ลอตเตอรี่ 30 ล้านจบภายในเดือนนี้ "ฐิติราช" พูดชัดเรื่องนี้ต้องมองภาพใหญ่ ใครของจริง-ของปลอม ชี้เคสนี้สะท้อน "ขรก." แสร้งทำดีมีเยอะ "ผบ.ตร." ตอกย้ำโกงหวย 30 ล้านทำกันเป็นขบวนการคล้ายคดีครูจอมทรัพย์
    เมื่อวันอังคาร ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.)พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  (ผบ.ตร.) เดินทางมาติดตามความคืบหน้าการคลี่คลายคดีหวย 30 ล้าน หลังจากมีคำสั่งให้โอนย้ายจากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค (บช.ภ.7) มาให้กองบังคับการปราบปรามดูแลคดีแทน โดยมี พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง  (ผบช.ก.), พล.ต.ต.ชวลิต แสวงพืชน์ รองผู้บัญชาการสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.), พล.ต.ต.ไมตรี ชิมเฉิด ผู้บังคับการปราบปราม (ผบก.ป.) เข้าร่วมประชุมชี้แจง
    ก่อนเข้าประชุม พล.ต.ท.ฐิติราชให้สัมภาษณ์ว่าเรื่องนี้ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานอย่างรอบคอบ เพื่อหาคำตอบที่ถูกต้อง เพื่อประโยชน์แก่สังคม ถ้ามองในแง่ดี เรื่องนี้จะได้เป็นกรณีศึกษาปรากฏการณ์ของสังคม อย่ามองเพียงแค่เป็นคดีของตำรวจ ต้องมองภาพใหญ่องค์รวมว่าเรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร เรื่องนี้นักจิตวิทยา นักวิชาการ เขาคิดวิเคราะห์ดูเหตุการณ์โดยลำดับ น่าจะตอบคำถามได้ว่าใครตัวจริงตัวปลอม ส่วนของตำรวจต้องขอเวลานิดนึง รับปากว่าไม่เกินสิ้นเดือนนี้ทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์ ส่วนพยานหลักฐานที่รวบรวมมีพอสมควร แต่ไม่ขอเปิดเผย พยายามทำให้เสร็จทุกๆ เรื่องให้สิ้นกระแสความ จะได้รู้ว่าใครผิดใครถูก ใครเกี่ยวข้อง ใครเป็นตัวการ ใครเป็นผู้ร่วมสนับสนุน แต่ก็จะให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย บางคนไม่ตั้งใจเกี่ยวข้องแต่อาศัยความเป็นพวกพ้อง ความเชื่อ จึงออกมาช่วยกัน
    ผู้สื่อข่าวถามว่า พยานหลักฐานที่กองปราบฯ ได้มาสอดคล้องกับทางตำรวจภูธรภาค 7 หรือไม่ พล.ต.ท.ฐิติราชตอบว่า อย่าไปตำหนิใครเวลาทำงาน ยกตัวอย่างภาค 7 เหมือนโรงพยาบาลต่างจังหวัด เครื่องมือไม่พร้อม ตำรวจกองสอบสวนกลางเจอคดีอย่างนี้มาเยอะ เจอมาหลากหลาย ทำให้การทำงานในแต่ละเรื่องรอบคอบ ระมัดระวัง ไม่ถูกพยานชักนำที่ไม่ถูกต้องชักนำ ระวังทุกย่างก้าวในเรื่องงานสอบสวน
    "ส่วนที่มีข่าวว่ามีตำรวจชั้นผู้ใหญ่เข้าไปเกี่ยวข้อง การสอบสวนยังไม่ถึงจุดนั้น ถ้าอยากรู้คำตอบว่าใครเป็นเจ้าของหวยรางวัล 30 ล้าน ให้ไปถามนักจิตวิทยาก็จะรู้  เรื่องนี้อย่ามองเพียงเรื่องคดี อยากให้มององค์รวมภาพใหญ่ เคสนี้เป็นกรณีศึกษาของสังคมไทย ต่อไปต้องมีการดูแลประชาชนมากกว่านี้หรือเปล่า ระบบคัดกรองข้าราชการทั้งตำรวจ ครู ทหาร ทุกสาขาอาชีพมากกว่านี้หรือเปล่า ที่จะเข้ามาทำหน้าที่ พวกแสร้งดีมีเยอะ" ผบช.ก.ระบุ
    ขณะที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ให้สัมภาษณ์ภายหลังรับฟังการรายงานความคืบหน้าของคดีหวย 30 ล้านว่า วันนี้มาติดตามความคืบหน้าคดีหวย 30 ล้าน ที่ผมได้สั่งโอนสำนวนมายังกองปราบฯ จริงๆ แล้วกองบังคับการปราบปรามมีอำนาจสอบสวนทั่วราชอาณาจักรอยู่แล้ว ซึ่งมีอยู่ 2 กรณี ถ้าไม่โอนคดีมาก็ส่งตำรวจกองปราบฯ ไปร่วมสอบสวนที่จังหวัดกาญจนบุรี แต่ขณะนี้ได้โอนมาให้กองปราบฯ อยู่ในความรับผิดชอบของ พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. ส่วนพยานหลักฐานที่พบอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.ฐิติราชไปแล้วว่าจะต้องทำอะไรต่อจากนี้ ที่สำคัญที่สุดคือระยะเวลาไม่อยากให้เกินสิ้นเดือนนี้ให้เรียบร้อย
    ผู้สื่อข่าวถามว่า หากการตรวจสอบพยานหลักฐานของกองปราบฯ สวนทางกับตำรวจภูธรภาค 7 คิดอย่างไร พล.ต.อ.จักรทิพย์ตอบว่า ไม่ถึงขนาดนั้น เราต้องดูของภาค 7 ด้วย ส่วนจะมีข้อแตกต่างอย่างไร ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานและเรื่องของนิติวิทยาศาสตร์ ได้ฟังการสรุปจาก ผบช.ก.แล้ว ก็ขอให้รอดูต่อไป ถามต่อว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถยืนยันได้แล้วใช่ไหมว่าหวย 30 ล้านนั้นเป็นของใคร ผบ.ตร.ตอบว่า อยู่ในสำนวน ส่วนตัวเชื่อศักยภาพของพนักงานสอบสวนกองปราบปรามสามารถชี้ชัดได้ไม่ต้องห่วง
    เมื่อถามว่า เมื่อประชาชนมีคดีอะไรก็แล้วแต่ จะมาขอพึ่งกองปราบปราม ผบ.ตร.กล่าวว่า จริงๆ แล้วถ้าเขาไม่ได้รับความเป็นธรรมหรือเป็นเรื่องของขบวนการก็สามารถมาร้องที่กองปราบฯ ได้ เพราะเป็นอำนาจหน้าที่ของกองปราบฯ อยู่แล้ว สามารถสอบสวนได้ทั่วราชอาณาจักร อย่างกรณีที่เมืองกาญจน์ มีการทำเป็นขบวนการ เมื่อไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็สามารถมาร้องกองปราบฯ ได้ แต่ถ้าแต่ละกองบัญชาการหรือแต่ละพื้นที่สามารถทำได้ ก็ให้ดำเนินการไป แต่คดีหวย 30 ล้านนี้มันล่วงเลยมานานแล้ว ประชาชนยังให้ความสนใจอยู่ และยังพบว่าเป็นรูปแบบของขบวนการ ต่างฝ่ายต่างมีพยานทั้งคู่ จนต้องให้กองปราบฯ เข้าไปร่วม
    ถามว่า ในกรณีหวย 30 ล้าน มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยหือไม่ ผบ.ตร.ตอบว่า ถ้าเกี่ยวข้องกับใคร ไม่ว่าจะเป็นตำรวจหรือใครก็แล้วแต่ จะเรียกมาสอบทั้งหมด ในส่วนของตำรวจนั้น เท่าที่ปรากฏอาจจะมีบางส่วน แต่อยู่ในสำนวนขอสงวนไว้ก่อน ให้เจ้าหน้าที่เขาทำงานไป ยังไงคดีนี้ก็ต้องคนผู้ได้รับโทษจากการกระทำความผิด 
    "คดีนี้คล้ายๆ กับคดีของครูจอมทรัพย์ นี่เป็นความรู้สึกส่วนตัวผม ถ้าผลออกมาตรงข้ามกับทางกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ก็ต้องดูอีกที โดยสรุปแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งใจทำงาน แต่การจะไปถึงพยานหลักฐานอย่างไร มีหลายองค์ประกอบ แต่ผมเชื่อว่าเขาตั้งใจทำงานอยู่แล้ว" ผบ.ตร.ระบุ.