9 มี.ค.62 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่ จ.อุดรธานี โดยมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานยุทธศาสตร์ภาคอีสาน นำทีมแกนนำพรรค ได้แก่ นายอนุชา นาคาศัย ประธานยุทธศาสตร์ภาคกลาง และ นายเอกราช ช่างเหลา กรรมการยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง, นายสุรพร ดนัยตั้งตระกูล กรรมการบริหารพรรค เพื่อช่วยผู้สมัคร ส.ส.พื้นที่ จ.อุดรธานี พรรคพลังประชารัฐ ทั้ง 8 เขตเลือกตั้ง หาเสียง เมื่อวานนี้
จากนั้น ในเวลา 18.00 น. เวทีปราศรัยบริเวณตลาดอุดรเมืองทอง ไ โดยมีประชาชนในพื้นที่จ.อุดรธานี เข้าร่วมจนล้นพื้นที่จัดงานปราศรัยที่จัดไว้รองรับประชาชนกว่า 1 หมื่น คน
โดยนายสุริยะ นำปราศรัยบนเวที พร้อมประกาศปลดหนี้ให้กับประชาชนที่เป็นหนี้กองทุนหมู่บ้าน ผ่านนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ คือ พักหนี้กองทุนหมู่บ้าน และยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน ผ่านการตั้งกองทุนประชารัฐ หมู่บ้านละ 2 ล้านบาท โดยหลังการเลือกตั้งไม่เกิน 4 เดือนหากพรรคพลังประชารัฐเป็นรัฐบาลจะจัดตั้งกองทุนประชารัฐให้ประชาชนใช้เป็แหล่งกู้เงินได้ทันที ขณะเดียวกันพรรคพลังประชารัฐจะต่อยอดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และเพิ่มเงินในบัตร ให้มียอดสูงถึง 1,000 บาท โดยผู้ที่ยากจนและไม่ได้รับบัตรประชารัฐจะเร่งสำรวจให้ครอบคลุมประชาชนที่ยากจน ขณะที่เกษตรกรนั้นพรรคมีนโยบายยกระดับคุณภาพชีวิต ด้วยการการันตีราคาสินค้า รวมถึงมีนโยบายช่วยเหลือเกษตรกร โดยเฉพาะการการันตีสินค้าเกษตร ขณะที่ชาวนาจะได้ค่าปลูกข้าวไร่ละ 1.5พันบาทต่อไร่ โดยไม่เกิน 20 ไร่ ซึ่งนโยบายทั้งหมดสามารถทำได้ทันที หากประชาชนเลือกพรรคให้เป็นรัฐบาล
“เหตุที่ประชาชนยากจน เพราะการเมืองแบ่งเป็น 2 สี พรรคพลังประชารัฐ เสนอตัวเป็นพรรคทางเลือกใหม่ ออกจากความขัดแย้ง และทำให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ทั้งนี้เมื่อ 20 ปีที่ผ่านมา ตอนที่ผมอยู่กับพรรคไทยรักไทยเจอปัญหาที่ประชาชนไม่หลุดพ้นได้ คือ ปัญหาหนี้สิน แต่ปัจจุบันยังพบว่าประชาชนเป็นหนี้อยู่เหมือนเดิม ทั้งนี้พรรคพลังประชารัฐมีความตั้งใจจะปลดหนี้ให้ประชาชน หากได้รับเลือกตั้งและได้เป็นรัฐบาล โดยข้อเสนอทั้งหมด สามารถทำได้ทันที และเชื่อว่าคุณภาพชีวิตประชาชนดีขึ้นได้หากพรคพลังประชารัฐได้เป็นรัฐบาลผ่านการเลือก ผู้สมัคร ส.ส.อุดรธานีของพรรคพลังประชารัฐ ยกทั้งจังหวัด 8 เขตเลือกตั้ง” นายสุริยะ กล่าว
ด้านนายอนุชา ปราศรัยโดยย้ำพรรคพลังประชารัฐจะพาประเทศก้าวข้ามความขัดแย้ง และพาการเมืองให้พ้นจากสงครามสีเสื้อ ไปสู่ความสงบ เพื่อสร้างอนาคตที่ดีให้กับประชาชน และประเทศไทยพ้นจากกับดักความยากจน ซึ่งพรรคพลังประชารัฐสัญญาจะทำให้เป็นจริง โดยพรรคพลังประชารัฐคือจุดร่วมคนที่จะพาประเทศก้าวข้ามความขัดแย้ง และทำนโยบายที่ช่วยเหลือประชาชนให้พ้นจากความยากจนได้จริง
นายอนุชา กล่าวด้วยว่า สิ่งที่รัฐบาลทำให้เป็นจริงเมื่อเข้าบริหารผ่านมา 2-3 ปี ให้ประชาชนมีรายได้จากซากปรักหักพังทางการเมือง คือ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แต่เป็นส่วนน้อยเพื่อให้ผู้มีรายได้น้อยมีเงินประทังชีวิต แต่พรรคพลังประชารัฐต้องการสร้างอนาคตให้ประชาชน ผ่านการเติมเงินให้เกษตรกรฐานราก ซึ่งเป็นวัฎจักรเริ่มต้นของการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ที่เป็นประชาชนและเกษตรกรในพื้นที่ ไม่ใช่คนร่ำรวย ดังนั้นพรรคพลังประชารัฐจะทำให้เกษตรกรมีเงิน ผ่านนโยบายต่างๆ เช่น ช่วยค่าเก็บเกี่ยวไร่ละ 2,000บาท ช่วยค่าปลูกไร่ละ 1,500 บาท โดยไม่เกิน 20 ไร่ ทั้งนี้เป้าหมายสำคัญคือ เพื่อไม่ให้เกษตรกรโดนดูถูกอีก”นายอนุชา กล่าว
นายอนุชา ยังประกาศ จะเลิกเล่นการเมืองบนเวทีปราศรัยด้วยว่า หากพรรคตพลังประชารัฐได้เป็นรัฐบาล และภายใน 4 ปีหากพรรคพลังประชารัฐไม่สามารถทำให้ประชาชนลืมตาอ้าปากได้ ตนจะเลิกเล่นการเมืองตลอดชีวิต
“นี่คือสัญญา คนอย่างผมนักการเมืองรู้ดี พูดคำไหนคำนั้น ไม่เคยมีชื่อเสียเรื่องคำพูด ผมรับรองได้ว่าเป็นจริง และเป็นอุดมการณ์ของพรรค ขอให้มั่นใจว่าพวกผมจะทำตามสัญญา หากพี่น้องนยึดมั่นในอุดมการณ์ทำเพื่อประเทศ เพื่อลูกหลานของเราไม่ใช่เพื่อพรรคพลังประชารัฐเท่านั้น ผมขอฝากประชาชนด้วยความระลึกในบุญคุณของแผ่นดิน ผมเกิดมาเพราะมีหนี้บุญคุณของแผ่นดินที่ต้องชดใช้ และผมจะชดใช้อย่างเต็มความสามารถกับพรรคพลังประชารัฐ” นายอนุชา กล่าว.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |