7 มี.ค.62 - เวลา 15.00 น. ศาลรัฐธรรมนูญ นัดอ่านคำวินิจฉัยคดียุบพรรคไทยรักษาชาติ(ทษช.) กรณีนำ"สมาชิกชั้นสูงในพระบรมราชวงศ์"เสนอเป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรค 

ทั้งนี้สำหรับพรรคไทยรักษาชาติ เป็นพรรคการเมืองที่ทางการเมืองรู้กันดีว่า เป็นพรรคเครือข่ายของทักษิณ ชินวัตรและพรรคเพื่อไทย ที่ 4พี่น้องตระกูล”ชินวัตร”คือทักษิณ –ยิ่งลักษณ์-พายัพ และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ มีส่วนร่วมในการลงขันทำพรรคไทยรักษาชาติขึ้นมา เพื่อส่งผู้สมัครไปเก็บคะแนนในระบบปาร์ตี้ลิสต์ทั่วประเทศเป็นหลัก โดยมีการส่งคนในเครือญาติ และคนใกล้ชิดมาร่วมตั้งพรรคไทยรักษาชาติ 

เช่นนายพายัพ ชินวัตร ส่ง ลูกชาย มาเป็นรองหัวหน้าพรรค ขณะที่ ยิ่งลักษณ์ และนางเยาวภา ที่ไม่หนุนหลังคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ เป็นนายกฯ จากพรรคเพื่อไทย ก็ให้คนใกล้ชิด คนไว้ใจออกจากเพื่อไทย มาอยู่กับพรรคไทยรักษาชาติ  พร้อมกับมีแกนนำเพื่อไทยอีกส่วนหนึ่งสนับสนุนเงินทุนเช่นนายพงษ์ศักดิ์ รักตพงษ์ไพศาล นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช นายยงยุทธ ติยะไพรัช นายพิชัย นริพทะพันธุ์ โดยมีกระแสข่าวว่า การจัดตั้งพรรคไทยรักษาชาติดังกล่าว มีผู้ใหญ่ในบ้านเมืองบางคน คอยหนุนหลังอยู่ห่างๆมาตลอด เป็นต้น

พรรคไทยรักษาชาติ มีการวางกลยุทธ์ ส่งผู้สมัครส.ส.เขตไม่ให้ซ้ำกับของเพื่อไทยมากนัก ที่ก็จะซ้ำกันประมาณ 25เขตเท่านั้น และผู้สมัครส่วนใหญ่ หากพิจารณาเรียงตามรายจังหวัดจะพบว่ามีผู้สมัครส.ส.ระบบเขตที่ได้ลุ้นเพียงไม่กี่จังหวัดเท่านั้นเช่นที่แพร่ ที่ส่งวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล กับนพ.ทศพร เสรีรักษ์ สองอดีตส.ส.แพร่หลายสมัย ลงสมัคระบบเขต เป็นต้น

อนึ่งการวินิจฉัยคดียุบพรรคไทยรักษาชาติครั้งนี้ ตุลาการศาลรธน. ไม่ได้ใช้วิธีการเปิดห้องไต่สวนคำร้องเพื่อเรียกพยานมาเบิกความ ตามที่ฝ่ายกฎหมายพรรคไทยรักษาชาติ ยื่นคำร้องมาแต่อย่างใด เพราะเห็นว่าพยานหลักฐานจากฝ่ายกกต.และจากที่ไทยรักษาชาติยื่นคำร้องแก้ข้อกล่าวหามามีเพียงพอที่จะวินิจฉัยได้แล้ว จนทำให้สุดท้าย ศาลรธน.มีคำวินิจฉัยคำร้องก่อนจะมีการเลือกตั้งในวันที่24มีนาคมนี้

ท่ามกลางกระแสข่าวว่า นายทักษิณ ชินวัตร มีความกังวลต่อคดีนี้ และได้เตรียมแผนสำรองทางการเมืองไว้แล้วหากพรรคไทยรักษาชาติถูกยุบ หลังมีข่าวว่า แกนนำเพื่อไทย และพรรคเครือข่ายเช่น นายยงยุทธ ติยะไพรัช ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคไทยรักษาชาติและพรรคเพื่อชาติได้เดินทางไปพบนายทักษิณ ที่ดูไบเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา.