7 มี.ค.62 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกษตรกรบ้านห้วยจระเข้มาก หมู่ 17 ตำบลบ้านบัว อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ กว่า 20 ครัวเรือน ที่งดทำนาปรังตามนโยบายภาครัฐให้ปรับเปลี่ยนมาปลูกพืชอายุสั้นใช้น้ำน้อย เพื่อเก็บผลผลิตไว้บริโภคในครัวเรือนและส่งขายเป็นรายได้เลี้ยงครอบครัว แต่กลับประสบปัญหาวิกฤตแล้งซ้ำเติมอีก เนื่องจากน้ำที่เคยไหลผ่านคลองส่งน้ำของโครงการชลประทานที่เกษตรกรพึ่งพาอาศัยในการเพาะปลูกพืชผัก มีสภาพเหือดแห้ง ทำให้เกษตรกรไม่มีน้ำไปรดหล่อเลี้ยงพืชผักที่ปลูกไว้ จนเริ่มทยอยเหี่ยวเฉาและคาดว่าหากไม่มีน้ำติดต่อกันเกิน 1 สัปดาห์ พืชผักที่ปลูกไว้ก็อาจจะแห้งตายเสียหายได้
จากผลกระทบดังกล่าวจึงได้ร้องขอให้หน่วยงานภาครัฐ ได้หาแนวทางช่วยเหลือโดยการสูบดึงน้ำจากลำห้วยธรรมชาติที่อยู่ใกล้เคียงมาช่วยเหลือ เพื่อให้เกษตรกรมีน้ำเพาะปลูกเพราะหากปล่อยให้แห้งตายเกษตรกรก็จะขาดรายได้เลี้ยงครอบครัว
นายสิริวัฒน์ จะปิ่นครบุรี อายุ 63 ปี เกษตรกรบ้านห้วยจระเข้มาก ต.บ้านบัว อ.เมืองบุรีรัมย์ บอกว่า ปีนี้ถือว่าแล้งที่สุดในรอบเกือบ 30 ปี โดยเฉพาะคลองส่งน้ำที่เคยมีน้ำไหลผ่านพอให้เกษตรกรได้นำไปเพาะปลูกพืชผัก ปัจจุบันก็มีสภาพเหือดแห้ง ถึงแม้ปีนี้เกษตรกรจะงดทำนาปรังปรับเปลี่ยนมาปลูกพืชอายุสั้นตามคำแนะนำของภาครัฐแล้วก็ตาม แต่ก็ยังได้รับผลกระทบไม่มีน้ำหล่อเลี้ยงพืชผักที่ปลูกไว้
เบื้องต้นเกษตรกรก็ได้ไปร้องขอความช่วยเหลือจากทางชลประทานจังหวัด ให้นำเครื่องสูบน้ำไปสูบดึงน้ำจากลำห้วยธรรมชาติที่อยู่ใกล้เคียง มาช่วยเหลือเพื่อให้มีน้ำหล่อเลี้ยงพืชผักที่ปลูกไว้ ซึ่งทางชลประทานก็รับปาก แต่ยังติดปัญหาเรื่องน้ำมันเชื้อเพลิงที่จะเติมเครื่องสูบน้ำที่ยังไม่ได้รับการตอบรับจากทางเทศบาล แต่หากทางเทศบาลไม่สนับสนุนน้ำมันเชื้อเพลิงให้เกษตรกรก็คงต้องลงขันซื้อน้ำมันเอง เพื่อให้พืชผักที่ปลูกไว้มีน้ำหล่อเลี้ยงไม่เสียหาย ทั้งนี้ยังอยากให้มีการสำรวจขุดเจาะบ่อบาดาลในพื้นที่การเกษตรกรไว้สำรองด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาขาดน้ำทำการเกษตรอย่างเช่นปีนี้อีก
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |