9 มี.ค.62 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 10.30 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมทีมเศรษฐกิจของพรรค อาทิ นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ , นางการดี เลียวไพโรจน์, นายเกียรติ สิทธีอมร, นายอลงกรณ์ พลบุตร, นายศุภชัย ศรีหล้า, นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี,นายธราดล เปี่ยมพงษ์ศาสน์, นายกรณ์ จาติกวณิช แถลงถึงนโยบายด้านเศรษฐกิจ “10 จุดเปลี่ยนเศรษฐกิจไทย สร้างชาติ”
โดยในการแถลงพรรคมีนโยบายที่สำคัญๆ 10 เรื่อง ประกอบด้วย 1.ปรับกระบวนทัศน์ด้านเศรษฐกิจ ผ่านการใช้ดัชนีชี้วัดความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจที่เรียกว่า "ปิติ" ซึ่งวัดความก้าวหน้าผ่านมิติเศรษฐกิจ, มิติด้านสังคมที่สะท้อนจากคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และมิติด้านสิ่งแวดล้อม แทนการวัดตัวเลขผ่านดัชนีมวลรวมของประเทศ (จีดีพี) เท่านั้น
2.เร่งรัดโครงการด้านคมนาคม ได้แก่ โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าทุกสีทุกสายในพื้นที่กทม. รวมระยะทาง 225 กิโลเมตร นอกจากนั้นจะลดราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าที่ลงทุนโดยรัฐ 15 บาทตลอดสาย รวมทั้งสถานีบางใหญ่ถึงสถานีหัวลำโพง เดิมราคา 70 บาท ให้เหลือ 43 บาท และสถานีบางใหญ่ถึงสถานีเตาปูน จาก 52 บาท เหลือ 42 บาท นอกจากนี้จะสานโครงการรถไฟความเร็วสูง สายนครราชสีมา ถึง หนองคาย เพื่อเชื่อมต่อรถไฟจากประเทศลาว และประเทศจีน รวมถึงเชื่อมต่อไปยังด่านปาดังเปซาร์ และประเทศสิงคโปร์, โครงการรถไฟรางคู่ นอกจากนั้นระบบขนส่งจะพัฒนาเพิ่มเติม คือ โมโนเรล อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เป็นต้น เพื่อเพิ่มโอกาสการแข่งขันของประเทศ ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน รวมถึงลดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม
3.ปฏิรูปงานราชการ และภาครัฐ ผ่านการใช้เทคโนโลยียกระดับงานบริการให้กับประชาชน นอกจากนั้นปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับภาครัฐ รวมถึงเชื่อมโยงกลุ่มสตาร์ทอัพเข้ากับงานภาครัฐ, 4.นโยบายปฏิวัติเขียว เพื่อปฏิวัติอุตสาหกรรมของไทยให้มีบทบาทในเวทีโลก อาทิ ให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางหรือส่วนสำคัญของอุตสาหกรรมผลิตยานยนต์ไฟฟ้า, ต่อยอดและพัฒนาให้ไทยเป็นศูนย์อุตสาหกรรมอาหาร, เชื้อเพลิง, ยา, อาหารเสริม, เวชสำอาง รวมถึงบรรจุภัณฑ์ ทั้งนี้การพัฒนาอุตสาหกรรม จะปรับกองทุนที่มีอยู่ เช่น กองทุนเอสเอ็มอี 2หมื่นล้านบาท ให้สอดคล้องกับนโยบาย รวมถึงทำโครงการให้ภาครัฐร่วมลงทุนกับเอกชน ด้านเทคโนโลยี เป็นต้น
5.ยกระดับเศรฐกิจสร้างสรรค์สู่การพัฒนาที่ยั่งยืนผ่านเทคโนโลยีสมัยใหม่ 6. สร้างเกษตรกรรุ่นใหม่ และส่งเสริมเกษตรกรแบบสมาร์ทฟาร์ม เพื่อให้เป็นศูนย์รวม หรือ สหกรณ์ (MODERN CO-OP) ที่รวมปัจจัยด้านการผลิตยุคใหม่ที่ทันสมัย เช่น รถไถ, โรงบ่ม กระจายอยู่ในพื้นที่ รวมถึงทำหน้าที่ตัดพ่อค้าคนกลาง และมีการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร เพื่อยกระดับภาคเกษตรกรให้เป็นจุดเปลี่ยนของเศรษฐกิจ
7. ปี 2562 พรรคประชาธิปัตย์ประกาศให้เป็น ปีแห่งการแก้หนี้ 3 ประเภท คือ 1.หนี้เกษตรกร จะปรับแนวทางของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ ( ธกส. ) ไม่ยึดที่ดินทำกินของเกษตรกรที่เข้าโครงการ, แก้ปัญหาหนี้ระบบ ผ่าน 4 ธนาคารรัฐ ออมสิน, อิสลามแห่งประเทศไทย, ธอส. ธกส. ในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมถึง 8 แสนราย และแก้หนี้บัตรเครดิต โดยขณะนี้พรรคได้ร่าง พ.ร.บ.บัตรเครดิต ที่จะแก้ไขเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับลูกหนี้เรียบร้อยแล้ว
8.จัดโครงการสร้างเงินออมให้ประชาชน อาทิ ให้บริษัทเอกชนที่มีพนักงานเกิน 5 คนขึ้นไป ให้มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และมีโครงการเงินออมเพื่อประชาชน ผ่านการจ่ายเงินเดือนละ 100 บาท
9.ปรับโครงสร้างภาษีเพื่อสร้างความเป็นธรรมให้ประชาชนทุกกลุ่ม รวมถึงเก็บภาษีจากกลุ่มธุรกิจข้ามชาติ และ10.นโยบายเกี่ยวกับการเมืองสุจริตนั้น จะเตรียมเปิดก่อนวันที่ 24 มีนาคม
ด้านนายกรณ์ กล่าวว่า นโยบายที่พรรคนำเสนอจะใช้เงินที่เพิ่มจากงบประมาณ จำนวน 3.9 แสนล้านบาท ทั้งนี้ ในปี 2563 พรรคประเมินว่าจะมีวงเงินงบประมาณโดยรวม 2.7 ล้านล้านบาท โดยมีรายจ่าย โดยรวม 2.9 ล้านล้านบาท ดังนั้น ตามนโยบายของพรรคเพื่อแก้จนและสร้างคนจะต้องใช้เงินรวม 5.9 แสนล้านบาท ซึ่งตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องสามารถทำได้ โดยไม่ขัดกับกฎหมาย
นายกรณ์ กล่าวอีกว่า พรรคจะทบทวนรายจ่ายของรัฐบาล เช่น งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉิน ซึ่งรัฐบาลปัจจุบันตั้งงบไว้จำนวน 9 หมื่นล้านบาท จะลดลงให้เหลือ 4หมื่นล้านบาท รวมถึงทบทวนความซ้ำซ้อนด้านนโยบาย
"สิ่งสำคัญ คือ การปฏิรูประบบภาษีให้เป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยผู้มีรายได้สูงและมีที่ดิน ต้องเสียภาษีที่ดินหรือทรัพย์สินที่ดินตามการประเมินราคาตลาดที่แท้จริง รวมถึงจะเก็บภาษีจากธุรกิจในตลาดหลักทรัพย์ ด้านภาษีเงินได้ บุคคลที่มีเงินต่ำกว่า 2 ล้านบาทต่อปี จะเสีย 20 เปอร์เซ็นต์ รวมทั้งเราจะส่งเสริมด้านการออม ขณะที่ผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดกลาง พรรคจะขยายฐานภาษีเพื่อให้ธุรกิจเติบโต และจะลดการเก็บภาษีให้เหลือเพียง 10 เปอร์เซ็นต์ ส่วนกลุ่มธุรกิจข้ามชาติที่ได้รับผลประโยชน์จากเทคโนโลยีในธุรกิจประเภทใหม่ ต้องเสียภาษีการค้า และภาษีมูลค่าเพิ่ม สำหรับประชาชนที่มีรายได้น้อย พรรคเตรียมทำนโยบายด้านสวัสดิการขั้นนพื้นฐานถ้วนหน้าอย่างยั่งยืน” นายกรณ์ กล่าว
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |