งปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ถือเป็นสิ่งสำคัญในทุกกิจกรรม วันนี้ตนทำอนาคตให้พวกท่าน เพื่อให้ทุกคนได้มีอนาคต

"ผมอาจจะเป็นคนแบบนี้ เสียงดังโวยวาย แต่ผมทำและรับผิดชอบ เพราะผมเป็นทหาร ก็เป็นอย่างนี้และต้องทำให้สำเร็จ ถ้าไม่สำเร็จกลับบ้านไม่ได้ คำว่ากลับบ้านไม่ได้ คือถ้าอยู่สนาม อยู่ชายแดน ถ้ามีรบ มีปะทะ ถ้าแพ้ก็กลับมาไม่ได้ ก็ตายอย่างเดียว นั้นคือสิ่งที่ตั้งมั่นมาตลอด วันนี้ไม่ได้สู้กับใคร เราต้องหยุดความขัดแย้งให้ได้ อย่าไปใช้อารมณ์ อย่าใช้ความรู้สึก หลายคนบอกว่า ช่วงนี้นายกฯเปลี่ยนไป ผมไม่เคยเปลี่ยน ผมทะเลาะกับนักข่าวเท่านั้น เพราะคำถามของเขา ผมไม่เคยทะเลาะกับใคร อย่ารังเกียจผมนักเลย บางครั้งคนเรามีตัวตน อย่าไปบิดเบือนตัวเองมาก บางครั้งผม ก็มีอารมณ์ศิลปินบ้าง โมโหบ้าง เป็นอารมณ์ทหารบ้าง คือสิ่งในตัวผม แต่วันนี้พอลุคออกมาใหม่ ก็มองว่านี่ไม่ใช่ตัวตน ซึ่งบางครั้งผมก็อยากจะหล่อเหมือนกัน หลายคนก็แต่งเนื้อแต่งตัวให้สบายๆ ผมก็อยากเป็นบ้าง ให้อภัยผมเถอะ ช่วงนี้สำคัญอย่างยิ่ง เราอย่าไปเสียอารมณ์หงุดหงิดกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง หรือตอบคำถามที่ไม่เกิดประโยชน์ผมก็ไม่ตอบ ผมนิสัยเสียชอบตอบ นี่คือข้อเสียมีอย่างเดียวชอบตอบคำถาม และอดไม่ได้ที่จะโมโห ผมต้องแก้อีกมาก แต่ผมมาแบบนี้ผมหยุดไม่ได้ หยุดคิด หยุดทำงานไม่ได้ ซึ่งก็แล้วแต่ประเทศไทย ก็ไม่รู้เหมือนกันแล้วแต่พวกท่าน"พล.อ.ประยุทธ์กล่าว 

พล.อ.ประยุทธ์ ถามผู้รับฟังด้วยว่า ในนี้สังเกตมีคนไม่ยิ้ม ตนไม่เข้าใจว่าเป็นอะไร ไม่ชอบตนหรือเปล่าแต่อยากรู้สาเหตุว่าทำไมไม่ยิ้ม เวลาคนอื่นพูดยิ้มกัน ชีวิตไม่ได้ยาวเกินไป ต้องหาความสดชื่นดูบ้าง ยิ้มไว้เมื่อภัยมา ยิ้มไปเถอะยิ้มสยาม อย่าให้เป็นยิ้มสยอง ต้องยิ้มให้ทุกคนมีความสุข เราจะอดกลั้นอย่างไรก็ต้องฝืนยิ้มไว้ ตนพยายามเต็มที่ ถ้ามันมีคำถามที่กวนใจทุกครั้ง ตนไม่ใช่ศัตรู แต่วันนี้ลุคตนออกมาอย่างนั้น เป็นคนอารมณ์รุนแรง ขี้โมโห ตนพูดไม่เสียตังค์ ไม่ต้องมาจ้าง แต่ขอถามคุณซาลิมว่าเชื่อมั่นตนหรือไม่ ซึ่งนายซาลิม ตอบว่า จะพยายามเชื่อ 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"