6 มี.ค.62 - นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย(รปช.)โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กแฟนเพจ Suthep Thaugsuban (สุเทพ เทือกสุบรรณ) โดยมีเนื้อหาดังนี้
สวัสดีครับพี่น้องมวลมหาประชาชนทุกท่าน
เมื่อวานนี้มีพี่น้องอดีต กปปส.มาถามผมว่า “ผู้ใหญ่ที่จะลาสังขารจากโลกอย่างพวกเราๆ จะยังขีดเขียนกำหนดการเมือง กำหนดสังคมกันได้หรือไม่”
นี่เป็นคำพูดของเลขาธิการพรรคที่อ้างว่าเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่
ฟังแล้วอึ้งไปเล็กน้อยครับ ! ผมอายุ 70แล้ว ก็น่าจะอยู่ในข่ายที่ว่านี้เหมือนกับอีกหลายๆคน แต่คนวัยใกล้ลาสังขารจากโลกนี้ ผมเชื่อว่าเขาก็ผ่านโลกมาพอสมควร
เพราะเขาเคยเห็นทั้งความสำเร็จและความล้มเหลวมาแล้วจากหลายๆ รัฐบาล
เขาเคยเห็นกลวิธีการหลอกล่อเอาคะแนนเสียงของนักการเมือง แล้วก็เข้าไปถอนทุนคืนจนประเทศ“พังฉิบหาย”
เขาเคยเห็นว่ามีพวกใดบ้างที่เข้ามาโกงชาติบ้านเมือง โดยไม่สนใจเสียงห้ามของประชาชนหัวหงอกหัวดำ
เขาเคยเห็นว่าพรรคการเมืองมักอ้างแต่อุดมกาณ์ประชาธิปไตย แต่กลับใช้คำนี้หาประโยชน์ให้ตัวเองและพวกพ้อง
เขารู้ว่าตัวร้ายของจริง อาจไม่ใช่การทำรัฐประหาร แต่มาจากระบอบประชาธิปไตยที่ไร้ธรรมาภิบาล นักการเมืองไร้คุณธรรม
ประสบกาณ์ทั้งหมดนี้ สั่งสมผ่านกาลเวลามาอย่างโชกโชนตลอด 80ปีที่ประเทศไทยปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข เพื่อหวังที่จะมีโอกาสได้อยู่เห็น ลูกๆ หลานๆ ไทยของเรา มีชีวิตอยู่กันอย่างสงบสุข คนในวัยใกล้ลาสังขารแบบพวกผมจึงตั้งใจใช้ทุกประสบการณ์ ทุกความรู้ที่มี ทุกอณูของแรงที่เหลืออยู่ ประคับประคองให้ประเทศชาติเดินต่อไปอย่างมั่นคง และจะไม่ยอมอยู่เฉยๆ ปล่อยให้ประเทศพังพินาศไปต่อหน้า และจะไม่ยอมให้ใครมาอ้างทฤษฎีตะวันตก แล้วเอ่ยประนามประเทศชาติ โดยที่ตัวเองสัมผัสเพียงน้อยนิดแต่คิดว่ารู้ทั้งหมด แล้วประกาศว่า จะขอกำหนด”อนาคต” เอง โบราณว่า “อาบน้ำร้อนมาก่อน” ยังทันสมัยอยู่นะครับ
“สังขาร” ไม่สำคัญเท่า “สำนึกรักแผ่นดิน”
โพสต์ของนายสุเทพ สื่บเนื่องมาจาก นาย ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ โพสต์ข้อความผ่านเพจ Piyabutr Saengkanokkul เมื่อวันที่ 5มี.ค.ที่ผ่านมา ถึงการไปปราศรัยหาเสียงที่ ชุมชนตลาดนัดหน้ามหาวิทยาลัยมหาสารคามเมื่อวันที่4 มี.ค. ว่า ค่ำนี้ผมได้มาพบปะกับพี่น้องประชาชนนิสิตนักศึกษาที่ชุมชนตลาดนัดหน้ามหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยม ผมขอขอบคุณทุกๆ คน และอยากเชิญชวนให้ทุกคนร่วมมาเป็นพลังในการสร้างอนาคตใหม่ร่วมกันครับ
โดยเฉพาะน้องๆ นิสิตนักศึกษาเยาวชน พวกเราทุกคนคือผู้ที่จะต้องใช้ชีวิตอยู่กับประเทศนี้ไปอีกอย่างน้อย 40-50 ปี แต่ทุกวันนี้มีผู้ใหญ่จำนวนหนึ่ง ที่อีกไม่นานก็จะลาสังขารจากโลกกันไปแล้ว มาขีดเขียนกำหนดการเมือง กำหนดสังคม กำหนดอนาคตให้กับเราเป็นผู้ต้องใช้มัน ทั้งที่คนรุ่นใหม่ต่างหากคือกลุ่มคนที่มีสิทธิชอบธรรมอย่างเต็มที่ในการกำหนดชะตากรรมของตัวเองและอนาคตของประเทศนี้
คนรุ่นใหม่ทุกคนที่จะเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งครั้งแรกมีจำนวนอยู่ราวๆ 7 ล้านคน ถ้าออกมาใช้สิทธิอย่างน้อยครึ่งหนึ่งหรือ 3.5 ล้านคน จะสามารถกำหนดจำนวน ส.ส. ในสภาได้ถึง 50 คน หรือ 1 ใน 10 ของสภาผู้แทนราษฎร มีส่วนในการกำหนดความเป็นไปของประเทศนี้ได้
อยากให้สังคมนี้หน้าตาออกมาเป็นอย่างไร เรามากำหนดร่วมกันได้
อย่าไปคิดว่าการเมืองเป็นเรื่องไกลตัวเป็นเรื่องสกปรก แล้วปล่อยให้ชะตากรรมของประเทศตกอยู่ในมือของคนที่เราไม่ได้เลือก มาออกนโยบายที่จะส่งผลต่อชีวิตของเรา.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |