ผลแห่งการชักใย


เพิ่มเพื่อน    


    ก็ยังมีคนไม่เข้าใจ
    ไม่มีใครกลั่นแกล้งพรรคไทยรักษาชาติ 
    แต่เพราะพรรคไทยรักษาชาติทำตัวเอง 
    ใครที่ชอบทักษิณ ชอบไทยรักษาชาติ เกลียดลุงตู่ ถึงเวลาถามใจตัวเองดังๆ 
    ถ้าวันที่ ๘ กุมภาพันธ์ พรรคที่เสนอพระนามทูลกระหม่อม ไม่ใช่พรรคไทยรักษาชาติ แต่เป็นพรรคพลังประชารัฐ 
    วันนั้นคุณรู้สึกอย่างไร 
    ฉะนั้นจะชอบหรือไม่ชอบอะไร ต้องอยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริง 
    ไม่ใช่ถ้าเป็นพวกกู ต้องถูกเสมอ
    และไม่ควรนำคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญไปตะแบง หาเหตุสร้างความชอบธรรมให้ตัวเอง 
    ถ้อยแถลงของ "นครินทร์ เมฆไตรรัตน์" ตุลาการรัฐธรรมนูญ ได้สร้างความชัดเจน ไม่ใช่ในแง่กฎหมายอย่างเดียว แต่เป็นจิตวิญญาณของชาติ  
    "....การปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ได้รับการสถาปนาขึ้นโดยรัฐธรรมนูญในราชอาณาจักรสยาม พุทธศักราช ๒๔๗๕ และหมวด ๑ พระมหากษัตริย์ มาตรา ๑๑ ของรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าว ได้บัญญัติว่า 
    พระบรมวงศานุวงศ์ ตั้งแต่ชั้นหม่อมเจ้าขึ้นไปโดยกำเนิด หรือโดยแต่งตั้งก็ตาม ในฐานะเหนือการเมือง อันเป็นไปตามพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งมีพระราชหัตถเลขาที่ ๑/๖๐ ลงวันที่ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๔๗๕ ถึงพระยามโนปกรณ์นิติธาดา ผ่านกรรมการราษฎร ระหว่างที่กระบวนการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม พุทธศักราช ๒๔๗๕ ซึ่งคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญมีความเห็นชอบด้วยทุกประการ 
    สาระสำคัญซึ่งเป็นพื้นฐานของระบอบประชาธิปไตยของไทย ระบุไว้ในความของ พระราชหัตถเลขา ที่ระบุว่า ด้วยหลักการพระบรมวงศานุวงศ์ย่อมดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพเหนือความที่จะถูกติเตียน ไม่ควรแก่ตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งเป็นการงานที่จะนำมา ทั้งในทางพระเดชและพระคุณ ย่อมอยู่ในวงอันจะถูกติเตียน อีกเหตุหนึ่งจะนำมาซึ่งความขมขื่น ในเมื่อเวลาทำการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง อันเป็นเวลาที่ต่างฝ่ายต่างโจมตีให้ร้ายซึ่งกันและกัน 
    เพื่อความสงบเรียบร้อยอันสมัครสมานอันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ระหว่างเจ้านายกับราษฎร ควรถือเสียว่า พระบรมวงศานุวงศ์ตั้งแต่ชั้นหม่อมเจ้าขึ้นไป ย่อมดำรงอยู่เหนือการเมืองทั้งหลาย...." 
    "....การใช้สิทธิเสรีภาพย่อมต้องอยู่บนความตระหนักว่าการกระทำนั้น จะไม่เป็นการอาศัยสิทธิและเสรีภาพให้มีผลกระทบย้อนกลับมาทำลายหลักการพื้นฐานและคุณค่าของรัฐธรรมนูญเสียเอง 
    เพราะประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามนิติราชประเพณีของไทยมั่นคงในสถานะมาแต่โบราณ โดยพระองค์จะทรงครองแผ่นดินโดยธรรมเพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม 
    พระมหากษัตริย์ไทยทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทุกหมู่เหล่า ทรงเคารพกฎหมายและโบราณราชประเพณี และทรงอยู่เหนือการเมือง 
    ทั้งยังต้องระมัดระวังไม่ให้สถาบันถูกนำไปเป็นคู่แข่งหรือฝักใฝ่ทางการเมือง 
    เพราะหากถูกกระทำด้วยวิธีการใดๆ สภาวะความเป็นกลางทางการเมืองของสถาบันฯ ต้องจะสูญเสียไป ก็ย่อมไม่สามารถดำรงพระองค์ให้อยู่เหนือการเมืองได้
    ซึ่งถ้าปล่อยให้การณ์เป็นไปเช่นนั้น สถาบันฯ ก็จะไม่อยู่ในฐานะศูนย์รวมจิตใจของชาวไทยอีกต่อไป 
    นั่นย่อมทำให้การปกครองของไทย ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของไทยจะต้องเสื่อมโทรมหรือถึงกับสูญสิ้นไป ซึ่งไม่ควรปล่อยให้เป็นเช่นนั้น...."
    หากจะมีคนแปลความไปในทางตรงข้าม ดึงสถาบันลงมาเล่นการเมือง ก็ต้องตั้งคำถามว่า มีเจตนาอะไร 
    แน่นอนเรื่องนี้ "ทักษิณ ชินวัตร" คือผู้ชักใยอยู่เบื้องหลัง 
     และ ๑๓ กรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติรับผลกรรมแทน
    อย่างน้อยก็ตอนนี้.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"