ในวันพฤหัสบดีที่ 7 มีนาคม ในช่วงเวลา 15.00 น. จุดโฟกัสคงอยู่ที่ “ศาลรัฐธรรมนูญ” จะอ่านคำวินิจฉัยคดีที่ 1/2562 ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้วินิจฉัยเพื่อมีคำสั่งยุบพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 92 ...๐ แต่ที่ขำไม่ออกคือ ในวันพุธที่ 6 มี.ค. “สำนักกิจการพรรคการเมืองและการออกเสียงประชามติ” ได้เผยแพร่เอกสารข้อมูลพรรคการเมืองที่ยังดำเนินการอยู่ฉบับอัพเดตล่าสุดว่า มี พรรคการเมืองที่ยังดำเนินการอยู่ 103 พรรค โดย มีพรรคสิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมือง 12 พรรค ได้แก่ พรรคประชาราช, พรรคพลังอุดร, พรรคกิจสังคม, พรรคประชาสันติ, พรรคอาสาสมัครไทย, พรรคคนไทย, พรรคพลังพลเมือง, พรรคเสรีนิยม, พรรคพลังไทยเครือข่าย, พรรครักษ์สันติ และพรรคพลังเกษตรกรไทย ก็ไม่รู้ว่าหลังวันพฤหัสบดีจะเพิ่มพรรคสิ้นสภาพเป็นเลข “ลักกี้นัมเบอร์” หรือไม่อย่างไร ...๐ ที่น่าสนใจคือ ตัวแทนของพรรค 6 คนของ ทษช.ที่จะเข้าไปร่วมรับฟังคำตัดสินนั้น นอกจากระดับหัวหน้าอย่าง “ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช” หัวหน้าพรรคไทย และ “มิตติ ติยะไพรัช” เลขาธิการพรรคแล้ว ยังมี “จาตุรนต์ ฉายแสง” ประธานยุทธศาสตร์พรรค และ “ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” ประธานรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งของพรรคเข้าร่วมด้วย ...๐ ชัดเจนแล้วที่ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะไม่ขึ้นเขียงให้บรรดาพวกจ้องตาเป็นมันหวังจองกฐินในการขึ้นเวทีไฮด์ปาร์กตลาดเซฟวันที่โคราชในวันที่ 10 มี.ค.นี้ แต่ดูเหมือน “สถานะ” ของหัวหน้า คสช.ในเรื่องเป็นหรือไม่เป็น “เจ้าหน้าที่ของรัฐ” ยังมี “วิบากกรรม” ให้ต้องเผชิญอยู่ ต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุด “ขาร้อง” อย่าง “ศรีสุวรรณ จรรยา” ก็ไปยื่นกับ “ผู้ตรวจการแผ่นดิน” ให้พินิจพิเคราะห์อีกทางหนึ่ง เรียกว่าไม่พึ่ง “กกต.” ที่ช่วงนี้ชีพจรลงเท้าไปตระเวนดูงานเลือกตั้งล่วงหน้านอกราชอาณาจักรอย่างพร้อมเพียงกัน ...๐ แล้วที่ “สังคม” สงสัยกันว่า ที่ 7 อรหันต์ใช้งบประมาณไป 12 ล้านบาทในการไปทัวร์ต่างประเทศครั้งนี้ โดย กกต.มีการออกเอกสารชี้แจงเรื่องดังกล่าว ก่อนทิ้งท้ายว่ากฎหมายได้กำหนดห้ามมิให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งถ่ายภาพบัตรเลือกตั้งที่ได้ลงคะแนนแล้ว ซึ่ง การกระทำดังกล่าวต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับนั้น จะทำได้ประการใด เพราะเขาเหล่านั้นอยู่ในต่างประเทศ และที่สำคัญหากมีการนำบัตรลงคะแนนดังกล่าวมาเผยแพร่ผ่านโลกสังคมออนไลน์จะมีการมาตรการลงโทษหรือจัดการอย่างไรดีเล่า ...๐ นี่เป็นหนึ่งในข้อกฎหมายที่เรียกได้ว่า “มึน-งง” กันอย่างยิ่ง ไม่ต่างจากกรณี “นิคม  บุญวิเศษ” หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทยได้เดินทางมายื่นหนังสือถึง กกต. เพื่อแจ้งมติพรรคที่จะขับ 4 ผู้สมัคร ส.ส.พ้นจากการเป็นสมาชิกพรรค! เพราะตอนนี้ กกต.ก็รับรองผู้สมัครไปแล้ว เมื่อขับออกจากพรรคหากผลเลือกตั้งจับพลัดจับผลูออกมาว่า 1 ใน 4 คนบังเอิญชนะการเลือกตั้งแล้วจะเป็นอย่างไร นี่ก็น่าจะทำให้วงการเมืองได้สับสนอลหม่านกันไปอีก ...๐ พูดเรื่องฟ้องร้องกันแล้วไม่พูดถึง “พรรคอนาคตใหม่” ของ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ที่ปากพร่ำประชาธิปไตยอยู่เนืองนิตย์ไม่ได้ เพราะล่าสุดได้ส่งโฆษกพรรคอย่าง "น.ส.พรรณิการ์ วานิช" พร้อมทีมทนายความพรรคยื่นฟ้อง "ม.จ.จุลเจิม ยุคล" และ “บรรณาธิการสำนักข่าวทีนิวส์” ในข้อหาหมิ่นประมาท ซึ่งเข้าใจได้ว่าเป็น “สิทธิ” ในการปกป้องตนเองที่จะใช้กระบวนการยุติธรรมตัดสิน แต่ก็อยากกระซิบบอก “ธนาธรและน้องช่อ” ว่า ในเมื่อตัวเองอ้าง “สิทธิ” แบบนี้ได้ เมื่อใครเขาฟ้องร้อง “พรรคส้มหวาน” หรือ “ธนาธร” ก็อย่าโวยวายว่าถูกกลั่นแกล้ง หรือถูกอำนาจเผด็จการรังแก ไม่อย่างนั้นมันจะเข้าข่าย “เอาดีเข้าตัว เอาชั่วใส่คนอื่น” นะเธอ ...๐ แล้ว “ทีนิวส์” ก็ไม่อยู่เฉยเช่นกัน เมื่อออกแถลงการณ์ยืนยันถึงเหตุผลในวิพากษ์วิจารณ์ “ธนาธรและปิยะบุตร แสงกนกกุล” โดยลากโยงไปถึง “นิตยสารฟ้าเดียวกัน” ซึ่ง ทีนิวส์น่าจะเอารวมคำจดแจ้งพรรคซึ่งนายทะเบียนพรรคการเมืองได้ประกาศรับรองที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเล่ม 135 ตอนที่ 87 ง ลงวันที่ 15 พ.ย.2561 โดยเฉพาะในเรื่องคำประกาศอุดมการณ์ทางการเมือง ข้อ 6 ก็น่าจะสอดรับกับการประกาศก้องว่าจะปฏิบัติภารกิจ 2475 ให้สำเร็จได้อย่างดี ...๐ ทิ้งท้ายด้วยข่าวเศร้าสำหรับคอกีฬาในโลกออนไลน์ ในประเทศไทย-ลาว-กัมพูชา เมื่อ ดีลถ่ายทอดสดศึก “พรีเมียร์ลีก” ของเมืองผู้ดีผ่านเฟซบุ๊ก 3 ปีตั้งแต่ฤดูกาล 2019-2020 ล้มไม่เป็นท่าแล้ว หลังเจรจามากว่า 8 เดือน ก็ไม่รู้ว่าดีลนี้จะมีการทบทวนหรือไม่อย่างไร แต่ที่แน่ๆ ก็ทำให้ช่องดิจิตอลและช่องบอกรับสมาชิกหายใจโล่งไปเปลาะหนึ่งทีเดียวเชียว ...๐