10 มี.ค.2562 – จากกรณีนายต่อตระกูล ยมนาค คณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวสั้นๆ ว่า  ไม่น่าเชื่อว่า ธนาธร จะพูด ประโยคนี้ออกมา ผมเลยต้องไปค้น ปรากฏว่า มีคำพูดนี้ ตอบคำถามนักข่าวจริงๆครับ เลยต้องแชร์ พร้อมแนบลิงค์ https://m.facebook.com/permalink.php?story_fbid=238472873519556&id=181802989186545 ซึ่งเมื่อคลิกเข้าไปจะพบว่าเป็นเพจแฟนบุ๊ก “มนุษย์สรุปคลิป” ซึ่งน่าจะเป็นแฟนและติ่งของพรรคอนาคตใหม่ โดยเฉพาะนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่

โดยเนื้อหาดังกล่าวได้มีการแกะคำให้สัมภาษณ์ของนายธนาธรในหัวข้อเปิดอก “ธนาธร” อนาคตใหม่ในเงาเพื่อไทย ทางช่องเนชั่นเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2561 ซึ่งดำเนินรายการโดยเอกรัฐ ตะเคียนนุช และเพจมนุษน์สรุปคลิปแกะเนื้อหาออกมาเผยแพร่เมื่อวันที่ 18 ส.ค.2561 ดังนี้ 

ธนาธร : คตส. ดังนั้นผมยืนยัน คุณทักษิณต้องถูกกลับมาดำเนินคดี แต่ก็ต้องคืนความเป็นธรรมให้กับคุณทักษิณด้วย ถูกกลับมาดำเนินคดีด้วยกระบวนการที่ยุติธรรม ที่เที่ยงธรรม เป็นจริงและเป็นกลาง ไม่ใช่กระบวนการยุติธรรม ที่มีธงไว้ล่วงหน้าแล้ว ว่าจะเอาเค้าผิดให้ได้
เอกรัฐ : ถ้าคุณทักษิณต้องกลับมา คุณธนาธรบอกว่า เกิดขึ้นจากเริ่มต้น สำนวนเกิดขึ้นจาก คตส. ที่ตั้งโดยคณะรัฐประหารถูกต้องใช่ไหม
ธนาธร : ใช่
เอกรัฐ : ถ้าอย่างนั้น กรณีของคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คดีรับจำนำข้าวเกิดขึ้นในสภา ตั้งแต่ตอนนั้นจะต้องกลับเข้ามา...
ธนาธร : คดีรับจำนำข้าวต้องเรียนว่า จนถึงตอนนี้ เป็นความผิดในด้านเทคนิคทั้งหมด เป็นความผิดในด้านเทคนิค ถ้าคุณไปอ่าน ไม่มีข้าราชการ ไม่มีอะไรโดนคดีก่อนเลยถูกไหม? แล้วนายกจะโดนคดีทุจริตได้ยังไง? ถ้าคุณบอก ว่าคุณยิ่งลักษณ์นี่ปล่อยปละละเลย หมายความว่าข้างล่างต้องมีคดีทุจริต จนถึงวันที่คุณยิ่งลักษณ์โดนคดี ไม่มีใครโดนคดีทุจริตนะ แล้วคุณก็ไปบอกว่าข้างบน ดังนั้นข้างบนทำผิดใช่ไหม...
ดังนั้นคดีที่เกิดขึ้นกับคุณยิ่งลักษณ์ ก็ต้องบอกว่าเป็นคดีการเมือง นี่คือชัดมาก คดีของคุณยิ่งลักษณ์คือคดีการเมือง มีวัตถุประสงค์ทางการเมืองมากกว่าวัตถุประสงค์เรื่องความยุติธรรม
เอกรัฐ : แต่คุณยิ่งลักษณ์เกิดขึ้นตั้งแต่ในสมัยการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภา แสดงว่า..คุณธนาธรบอกเชื่อมันในระบบการตรวจสอบจากสภา แต่ในคดีคุณยิ่งลักษณ์เริ่มต้นจากการอภิปรายในสภาแล้วส่งสำนวนให้ประธานวุฒิสภาไปที่ ป.ป.ช. นะ
ธนาธร : ใช่
เอกรัฐ : เชื่อมั่นตั้งแต่ตอนนั้นไหม สรุปเชื่อมั่นหรือไม่เชื่อมั่น?
ธนาธร : เชื่อมั่นเรื่องอะไร?
เอกรัฐ : เรื่องการตรวจสอบตั้งแต่ในสภา
ธนาธร : คืออย่างนี้ ก็ต้องบอกว่ากรณีของคุณยิ่งลักษณ์นี่ มันเป็นคดีที่มีธงทางการเมือง เพื่อจะไปสู่ความผิดทางการเมืองใช่ไหม ดังนั้นถ้าไปดูสำนวน ไปดูอะไรทั้งหมด ที่แม้แต่สำนวนจะเปิดฟังเป็นสุดท้ายแล้ว จนถึงคุณยิ่งลักษณ์หนีไป ไม่ได้บอกว่าคุณยิ่งลักษณ์ทุจริต มันเป็นเรื่องเทคนิคเล็กๆน้อยๆเท่านั้นเอง 
ดังนั้นจะเห็นได้เลย ว่าเวลาคุณไปขายประชาชน ไปบอกประชาชน ว่าคุณยิ่งลักษณ์ทุจริต หรืออะไรนี่ มันไม่ได้...สำนวนที่สรุป ว่าคุณยิ่งลักษณ์ผิด ไม่ได้พูดถึงตรงนั้นเลย
เอกรัฐ : (แทรก) คุณธนาธร...
ธนาธร : ขออนุญาตฮะ..ที่นี้ ปัญหาคืออย่างนี้ ปัญหาคืออย่างนี้ ว่าเพื่อไทยนี่มีปัญหาจริงๆ
เอกรัฐ : ยอมรับ?
ธนาธร : อะไรนะ?
เอกรัฐ : ยอมรับว่ามีปัญหา?
ธนาธร : มันไม่ใช่ยอมรับ-ไม่ยอมรับ ผมไม่ใช่คนเพื่อไทย ผมกำลังวิพากษ์วิจารณ์เพื่อไทย ดังนั้นผมไม่มีความจำเป็นจะต้องยอมรับ หรือไม่ยอมรับ ผมกำลังวิพากษ์วิจารณ์พรรคเพื่อไทย 
พรรคเพื่อไทยมีปัญหาจริงๆ ปัญหาของพรรคเพื่อไทย ก็คือการที่ไม่เปิดรับความเห็นจากแกนนำระดับบน ดังนั้นทำให้การเป็นพรรค การเป็นสถาบันของพรรคเพื่อไทยไม่แข็งแรงเท่าที่ อย่างที่ควรจะเป็น
ในจังหวะที่พรรคเพื่อไทย มีเสียงเรียกร้องจากสมาชิกพรรคเพื่อไทยจำนวนมาก ให้ทำอะไรบางอย่าง พรรคเพื่อไทยก็ไม่ได้ทำในสิ่งที่ควรจะทำ แล้วก็ไปทำในสิ่งที่สมาชิกพรรคไม่เห็นด้วย อย่างเช่นเมื่อกี้พูดถึงเรื่องนิรโทษกรรมสุดซอย อย่างเช่นอย่างนั้นเป็นต้น
ดังนั้นนี่ก็คือปัญหาของพรรคเพื่อไทย พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคที่มีปัญหาจริงๆ อันนี้ก็ต้องยอมรับ
แต่ในขณะเดียวกัน ในประวัติศาสตร์ของพรรคเพื่อไทย ก็เป็นพรรคที่มีคุณูปการ ได้ทำสิ่งต่างๆให้เกิดความก้าวหน้าในเชิงนโยบายในประเทศไทยหลายประการ ก็ต้องยอมรับ ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับเพื่อไทย
เอกรัฐ  : ถ้าฐานเสียงเดียวกันของอนาคตใหม่ ฐานเสียงเดียวกันกับเพื่อไทยไหม?
ธนาธร : ไม่ใช่ ทั้งใช่และไม่ใช่ ผมเรียนอย่างนี้ดีกว่า ประชาชน 64 ล้านคน คือฐานเสียงของเราทั้งหมด เราเป็นพรรคใหม่เดินไปที่ไหน ก็มีแต่ฐานเสียงของคนอื่น เดินไปกรุงเทพก็มีแต่ฐานเสียงของคนอื่น เดินไปอีสานก็มีแต่ฐานเสียงของคนอื่น เดินไปภาคใต้ก็มีแต่ฐานเสียงของคนอื่น
ดังนั้นผมสามารถพูดได้เต็มปาก ว่าฐานเสียงที่มีอยู่ในประเทศ เราเปิดอ้าแขนรับสำหรับคนทุกกลุ่มคน ไม่ว่าจะเป็นคนรุ่นใหม่ คนวัยกลางคน หรือคนสูงอายุ
ไม่ว่าจะเคยใส่เสื้อแดงมาก่อน หรือเคยใส่เสื้อเหลืองมาก่อน สำหรับคนเสื้อเหลือง ผมก็บอก ว่าผมชักชวนให้ทุกท่านกลับมาเชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตยอีกครั้งหนึ่ง กลับมาเชื่อมั่นในระบอบรัฐสภาอีกครั้งหนึ่ง
สำหรับคนเสื้อแดง ผมก็บอก ว่าถ้าคุณอยากเห็นความเท่าเทียม อยากเห็นประชาธิปไตย เราเสนอตัวและชักชวนคุณมาผลักดันทำด้วยกัน
สิ่งที่ผมเห็นคืออย่างนี้ ผมเห็นว่าประชาชนไทยถูกหลอกให้เชื่อ ว่าความขัดแย้งที่ผ่านมาเป็นความขัดแย้ง...
เอกรัฐ : (แทรก)จากใครครับ?
ธนาธร : อะไรนะ จากกลุ่มอภิชนที่ดำรงอยู่ในสังคม จากชนชั้นนำ ที่ผูกขาดอำนาจทางเศรษฐกิจและการเมือง
เราถูกหลอกให้เชื่อ ว่าประชาชนมี 2 กลุ่ม คู่ขัดแย้งที่ผ่านมาคือประชาชนกับประชาชน จริงๆไม่ใช่ ผมยืนยันว่าไม่ใช่ แล้ววันนี้ความขัดแย้งมันก็ดำเนินมาถึง ในระดับที่ความจริงมันออกมาแผ่ให้สังคมทั้งสังคมเห็นแล้ว ว่าความขัดแย้งที่ผ่านมา ไม่ใช่ประชาชนกับประชาชน แต่เป็นประชาชนกับกลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง ที่กุมอำนาจทางเศรษฐกิจทางการเมืองของคนทั้งประเทศไว้
ติดตามตอนต่อไป....รับชมคลิปได้ที่ https://www.facebook.com/ThanathornOfficial/