เงินเกลี้ยงเป๋า! ‘คลัง’ชงรบ.อุ้ม บัตรสวัสดิการ


เพิ่มเพื่อน    

 คลังโอดเงินอุ้มบัตรคนจนเกลี้ยง! จ่อชงรัฐบาลขอจัดสรรงบประมาณดูแลยาวถึง ก.ย.2562   ยันงบดูแลคนจนปีละ 4 หมื่นล้านบาทไม่กระทบฐานะการคลัง พร้อมเสนอรัฐบาลใหม่สานต่อนโยบาย ก่อนเปิดรับลงทะเบียนรอบใหม่ ผุดเกณฑ์อิงรายได้ยกครอบครัว

          นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า สศค.เตรียมเสนอรัฐบาลขอจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมเข้ากองทุนประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานราก สำหรับใช้ในโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เนื่องจากประเมินแล้วว่าจะมีงบประมาณเหลือเพียงพอใช้ในโครงการต่างๆ ผ่านบัตร ถึงช่วงเดือนเม.ย.นี้เท่านั้น แต่ยังมีบางโครงการที่จะต้องอุดหนุนดูแลประชาชนไปจนถึงเดือน ก.ย.2562 จึงทำให้งบประมาณไม่เพียงพอ ซึ่งขณะนี้มีการใช้งบผ่านบัตรคนจนเฉลี่ยเดือนละ 3-4 พันล้านบาท หรือปีละไม่ต่ำกว่า 4 หมื่นล้านบาท ซึ่งจำนวนเงินดังกล่าวยังไม่มีผลต่อฐานะทางการคลัง
          ทั้งนี้ สศค.มั่นใจว่ารัฐบาลชุดใหม่สนใจที่จะเดินหน้าโครงการสวัสดิการแห่งรัฐต่อไป เพราะเท่าที่ดูจากนโยบายหลายๆ พรรคการเมือง ก็ไม่เคยเห็นพรรคการเมืองไหนบอกจะยกเลิก ซึ่งคาดว่าหลังจากการเลือกตั้งวันที่ 24 มี.ค.นี้ จะสามารถจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ได้แล้วเสร็จในช่วงเดือนปลาย พ.ค.-มิ.ย.2562 จากนั้น สศค.ก็เตรียมเสนอรัฐบาลใหม่พิจารณามาตรการต่างๆ ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐทันที เพราะจะต้องใช้งบประมาณปี 2563 รองรับการดำเนินการ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษารูปแบบการขึ้นทะเบียนผู้มีรายได้น้อยรอบใหม่ให้มีความเหมาะสม และมีประสิทธิภาพมากที่สุด
          “แนวคิดการลงทะเบียนคนจนรอบใหม่ โดยให้ลงแบบครอบครัวนั้นทำได้ยาก ดังนั้น จำเป็นต้องลงทะเบียนเป็นรายบุคคล และให้สิทธิเป็นรายบุคคลต่อไป แต่จะต้องใช้ข้อมูลครอบครัวมาเป็นเกณฑ์ประกอบ ต้องมีการการจัดรุ่นอายุ เช่น ครอบครัวนี้มีผู้บรรลุนิติภาวะ หรืออายุเกิน 20 ปี ก็ต้องนำเกณฑ์รายได้มาพิจารณาประกอบด้วย” นายลวรณกล่าว
      นายลวรณกล่าวอีกว่า การยกเลิกนโยบายบัตรสวัสดิการไม่สามารถทำได้ เพราะขณะรัฐบาลได้ผ่านกฎหมายพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กองทุนประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม ซึ่งมีโครงสร้างกองทุนชัดเจน มีกฎหมายรองรับ มีเงินกองทุนใช้จ่าย การยกเลิกก็จะเป็นการขัดต่อกฎหมาย ซึ่งขณะนี้ทุกพรรคก็ไม่ได้บอกจะยกเลิก มีแต่จะปรับปรุงบัตรคนจนให้ดีขึ้น
          อย่างไรก็ดี สศค.ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมมือวิจัย เรื่องออกแบบ พัฒนา และเพิ่มประสิทธิภาพ ในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ กับคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยจะใช้เวลาวิจัยประมาณ 3-4 เดือน เพื่อเก็บเป็นข้อมูลการลงทะเบียนให้กับ สศค. ในการกำหนดมาตรการให้ความช่วยเหลือตรงจุด รายภูมิภาคมากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้รัฐใช้จ่ายงบประมาณสำหรับดูแลผู้มีรายได้น้อยให้เกิดประโยชน์สูงที่สุด
    นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจในประเทศไทยปี 2562 มองว่าน่าจะดีขึ้น แต่อาจจะไม่ได้ขยายตัวมากเท่าปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะเศรษฐกิจในต่างจังหวัด และประชาชนรากหญ้าที่จะได้รับโอกาสในการช่วยเหลือที่มากขึ้น เนื่องจากรัฐบาลชุดใหม่ที่เข้ามาจะมีการดูแลเรื่องความเป็นอยู่ของประชาชนรากหญ้ามากขึ้น
    รวมถึงในช่วงนี้เป็นช่วงการหาเสียง ทำให้พบว่ามีหลายพรรคการเมืองที่มีนโยบายดูแลเรื่องคุณภาพชีวิตของประชาชนฐานราก จึงมีหลายอย่างที่จะลงไปช่วยรากหญ้ามากขึ้น เพราะที่ผ่านมามีปัญหาจากรากหญ้าจนทำให้การพัฒนายังไม่มีความเสถียร และว่าสินค้าเกษตรจะมีราคาดีขึ้น เพราะมีหลายพรรคที่รับประกันราคาสินค้าเกษตรหลายชนิด ซึ่งมองว่าพรรคเหล่านั้นต้องทำให้ได้อย่างที่พูด เนื่องจากเป็นส่วนทำให้สินค้าเกษตรเกิดการปรับราคาดีขึ้น อาทิ ข้าว ยาง ปาล์มน้ำมัน มันสำปะหลัง แม้ว่าในขณะนี้ข้าวจะปรับราคาดีขึ้นแล้ว แต่ต้องปรับขึ้นอีก รวมถึงสินค้าเกษตรชนิดอื่นๆ ด้วย 
    นายสุพันธุ์มั่นใจว่า หากราคาสินค้าเกษตรและเกษตรกรมีรายได้เพิ่ม ทำให้คุณภาพชีวิตของรากหญ้าดีขึ้น แม้ว่าตัวเลขจีดีพีอาจจะไม่ได้ขยายตัวมากเท่าปีที่ผ่านมา แต่เศรษฐกิจในระดับภูมิภาคจะดีขึ้น และหนี้ครัวเรือนของประชาชนจะลดลง
    “โครงการขนาดใหญ่ของรัฐที่มีจำนวนหลายโครงการจะส่งผลทำให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในประเทศมากขึ้น รวมถึงโครงการอีอีซี ที่ไม่ว่าใครจะเข้ามาเป็นรัฐบาลก็ต้องเดินหน้าเพื่อสานต่อโครงการนี้ เพราะแผนดำเนินงานทุกอย่างทำไว้เสร็จสิ้นแล้ว ทำให้ถึงแม้จีดีพีรวมจะไม่ได้สูงเทียบเท่าปีที่ผ่านมา เงินเฟ้ออาจจะสูงขึ้นเล็กน้อย แต่ความรู้สึกของประชาชนในด้านเศรษฐกิจจะดีขึ้น” นายสุพันธุ์กล่าว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"