"บิ๊กตู่" ยังไม่พร้อมขึ้นเวทีปราศรัยกับพปชร. ขอลงพื้นที่ทำงานเหมือนเดิม สะพัด "3 ป.-1 ส." ปิดห้องถกหลังคะแนนนิยม พปชร.เป็นรอง สรุป "สมคิด" ติดข้อกฎหมายช่วยหาเสียงไม่ได้ หวั่นบิ๊กตู่ขึ้นเวทีถูกรุมโจมตี แกนนำ พปชร.พร้อมปรับยุทธศาสตร์ตามสถานการณ์ ไม่แน่วันที่ 10 มี.ค.อาจมีเซอร์ไพรส์ "ศรีสุวรรณ" ยื่นผู้ตรวจชงศาลวินิจฉัย "อนุทิน" ปัดอยู่ข้างทหาร-พปชร. ลั่นนายกฯ ต้องมาจาก ส.ส. "จตุพร" ปล่อยมุกเด็ด 12 ปีเอา "ทักษิณ" กลับไม่ได้ แต่เอาเผด็จการกลับบ้านได้ กกต.อ้าง กต.เชิญไปดูงานมีเรื่องเร่งด่วนประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ได้
ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 6 มีนาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวเพียงสั้นๆ ช่วงเดินกลับจากตึกภักดีบดินทร์ไปยังตึกไทยคู่ฟ้า ถึงความชัดเจนในการลงพื้นที่ช่วยพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) หาเสียงที่ จ.นครราชสีมา ในวันที่ 10 มี.ค.ว่า "ไม่ได้ช่วยหาเสียงอะไรกับใคร ผมยังคงทำงานเหมือนเดิม" ก่อนยิ้มและทำมือสัญลักษณ์ไอเลิฟยูให้กับผู้สื่อข่าวแล้วเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าทันที
ทั้งนี้ แหล่งข่าวใกล้ชิด พล.อ.ประยุทธ์เปิดเผยว่า วันที่ 10 มี.ค. พล.อ.ประยุทธ์จะไม่ไปขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงช่วยพรรคพลังประชารัฐที่ จ.นครราชสีมา และสัปดาห์นี้นายกฯ จะยังไม่มีลงพื้นที่ กทม.แต่อย่างใด โดยขอพักรักษาตาให้หายเป็นปกติก่อน ส่วนหลังจากนี้ซึ่งเป็นโค้งสุดท้ายก่อนลงคะแนนเลือกตั้ง พล.อ.ประยุทธ์จะช่วยหาเสียงหรือไม่ ต้องพิจารณาอีกครั้งตามความเหมาะสม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับอาการทางสายตาของนายกฯ ยังคงต้องสวมแว่นกันแสงอยู่ เนื่องจากยังมีอาการอักเสบเล็กน้อย โดยแพทย์ได้ให้ใส่แว่นถนอมสายตาไประยะหนึ่งก่อน
ช่วงเย็น พล.อ.ประยุทธ์ได้โพสต์ภาพถ่ายในอินสตาแกรมร่วมกับศิลปิน นักแสดง และปราชญ์ชาวบ้าน พร้อมข้อความว่า "Less is more...พอเพียง เพิ่มสุข ศาสตร์พระราชา ตอนเกษตรพอเพียง ศุกร์นี้"
ซึ่งเป็นการบันทึกเทปรายการ "ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน" ตอนเกษตรพอเพียง ที่จะออกอากาศในวันศุกร์ที่ 8 มี.ค.นี้ ประกอบด้วย นายเดช พุ่มคชา นักพัฒนาอิสระ ที่นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำรงชีวิต, นายคณาภรณ์ ธนูธรรมเจริญ ตัวแทนคนรุ่นใหม่ ที่ใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในการดำรงชีวิต และเป็นเจ้าของ OTOP แห่งแรกใน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่, นายจาตุรงค์ พลบูรณ์ หรือจาตุรงค์ มกจ๊ก นักแสดงตลกชื่อดัง ซึ่งได้ทำเศรษฐกิจพอเพียง เกษตรผสมผสาน และได้นำไปต่อยอดเปิดร้านอาหารและทำโฮมสเตย์เป็นของตัวเอง และตุ๊ก ชนกวนันท์ รักชีพ นักแสดงและพิธีกร ซึ่งทำผลิตภัณฑ์ข้าวจำหน่าย
มีรายงานว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 5 มี.ค. ช่วงพักเบรกประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พล.อ.ประยุทธ์ได้ขอหารือกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม, นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย โดยปิดห้องพูดคุยฟังความเห็นเพื่อประเมินก่อนตัดสินใจจะขึ้นเวทีช่วยพรรค พปชร.หาเสียงหรือไม่ เนื่องจากขณะนี้แกนนำพรรคหาเสียงกันอย่างหนัก แต่คะแนนนิยมยังเป็นรอง ไม่ถล่มทลาย จึงอยากให้พล.อ.ประยุทธ์หรือนายสมคิดไปช่วยหาเสียง แต่ด้วยข้อกฎหมายนายสมคิด ไม่สามารถไปช่วยได้ แต่นายกฯ เป็นแคนดิเดตพรรคน่าจะทำได้ ขณะที่ พล.อ.อนุพงษ์ทักท้วงไม่เห็นด้วยที่ พล.อ.ประยุทธ์จะขึ้นเวที เพราะจะถูกรุมโจมตีทันที และก่อนหน้านี้ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ เตือนข้อกฎหมายต้องระวังให้มาก ในการหารือได้เสนอว่าถ้าไม่ขึ้นเวทีก็ต้องเลือกใช้วิธีอื่น อย่างนายกฯ ลงพื้นที่เอง
ประยุทธ์เดินพบปะปชช.ได้
ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ยกเลิกขึ้นเวทีปราศรัยของพรรค พปชร. เพื่อหลีกเลี่ยงข้อครหาและป้องกันกระทำผิดกฎหมายว่า แนวทางการปฏิบัติของ พล.อ.ประยุทธ์นั้น คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ตอบเป็นที่ชัดเจนแล้วว่าสามารถช่วยหาเสียงได้ แต่ต้องระมัดระวังในมาตรา 78 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ที่เจ้าหน้าที่ของรัฐต้องไม่ใช้ตำแหน่งและอำนาจหน้าที่โดยมิชอบ หากขึ้นปราศรัยโดยพูดอยู่ในหลักเกณฑ์ไม่สุ่มเสี่ยงก็จะไม่มีปัญหา อย่างไรก็ตาม แม้ไม่ได้ขึ้นเวทีปราศรัย พล.อ.ประยุทธ์ยังสามารถเดินทางไปพบปะประชาชนในฐานะแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค พปชร.ได้ ถือว่าไปในนามพรรคการเมือง ไม่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งนายกฯ และต้องไม่ใช้ตำแหน่งหน้าที่ให้คุณให้โทษต่อพรรคการเมือง
“ปกติทำได้เช่นนี้ ไม่ได้ลำบากอะไร โดยลองใช้เกณฑ์มาตรฐานสมัยก่อน ในสมัยนายชวน หลีกภัย, นายบรรหาร ศิลปอาชา, นายทักษิณ ชินวัตร, นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ, น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อประกาศยุบสภาแล้วทำอย่างไร ซึ่งมีการเดินสายขึ้นเวที เพราะมาตรา 78 รัฐธรรมนูญเขียนมาเป็นสิบๆ ปีแล้ว ทำได้โดยไม่เป็นปัญหาอะไร แม้อดีตนายกฯ เหล่านั้นจะเป็นผู้สมัคร ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ใช่ทั้งสมาชิกและผู้สมัคร ส.ส. แต่ กกต.ได้ผ่อนปรนและชี้แนะวิธีแล้วว่าสามารถทำได้ในลักษณะเดียวกันในบางเรื่อง” นายวิษณุกล่าว
ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เข้ายื่นหนังสือถึงประธานและกรรมการผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อขอให้เสนอศาลปกครองให้วินิจฉัยว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะหัวหน้า คสช.เป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 160 (6) ประกอบมาตรา 98 (15) บัญญัติห้ามไว้หรือไม่ นอกจากนี้ขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินตรวจสอบคำสั่ง หรือการกระทำของนายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. ที่รับรองให้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีของพรรค พปชร.นั้นชอบด้วยกฎหมายหรือรัฐธรรมนูญหรือไม่ ทั้งนี้ หากศาลปกครองวินิจฉัยแล้ว พบว่ามีข้อจำกัด ขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดิน หรือศาลปกครองส่งข้อพิพาทดังกล่าวไปให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยต่อไป
นายกีรป กฤตธีรานนท์ รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่า จะเสนอคำร้องให้ทางผู้ตรวจฯ พิจารณาว่าคำร้องดังกล่าวอยู่ในอำนาจที่จะรับไว้พิจารณาหรือไม่ คาดว่าจะมีความชัดเจนภายใน 1-2 วัน ซึ่งเป็นการพิจารณาเพียงเบื้องต้นเท่านั้น ไม่ได้ลงในเนื้อหา ส่วนจะแล้วเสร็จก่อนการเลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค.หรือไม่ ตนไม่สามารถตอบแทนผู้ตรวจฯ ได้ เนื่องจากเป็นอำนาจการพิจารณาของผู้ตรวจ
ที่พรรค พปชร. นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค พปชร. กล่าวว่า วันนี้พรรคได้มีการประชุมกลุ่มยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง เพื่อหารือถึงการเปิดเวทีปราศรัยซึ่งจะมีเวทีใหญ่ ตั้งแต่วันเสาร์ (9 มี.ค.62) อาทิตย์ (10 มี.ค.62) นี้ โดยวันเสาร์จะเริ่มที่ จ.ขอนแก่น และในวันอาทิตย์จะเริ่มที่ จ.นครราชสีมา และไปต่อที่ จ.เชียงราย ในวันจันทร์ที่ 11 มี.ค.นี้ ส่วนการปราศรัยจะมี พล.อ.ประยุทธ์ร่วมเวทีหรือไม่ เป็นเรื่องที่ พล.อ.ประยุทธ์จะเป็นผู้พิจารณาเอง และเคารพการตัดสินใจของท่าน ที่ระบุว่าจะไม่ขึ้นเวทีกับพรรค พปชร.นั้น ยืนยันว่าพรรคจะเดินหน้าหาเสียงต่อไป เพราะมีการวางแผนในส่วนของพรรคไว้แล้ว และจะไม่กระทบกับขวัญกำลังใจของผู้สมัคร และยังจะมีแนวทางอื่นๆ ที่พรรคจะเสนอข้อมูลให้ประชาชนต่อไป
"ยังเชื่อมั่นว่า พล.อ.ประยุทธ์เหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อ และการที่ไม่ได้ไปร่วมหาเสียงด้วยนั้น จะไม่เป็นจุดอ่อนของพรรคพลังประชารัฐ เพราะประเด็นสำคัญคือพรรคพลังประชารัฐอาสาทำงานให้ประเทศชาติ และขึ้นอยู่กับประชาชนว่าจะไว้ใจขนาดไหน" นายอุตตมกล่าว
10มี.ค.อาจมีเซอร์ไพรส์
ช่วงเช้าวันเดียวกัน ที่สวนลุมพินี พรรค พปชร. นำโดยนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค ลงพื้นที่ช่วย น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 ปทุมวัน บางรัก สาทร หาเสียง โดยมี น.ส.กานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ ส.ส.เขตพระนคร ป้อมปราบ สัมพันธวงศ์ ดุสิต และนายเนวินธุ์ ช่อชัยทิพฐ์ ผู้สมัคร ส.ส. เขตยานนาวา บางคอแหลม ร่วมลงพื้นที่ด้วย ซึ่งได้เดินทักทายประชาชนที่มาออกกำลังกายตามจุดต่างๆ โดยรอบ ตลอดการเดิน มีประชาชนเข้ามาให้กำลังใจพร้อมตะโกนเชียร์ พล.อ.ประยุทธ์ ว่า "ลุงตู่ สู้ๆ" เป็นระยะ ขณะที่บางส่วนขอให้พรรคพลังประชารัฐชนะการเลือกตั้ง
กลุ่มประชาชนที่สนับสนุนลุงตู่ยังแสดงความคิดเห็นกับนายสนธิรัตน์ว่า เป็นการดีที่ไม่ให้ พล.อ.ประยุทธ์ขึ้นเวทีปราศรัย ซึ่งเรื่องนี้นายสนธิรัตน์กล่าวว่า พรรคก็กลัวเป็นเป้าโจมตีเช่นกัน พร้อมกันนี้ยังเชิญชวนให้ไปเลือกพรรค พปชร. และร่วมฟังการปราศรัยใหญ่ที่จะมีขึ้นในวันที่ 22 มี.ค.นี้
นายสนธิรัตน์ให้สัมภาษณ์ว่า เหตุผลที่ต้องปรับแผนไม่อยากให้เกิดข้อโต้แย้ง ถกเถียงในสังคมและนำตีความเพราะบ้านเมืองต้องเดินหน้า อย่างไรก็ตามพรรคจะออกแบบการให้ พล.อ.ประยุทธ์ช่วยหาเสียงใหม่ หากติดขัดจริงๆ เพราะเรามีแผนหนึ่ง แผนสอง และยังมีอีกหลายวิธี ส่วนวันที่ 10 มี.ค. เป็นวันปราศรัยใหญ่ของพรรคอยู่แล้วที่ จ.นครราชสีมา ซึ่งยังเดินต่อตามแผนแม้ไม่มี พล.อ.ประยุทธ์ ทั้งนี้ ได้คุยกับ พล.อ.ประยุทธ์แล้ว ซึ่งตัวท่านเองอยากพบปะประชาชน แต่เมื่อมีหลายฝ่ายท้วงติงเรื่องข้อกฎหมายก็ต้องรับฟัง และปรับยุทธศาสตร์ตามสถานการณ์ และความเหมาะสมซึ่งยังมีเวลา "ไม่แน่วันที่ 10 มี.ค.อาจมีเซอร์ไพรส์ก็ได้"
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรค พปชร. กล่าวว่า ขณะนี้ทางพรรคกำลังหารืออย่างใกล้ชิดกับทีมงานของ พล.อ.ประยุทธ์ เพราะในหนังสือของ กกต.มีเงื่อนไขแนบท้ายว่าต้องระมัดระวังเรื่องการเอื้อประโยชน์และให้คุณให้โทษ ดังนั้นทีมกฎหมายพรรคกำลังพิจารณาอยู่ว่าสิ่งไหนทำได้ สิ่งไหนทำไม่ได้ แม้ พล.อ.ประยุทธ์จะไม่สามารถช่วยพรรคหาเสียงได้ในช่วงโค้งสุดท้าย แต่ประชาชนก็รับรู้ว่าท่านเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค และมั่นใจว่า พล.อ.ประยุทธ์เหมาะสมในการนำพาประเทศไปสู่ความสงบมั่นคงได้ ส่วนแผนสำรองนั้น พรรคมีโครงการ 30 วันคาราวานทั่วไทยในการหาเสียงช่วงโค้งสุดท้าย และกระแสพรรคก็ดีวันดีคืน ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร พรรคเราได้รับการซัพพอร์ตอย่างดี
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ไม่ขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงช่วยพรรค พปชร.ว่า ไม่อยากไปก้าวล่วง การดีเบตอาจจะไม่สำคัญแล้ว เนื่องจากที่ผ่านมานายกฯ ได้พูดมาตลอด 5 ปี แต่ส่วนตัวต้องการให้นายกฯ ลงพื้นที่เพื่อให้ประชาชนซักถามพูดคุย สะท้อนปัญหาที่อยากให้แก้ไข เพราะหัวใจของนักการเมืองจะต้องเข้าใจและไปสัมผัสประชาชนจริงๆ นายกฯ อาจจะมีข้อมูล แต่ไม่เท่ากับไปสัมผัสพื้นที่จริง บางครั้งการลงพื้นที่อาจจะโดนชาวบ้านด่าแบบตน แต่ก็ต้องลงไปสัมผัสเพื่อให้รู้ปัญหา
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า กกต.ควรจะตรวจสอบคุณสมบัติของ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค พปชร.ให้เรียบร้อยก่อนที่จะลงพื้นที่ปราศรัยช่วยผู้สมัครของพรรคหาเสียง เพราะพรรคตนเองก่อนจะให้ผู้สมัครไปปราศรัยหาเสียงก็ต้องมีคุณสมบัติที่ถูกต้อง และขณะนี้นายกรัฐมนตรีมีตำแหน่งหลายอย่าง หาก กกต.ยืนยันว่ามีคุณสมบัติถูกต้องทุกอย่างจะได้ชัดเจน
"อนุทิน"ปัดยืนข้างทหาร
นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย(ภท.) กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ไม่ขึ้นเวทีปราศรัยพรรค พปชร.ว่า แต่ละพรรคมีกลยุทธ์กลเม็ด แต่วิธีการสร้างความนิยมนั้น ขอให้ทุกพรรคต่อสู้บนความยุติธรรม อย่าชกใต้เข็มขัด และไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์ใคร ส่วนกรณีพรรค ภท.ถูกมองว่าใกล้ชิดกับทหารรวมถึงพรรค พปชร.นั้น ถ้าใกล้ชิดจริง ทำไมจึงถูกด่าว่าเลอะเทอะ โดยเฉพาะนโยบายกัญชา ส่วนหลังเลือกตั้งพรรคจะร่วมรัฐบาลกับใครได้หรือไม่นั้น เราจะยึดประชาชนเป็นหลัก วันนี้พิสูจน์ได้แล้วว่าเราไม่ได้ติดหนี้บุญคุณใคร และไม่มีจับมือกับใครก่อน ต่างคนต่างแข่งขัน เหมือนการตีกอล์ฟ ที่ต้องทำผลงานของตนเองให้ดีที่สุด เชื่อว่าจะมี ส.ส.มากพอที่จะเข้าไปผลักดันนโยบายได้ ถ้ามีพรรค ภท.จะไม่มีขั้วและจะบอกทุกฝ่ายให้ไปในทางสายกลาง
“แคนดิเดตนายกฯ ที่พรรคภูมิใจไทยจะสนับสนุน ต้องเป็น ส.ส. และมาจากเสียงส่วนใหญ่ของสภาผู้แทนราษฎร เราไม่ยอมให้กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งที่ไม่ได้มาจากประชาชนมาเป็นผู้กำหนด เรารับไม่ได้ที่จะให้คนที่ไม่ได้มาจากประชาชนมาเลือกนายกฯ และไม่เห็นด้วยกับการที่ให้ 250 ส.ว.มาโหวตเลือกนายกฯ รวมถึงการเป็นนายกฯ เสียงข้างน้อยที่มีคะแนนปริ่มๆ ประเทศจะเสียหาย" นายอนุทินกล่าว
ขณะที่พรรคเพื่อชาติ (พ.ช.) นำโดยนายอารี ไกรนรา, ดร.วิโชติ วัณโณ รองหัวหน้าพรรค พร้อมด้วย นายจตุพร พรหมพันธุ์ ผู้ช่วยหาเสียงพรรค นำคณะลงพื้นช่วยผู้สมัครหาเสียง 10 เขตรวด จ.ขอนแก่น ในช่วงเช้าเวทีแรกจัดปราศรัย ที่บึงทามจั๊กจั่น เทศบาลตำบลสีชมพู อ.สีชมพู โดยนายจตุพรกล่าวว่า สถานการณ์ขณะนี้พรรคพลังประชารัฐแม้ว่าไปปราศรัยทุกแห่งเหมือนว่าจะมีประชาชนมาร่วม แต่ทุกคนในวงการเมืองก็รู้ว่าทุกคนมาด้วยเหตุผลอะไร ใช้กลไกอะไรบ้าง ซึ่งตบตาคนอื่นได้ แต่ตบตาคนการเมืองด้วยกันไม่ได้ ส่วนกรณีที่ยกเลิกแผนที่จะนำพล.อ.ประยุทธ์มาช่วยปราศรัยหาเสียง เชื่อว่ามีการประเมินสถานการณ์อย่างดีแล้วว่าการปราศรัยแม้ว่าจะมีคนมาจำนวนมาก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคนนั้นจะไปเลือกพรรค พปชร. เพราะเมื่อประชาชนไม่ได้มาด้วยจิตใจและศรัทธา ก็ไม่มีประโยชน์อันใด
นายจตุพรกล่าวถึงกรณีหากพรรค พปชร.ไม่ได้ ส.ส.เป็นอันดับหนึ่ง จะกล้าชิงตั้งรัฐบาลก่อนพรรคที่ได้เป็นอันดับหนึ่งหรือไม่ ว่าทางการเมืองทุกคนรู้ว่าพรรค พปชร.ไม่มีทางได้อันดับหนึ่ง ซึ่งถ้ามั่นใจได้อันดับหนึ่งคงไม่มีการออกแบบให้ พล.อ.ประยุทธ์แต่งตั้ง ส.ว. 250 คน เพราะฉะนั้นอย่าถามหาความชอบธรรมว่าหากไม่ได้ลำดับหนึ่งแล้วจัดตั้งรัฐบาลก่อนจะมีความชอบธรรมหรือไม่ ความเป็นธรรมไม่เคยมีในรัฐบาลเผด็จการ
ที่บริเวณลานสาธารณะในเขต ต.ชุมแพ อ.ชุมแพ นายจตุพรกล่าวว่า เราเรียกร้องให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ นั้นได้กลับบ้านที่ประเทศไทยมานานถึง 12 ปี เราทำไม่ได้ วันนี้เราจะทำให้ พล.อ.ประยุทธ์นั้นกลับบ้านให้ได้ ด้วยการแสดงพลังของคนเสื้อแดง พลังของกลุ่ม นปช. ที่จะทำกันตามระบอบประชาธิปไตย คือการออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง โดยเลือกพรรคเพื่อชาติทุกคนและทุกเขตเลือกตั้ง ผู้สมัครของพรรคเพื่อชาติทุกคนนั้นจะเข้าไปต่อสู้ตามระบอบประชาธิปไตย โดยจะไล่กลุ่มเผด็จการได้กลับบ้านทุกราย
นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิกาพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) กล่าวว่า ส.ว. 250 คน ตามบทเฉพาะการของรัฐธรรมนูญ 2560 ที่ให้ร่วมโหวตเลือกนายกฯ ได้คือ เครื่องมือในการสืบทอดอำนาจของ คสช.อย่างไม่ต้องสงสัย สุดท้ายแล้วทั้งหมดจะไปอยู่ที่การตัดสินใจของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่จะเป็นคนเคาะเลือก ส.ว.ว่าใครบ้างจะเข้าไปร่วมเลือกนายกฯ ที่มีชื่อของ พล.อ.ประยุทธ์เป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคพลังประชารัฐด้วย ดังนั้นบทบาทของ ส.ว.ชุดนี้สำคัญมาก นั่นคือมีบทบาทร่วมเลือกนายกฯ มีบทบาทสำคัญคือการช่วย คสช.สืบทอดอำนาจ
"คนไทยทั้งประเทศคือคนไทยผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งกว่า 51 ล้านคน จะเป็นผู้ออกไปใช้สิทธิ์ใช้เสียงเลือกเข้ามา แต่ทว่า ส.ว. 250 คน ซึ่งจะคัดสรรมาอย่างไร สัดส่วนภาคประชาชนแบบไหน กลุ่มอาชีพอะไรก็ตาม แต่สุดท้ายคนที่จะประทับตรายอมรับคือ คสช. พูดง่ายๆ ว่ามีคนหนึ่งคนเป็นคนเลือก นั่นหมายความว่าคนทั้งประเทศได้เลือกเข้าสภา 500 คน แต่คนคนเดียวได้เลือกเข้าสภา 250 คน ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่จะมีบทบาทอย่างสูงมากๆ รัฐธรรมนูญฉบับ 2560 ชัดเจนว่ามีการวางกลไกการสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหารไว้อย่างโจ๋งครึ่มที่สุด โดยไม่อายเลย ยิ่งกว่าการทำรัฐประหารตลอดทุกครั้งที่ผ่านมา"
ร้องกกต.จับโกงที่พะเยา
จากกรณีที่นายวิษณุ เครืองาม ชี้แจงว่าพรรคการเมืองสามารถใช้นโยบายปกป้องสถาบันฯ หาเสียงได้นั้น น.ส.พรรณิการ์ วาณิช โฆษกพรรค อนค. กล่าวว่า ทางพรรคไม่มีนโยบายนำสถาบันมาเป็นเครื่องมือทางการเมือง และไม่ต้องการให้พรรคอื่นนำสถาบันมาเป็นเครื่องมือโจมตีทางการเมืองด้วยเช่นกัน
ที่พรรคเพื่อไทย นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรค, พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบโกงการเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย, นางอรุณี ชำนาญยา นายวิสุทธิ ไชยณรุณ และนายไพโรจน์ ตันบรรจง ผู้สมัคร ส.ส.พะเยา พรรคเพื่อไทย ร่วมแถลงข่าวกรณีการกระทำที่อาจจะเป็นการทุจริตการเลือกตั้งใน จ.พะเยา
จากนั้นที่สำนักงาน กกต. น.ส.อรุณีเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนพร้อมหลักฐานภาพถ่าย เพื่อให้ กกต.ลงพื้นที่สืบสวนสอบสวนการทุจริตเลือกตั้ง ได้แก่ การเก็บรวบรวมสำเนาบัตรประชาชนของผู้มีสิทธิเลือกตั้งพร้อมให้พิมพ์ลายนิ้วมือลงในเอกสารที่หัวคะแนนนำมา เพื่อยืนยันว่ามีการจ่ายเงินแล้ว อีกทั้งการแจกอุปกรณ์เครื่องวัดความดันโลหิต ปรอทวัดไข้ เครื่องตรวจวัดระดับน้ำตาล และเครื่องชั่งน้ำหนักให้แก่อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ทุกหมู่บ้าน รวมถึงการก่อสร้างเมรุเผาศพให้กับสุสานบ้านสันป่าค่าง ต.บ้านสาง วงเงิน 8.5 แสนบาท และแจกเงินให้แก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเป็นจำนวนมาก ซึ่งกระทำอย่างเปิดเผยทั่วเขต 1 แต่ไม่มีผู้ใดกล้าเป็นพยาน เนื่องจากเกรงกลัวอิทธิพล
"เชื่อว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง มีชายชุดดำเข้าไปซุ่มจ้องหัวคะแนน โทรศัพท์ข่มขู่ มีรถติดแผ่นป้ายทะเบียนปลอมเข้าไปซุ่มอยู่ในพื้นที่ ขณะที่ตำรวจก็พยายามจะยัดเยียดข้อกล่าวหาเพื่อเอาตัวออกจากสนามการแข่งขัน" น.ส.อรุณีกล่าว
นายชุมสาย ศรียาภัย รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ช่วงโค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้งนั้น สิ่งที่ผู้สมัครส.ส.หลายพรรคกังวลอย่างมาก คือการวางตัวของเจ้าหน้าที่รัฐกับพรรคการเมืองพรรคหนึ่งที่มีความสัมพันธ์กับรัฐบาล ซึ่งอาจจะมีการสั่งการ ใช้บุคลากร หรือใช้อำนาจอันอาจเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับพรรคดังกล่าวได้ ซึ่งถือว่าไม่เป็นธรรมต่อพรรคการเมืองต่างๆ จึงขอเรียกร้องให้ กกต.ในฐานะผู้ดูแลการเลือกตั้ง เข้ามาตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายอย่างเที่ยงธรรม ตรงไปตรงมา ที่สำคัญอยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายหยุดการกระทำที่อาจเป็นการเอาเปรียบกันในทางการเมือง เพราะหากไม่ยุติการกระทำดังกล่าว อาจนำไปสู่การคัดค้านหรือขัดขวางการเลือกตั้ง จนเป็นเหตุทำให้เกิดการรัฐประหารได้อีก
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ กล่าวถึงกรณี กกต.ไปดูงานต่างประเทศในช่วงใกล้เลือกตั้งว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีเปลี่ยนไปแล้ว ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปด้วยตัวเองให้สิ้นเปลืองงบประมาณ สามารถที่จะสไกป์หรือตรวจสอบข้อมูลโดยไม่ต้องเดินทางไปเองก็ได้ แต่เมื่อต้องการไปเจอสภาพจริงแล้วก็ขอให้ใช้งบประมาณให้มีประสิทธิภาพ ถ้าเกิดปัญหาองค์ประชุมกกต. ไม่ครบในการพิจารณาเรื่องต่างๆ เกรงจะไม่ทันการณ์
นายจตุพร พรหมพันธุ์ กล่าวว่า การที่ กกต.จะไปดูงานในช่วงภาวะบ้านเมืองเป็นเช่นนี้ก็ไม่อยากที่จะไปวิจารณ์อะไรมาก เพราะ กกต.ชุดปัจจุบันนี้นั้นทำงานอยู่ภายใต้ความกดดันและการถูกอำนาจเผด็จการกำกับควบคุมอยู่ แต่ก็ขอให้ระวัง เพราะการดูงานที่ผ่านมาก็มีตัวอย่างมาแล้วในสมัยของ พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ
อ้าง กต.เชิญไปดูงาน
ขณะที่สำนักงาน กกต.ออกเอกสารชี้แจงกรณีที่ได้เป็นข่าวว่า “กกต.ทุ่มงบ 12 ล้านบินดูการเลือกตั้ง ตปท. ไร้ประชุม 1 อาทิตย์” ว่า รัฐธรรมนูญกำหนดให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่มีถิ่นที่อยู่นอกราชอาณาจักร การออกเสียงลงคะแนนในห้วงระหว่างวันที่ 4-16 มี.ค. โดยกระทรวงการต่างประเทศได้มีหนังสือเชิญ กกต.ไปตรวจติดตามภารกิจดังกล่าวในประเทศที่มีชุมชนคนไทยอยู่หนาแน่นและมีผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิมาก ซึ่ง กกต.ได้พิจารณาแล้วเห็นว่าการไปปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวเป็นอำนาจของ กกต.ในการควบคุมดูแลการดำเนินการของกระบวนการจัดการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรทั้งหมด เพื่อให้ความมั่นใจว่าจะเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม โดยหาก กกต.แต่ละท่าน หากพบเห็นการกระทำใดอันอาจเป็นเหตุให้การเลือกตั้งมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม หรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย สามารถใช้อำนาจสั่งระงับ ยับยั้ง แก้ไขเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกการเลือกตั้งหรือสั่งให้ดำเนินการเลือกตั้งใหม่ ตามมาตรา 224 ของรัฐธรรมนูญ และมาตรา 26 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย กกต. อีกทั้งจะได้นำผลการตรวจติดตามภารกิจมาใช้เป็นประโยชน์ในการปรับปรุงปัญหา อุปสรรค ของการจัดการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรในอนาคตต่อไปด้วย
ทั้งนี้ ตามมาตรา 7 แห่ง พ.ร.บ.รัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ในระหว่างเวลานับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งใช้บังคับจนถึงวันประกาศผลการเลือกตั้งหากมีความจำ เป็นเร่งด่วนต้องมีการประชุม กกต. ให้มีอำนาจประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดย กกต.แต่ละคนอาจอยู่ ณ สถานที่แตกต่างกันได้ ซึ่งในห้วงการเดินทางที่ผ่านมายังไม่มีประเด็นเร่งด่วนที่ กกต.จะต้องมีการประชุมเพื่อพิจารณาวินิจฉัยแต่อย่างใด
ขอฝากประชาสัมพันธ์ถึงผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่จะไปออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้งในต่างประเทศด้วยว่ากฎหมายได้กำหนดห้ามมิให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งถ่ายภาพบัตรเลือกตั้งที่ตนได้ลงคะแนนแล้ว ซึ่งการกระทำดังกล่าวต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
วันเดียวกัน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมคณะลงพื้นที่ จ.ยะลา เพื่อหาเสียง เดินพบปะทักทายประชาชนในตลาดผังเมือง 4 อ.สะเตง โดยนายอภิสิทธิ์กล่าวปราศรัยที่สวนสาธารณะ ต. โกตาบารู อ.รามัน ตอนหนึ่งว่า การเดินเข้าคูหา วันที่ 24 มีนาคมนี้ เป็นการเลือกอนาคตของประเทศ ถ้าเราพึงพอใจในสภาพที่เป็นอยู่ในปัจจุบันก็มีพรรคการเมืองที่จะสนับสนุนพรรคการเมืองที่ทำอยู่ในปัจจุบัน แต่ไม่ใช่ประชาธิปัตย์ ถ้าจะเลือกอนาคตกับพรรคการเมืองกลุ่มหนึ่งที่บอกว่าเป็นประชาธิปไตย แต่ทุกครั้งที่เข้าไปเป็นรัฐบาล ได้อำนาจประชาชนไปแล้ว แถมเรื่องทุจริต แถมเรื่องใช้อำนาจในทางมิชอบจนบ้านเมืองวุ่นวาย ถ้าอยากเอาบ้านเมืองไปเสี่ยงแบบนั้น ก็มีพรรคการเมืองกลุ่มหนึ่งสนับสนุน แต่ไม่ใช่ประชาธิปัตย์
ที่ จ.หนองบัวลำภู แกนนำพรรคเพื่อไทย นำโดย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งฯ ลงพื้นที่บ้านป่าแดงงาม อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู เยี่ยมชมฟาร์มน้องต้น เกษตรกรตัวอย่างที่ใช้เทคโนโลยีทดแทนสารเคมีในการทำสวนอ้อย จากนั้นคุณหญิงสุดารัตน์พร้อมคณะได้ทดลองขึ้นรถไถซึ่งเป็นรถพรวนดินในไร่อ้อย และร่วมแลกเปลี่ยน รับฟังปัญหาและให้กำลังใจเกษตรกรผู้ได้รับผลกระทบจากการใช้สารเคมีจากการทำเกษตรกรรมในไร่อ้อยที่บ้านนาวัง ต.นาแก อ.นาวัง โดยมีผู้ได้รับผลกระทบจากสารเคมีจำนวน 63 ราย ที่มาจาก อ.นากลาง อ.นาวัง อ.สุวรรณคูหา บางรายได้รับสารเคมีจนติดเชื้อในกระแสเลือด จนต้องตัดขาทิ้งเพราะเนื้อเน่า ขณะเดียวกันยังมีพระภิกษุบางรูปต้องติดเชื้อจากการเดินบิณฑบาตด้วย.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |