9 มี.ค.62 - นายนคร มาฉิม ผู้สมัครส.ส.พรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊ก โดยมีเนื้อหาดังนี้ 

การเลือกตั้งทางยุทธศาสตร์ ที่คนไทยต้องตัดสินใจอนาคตของตนเอง

ผมเคยนำเสนอต่อพี่น้องประชาชนหลายครั้ง นี่ มันคือสงครามระหว่าง สองระบอบคือระบอบประชาธิปไตย กับ ระบอบเผด็จการ

ระบอบประชาธิปไตยมีพรรคการเมืองที่ต่อสู้และยืนหยัดในอุดมการณ์เพื่อประชาชนและประชาธิปไตย มีพรรคเพื่อไทยเป็นทัพหลวง มีพรรค ไทยรักษาชาติ พรรคเพื่อชาติ พรรคอนาคตใหม่เป็นแนวร่วมฝ่ายประชาธิปไตย

ส่วนพรรคการเมืองที่ทั้งแสดงตัวตนอย่างเปิดเผย หรือ กั๊กไว้ ไม่ยอมประกาศจุดยืนต่อประชาชนว่าจะสนับสนุนให้ พวกเผด็จการที่ยึดอำนาจปล้นอำนาจของประชาชนไปเป็นนายกรัฐมนตรีอย่างเปิดเผย รอผลการเลือกตั้งก่อนแล้วค่อยประกาศว่าจะเอาใครเป็นนายกรัฐมนตรี พวกนี้คือพรรคการเมืองฝ่ายเผด็จการและแนวร่วมฝ่ายเผด็จการ โดยไม่ต้องสงสัย

สภาพการณ์ปัจจุบันฝ่ายประชาธิปไตยมีจำนวนมวลชนสนับสนุนเป็นจำนวนมาก เพราะคนไทยจำนวนมากรู้ทันเล่ห์เหลี่ยม กลโกง เครือข่ายเผด็จการ ตั้งแต่เผด็จการระดับตัวเล็กๆ จนถึงจอมเผด็จการ ที่มีทั้ง นายทุน ขุนศึก ศักดินา อำมาตย์ ข้าราชการระดับสูง องค์กรอิสระ และกระบวนการยุติธรรม เพื่อใช้เป็นเครื่องจักรสังหารระบอบประชาธิปไตย และ พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย ที่ทรงพลานุภาพมากที่สุด มีกฎหมายห้ามวิพากษ์วิจารณ์ ห้ามโต้แย้ง ใครไม่สยบยอม มีโทษจำคุก 

พวกเขาสมประโยชน์กัน เกื้อกูลกันและกัน สมคบคิดกัน ยึดอำนาจ ปกครองประเทศและ ปกครองประชาชน เสวยสุขมายาวนาน เพื่อรักษาอำนาจและการปกครองของพวกเขาไว้ แม้จะทำรัฐประหาร ปล้นอำนาจ ฆ่าประชาชน ทำลายอำนาจของประชาชน ยุบพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยทิ้ง พวกเขาทำได้หมด โดยไม่สนใจต่อสังคมโลก ที่เขามองดูคนไทยและประเทศไทยที่กำลังถูกฝ่ายเผด็จการและเครือข่ายเผด็จการทำลายล้าง อย่างน่าสังเวชใจ และคาดหวังที่จะมองเห็นว่าคนไทยจะกล้าหาญลุกขึ้นอย่างกล้าหาญ ทรนง ยืนตัวตรง เรียกร้อง ต่อสู้ให้ได้มาซึ่งสิทธิเสรีภาพและประชาธิปไตย

ตั้งแต่การยึดอำนาจ ได้สำเร็จ ตามทฤษฎีสมคบคิดเมื่อ 22 พฤษภาคม 2557 พวกเผด็จการได้ส่งคนในเครือข่ายเผด็จการเข้ายึดครอง ใน แม่น้ำ 5 สาย ทั้ง คสช. ค.ร.ม. สนช. สปช/ สปท และ กรธ. ออกกฎหมาย และ กติกา ของเผด็จการ โดย เผด็จการ และ เพื่อ เผด็จการเท่านั้น ไม่ได้เป็นกฎ กติกาที่เป็นประชาธิปไตยของประชาชน โดยประชาชนและเพื่อประชาชนเลยแม้แต่น้อย ตามทฤษฎีและหลักการสากลเขาถือเป็นกฎของโจร ไม่ถือเป็นกฎหมาย

เมื่อการต่อสู้ ในโค้งสุดท้ายที่จะมีการเลือกตั้ง ฝ่ายเผด็จการก็รู้ว่า หากปล่อยให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความสุจริตและเที่ยงธรรม แผนการสืบทอดอำนาจของระบอบเผด็จการอาจจะสะดุดไม่เป็นไปตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ และหากฝ่ายประชาธิปไตยชนะการเลือกตั้งเป็นรัฐบาลของประชาชน อาจจะเอาคืน และยึดทรัพย์สินที่โกงไปจากประชาชนคืนให้แผ่นดิน อาจจะติดคุกจากการกระทำผิดต่อประชาชนและประเทศชาติได้ เพราะประชาชนตื่นรู้ และมองเห็นความจริงหมดแล้ว

การยึดอำนาจด้วยปืน และรถถัง สามารถสยบประชาชนเพียงช่วงเวลาหนึ่ง แต่เพราะรัฐบาล เผด็จการ คสช. ปกครองนานเกินไป เกือบ 5 ปี ก่อแต่ความเดือดร้อน ทุกข์ยาก ลำบาก แร้นแค้น ต่อประชาชน ประชาชนส่วนใหญ่จึงไม่นิยมชมชอบรัฐบาลเผด็จการ พวกเผด็จการจึงใช้กลโกงทุกอย่าง ทุกรูปแบบ และเอาเปรียบทุกวิถีทางเพื่อให้ตนเองชนะการเลือกตั้ง แต่พอสำรวจความนิยม พรรคการเมืองฝ่ายเผด็จการก็ยังไม่สามารถชนะ การเลือกตั้งได้ จึงจำเป็นต้องใช้องค์กรอิสระและกระบวนการยุติธรรมทำลายพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยทิ้งบางส่วน เพื่อไม่ให้ฝ่ายประชาธิปไตยมีเสียง สส. เพียงพอจะจัดตั้งรัฐบาล

ศึกสงครามครั้งนี้ จึงเป็นแค่เพียงการปะทะกันของทัพหน้า ซึ่งดูเหมือนพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยจะเพลี่ยงพล้ำ ถูกองค์กรอิสระและกระบวนการยุติธรรมในนามของกฎหมายยุบทำลายพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยทิ้งไป

และ อาจจะมีอีกหลายๆพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยที่กำลังถูกเสนอให้ถูกยุบ ในนามกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมที่ โจรเผด็จการตั้งขึ้น และระบบราชการ องค์กรอิสระและกระบวนการยุติธรรมก็สยบยอมน้อมรับกฏของโจรมาบังคับใช้เพื่อเข่นฆ่าประหัตประหารประชาชนและประชาธิปไตยโดยดุษฎี

จึงอยากตั้งเป็นข้อสังเกตไว้เป็นเบื้องต้นว่า หากฝ่ายประชาธิปไตยต่อสู้ในกฎ กติกาที่ฝ่ายเผด็จการเป็นผู้กำหนด โอกาสชนะคงจะไม่มี ฝ่ายประชาธิปไตยคงจะต้องเป็นผู้กำหนดเกมส์แห่งสงครามเท่านั้น จึงจะมีโอกาสชนะ

การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 24 มีนาคมนี้ จึงอยู่ที่ประชาชนเจ้าของประเทศว่า จะเลือกพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย หรือจะสยบยอมรับใช้เผด็จการโดยเลือกพรรคการเมืองฝ่ายเผด็จการ ให้ชนะการเลือกตั้งแล้วฟอกขาวสืบทอดอำนาจเผด็จการต่อไป จึงเป็นการเลือกตั้งทางยุทธศาสตร์ และสำคัญที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์การเมืองไทย 

ขอให้พ่อ แม่ พี่ น้องประชาชนคนไทย จงใช้วิจารณญาณของทุกท่าน พิจารณาอย่างละเอียดรอบด้าน เรียนรู้ อดีต ปัจจุบัน และอนาคต ว่าพวกเราจะพาประเทศไทย และ คนไทย เดินไปสูประชาธิปไตยที่เป็นอารยะ มีสิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดรภาพเจริญรุ่งเรือง เพื่อประชาชนคนไทยและลูกหลานของท่านทุกคน หรือ จะหมอบคลานกราบเท้าของเผด็จการให้คนไทยเป็นทาส ไพร่ชั่วลูกชั่วหลานอยู่ที่ท่านทุกคน

กฎของสงคราม ผู้ชนะย่อมเป็นผู้ปกครอง

กฏการต่อสู้ มีเพียงข้อเดียวที่จะทำให้คุณชนะ คือ ห้ามยอมแพ้

ขอผองเพื่อนร่วมอุดมการณ์ฝ่ายประชาธิปไตย จงอย่าอ่อนแอ จงอย่าสยบยอม จงพร้อมกันลุกขึ้นยืนอย่างทรนง สู้ด้วยสติปัญญา ล้มระบอบเผด็จการในโอกาสที่จะถึงนี้ และชนะสงครามไปด้วยกันครับ 

ดังวลีอันเป็นอมตะของ โทมัส เจฟเฟอร์สัน อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาว่า เมื่อความอยุติธรรมเป็นกฎหมาย การต่อต้านจึงเป็นหน้าที่.