7 มี.ค.62 - ทุกฝ่ายจับจ้องติดตามไปกับการอ่านคำวินิจฉัยกลางของศาลรัฐธรรมนูญ ในคำร้องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ที่ยื่นคำร้องให้ยุบพรรคไทยรักษาชาติ(ทษช.) กรณีการเสนอพระนามทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาฯ เป็นแคนดิเดตนายกฯ เมื่อวันที่ 8 ก.พ. ที่สร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วประเทศแม้แต่ในต่างประเทศ จนต่อมามีพระบรมราชโองการ ฯ ในช่วงค่ำวันเดียวกัน ถึงกรณีการเสนอชื่อแคนดิเดทนายกฯดังกล่าว
ต่อมา กกต.ได้ลงมติว่า การกระทำดังกล่าวของพรรคไทยรักษาชาติ มีความผิดตามมาตรา 92 ของ พ.ร.บ.พรรคการเมือง ที่บัญญัติว่า กระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
วันนี้ นายนุรักษ์ มาประณีต ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ได้นัดประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 9 คนในเวลา 13.30 เพื่อให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญแต่ละคน แถลงคำวินิจฉัยส่วนตนด้วยวาจา เพื่อกำหนดเป็นมติของที่ประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งหลังได้มติของตุลาการศาลรธน. แล้ว ที่ก็จะเป็นการลงมติว่า ศาลรัฐธรรมนูญ จะมีคำวินิจฉัยให้ยุบพรรคไทยรักษาชาติตามคำร้องของกกต.หรือไม่ จากนั้น เมื่อได้มติที่ประชุมที่ยึดหลักเสียงข้างมากแล้ว ก็จะมีการประชุมปรึกษาหารือเพื่อเขียนคำวินิจฉัยกลางของศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อนำไปอ่านให้คู่กรณีฟังในเวลา 15.00 น.
โดยที่ประชุมจะได้มีการพิจารณากำหนดประเด็นลงมติเพื่อเขียนคำวินิจฉัยกลาง ตามคำร้องของกกต. เพื่อนำไปสู่การพิจารณาข้อกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ มาตรา 7 (3 ) ประกอบ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 92
ที่ผลคำวินิจฉัยก็จะออกมาด้วยกันสองทางคือ
1.ยกคำร้องของ กกต. ที่ก็คือ พรรค ทษช.ไม่ได้กระทำผิด ไม่ได้มีพฤติการณ์ตามที่ กกต.ยื่นคำร้องให้ยุบพรรคผลก็คือ ทำให้พรรค ทษช.ไม่ถูกยุบพรรค ทางพรรคก็ไปหาเสียงได้ตามปกติ โดยต้องรอดูว่า หากสุดท้าย ศาลรัฐธรรมนูญยกคำร้อง ในคำวินิจฉัยกลางจะให้เหตุผลอย่างไร เพราะก่อนหน้านี้ ในเอกสารคำชี้แจงข้อกล่าวหาของพรรคไทยรักษาชาติพยายามสู้ในหลายประเด็น เช่น การยกประเด็นข้อกฎหมายมาสู้กับกกต.ด้วยการย้ำว่า การพิจารณาของกกต.ที่ให้ยุบพรรคทษช. ไม่ชอบด้วยกฎหมายเช่น ไม่มีการสืบสวนสอบสวนก่อนเป็นการข้ามขั้นตอน จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย
อีกทั้งการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีดังกล่าว ทางพรรคมีเจตนาบริสุทธิ์ และไม่มีเจตนาพิเศษใดๆ ที่มุ่งหวังให้เป็นอย่างอื่น และได้รับความยินยอมจากผู้ได้รับการเสนอชื่อ
2.ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยให้ยุบพรรค ทษช. เนื่องจากกระทำความผิดตามคำร้องของ กกต. โดยหากศาลรธน.วินิจฉัยออกมาแบบนี้ พรรค ทษช.ก็สิ้นสภาพโดยทันทีในวันที่ 7 มี.ค. อันจะมีผลทำให้ ผู้สมัคร ส.ส.ของ ทษช.ทั้งระบบเขตและบัญชีรายชื่อทั้งหมด สิ้นสภาพยกพรรคเพราะพรรคถูกยุบ และตัวผู้สมัครส.ส.ของพรรคทษช. ไม่สามารถย้ายไปสังกัดพรรคการเมืองอื่นได้ทันเพราะตามกฎหมายต้องสังกัดพรรคการเมืองก่อนเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 90วัน จึงเท่ากับทำให้ ผู้สมัครส.ส.ของพรรคไทยรักษาชาติ ที่แยกเป็นระบบเขต 175เขตและบัญชีรายชื่อ 108 คน ก็จะพ้นจากการเลือกตั้งครั้งนี้ไปโดยปริยาย
ขณะเดียวกัน หากศาล รธน.มีคำวินิจฉัยให้ยุบพรรค ทษช. ก็ต้องติดตามต่อว่า ในคำวินิจฉัยของศาล รธน.จะมีการให้กรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติที่มีด้วยกัน 13 คน หากไม่รับรวมกรณีนาย รุ่งเรือง ทิพยศิริ ที่อ้างว่าได้ขอลาออกจากกรรมการบริหารพรรคก่อนการประชุมกรรมการบริหารพรรคเมื่อ 4 ก.พ. ที่มีมติให้เสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯดังกล่าว สุดท้ายแล้ว ศาลรธน.จะมีการตัดสิทธิการเมืองกรรมการบริหารพรรค ทษช. ที่ร่วมลงมติเรื่องแคนดิเดตนายกฯ ด้วยหรือไม่
โดยหากศาลรธน.ตัดสินว่ากรรมการบริหารพรรคต้องรับผิดชอบ ก็จะทำให้กรรมการบริหาพรรคทั้งหมด ถูกเพิกถอนสิทธิรับสมัครเลือกตั้งตลอดชีวิต และไม่สามารถไปร่วมจัดตั้งพรรคการเมืองใดๆ ได้อีกภายในเวลา 10 ปี
ก่อนหน้านี้ มีการแสดงความเห็นกันว่า ความเป็นพรรค ทษช. ที่เป็นนิติบุคคล ไม่สามารถไปทำอะไรเองได้ ทุกอย่างต้องเกิดจากผู้บริหาร กรรมการบริหารพรรค เปรียบเสมือนบริษัท จำกัด หากทำผิดกฎหมายแล้วโดนดำเนินคดี ตัวกรรมการบริษัท-ผู้บริหารก็ต้องรับผิดชอบ จนมีการมองกันว่า หากพรรค ทษช.ถูกยุบ กรรมการบริหารพรรค ทษช.ก็อาจต้องลุ้นหนัก ต้องร่วมรับผิดชอบทางการเมืองด้วย.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |