6 มี.ค.62 - นายไทกร พลสุวรรณ อดีตแกนนำกลุ่มอีสานกู้ชาติ โพสต์เฟซบุ๊ก โดยมีเนื้อหาดังนี้
ไม่มีเพื่อไทยเลือกธนาธร...!
เป้าหมาย ส.ส. 251+...
พรรคแนวร่วมใหม่หลัง 7 มีนาฯ
หลังการยุบพรรคไทยรักษาชาติ(หากมีการยุบ)จะเกิดการร่วมมือระหว่างสองพรรคการเมืองอย่างเหนียวแน่น เป็นการร่วมมือโดยยึดเป้าหมายทางการเมืองเดียวกัน
หลังวันที่ 7 มีนาคม 2562 หากมีการยุบพรรคไทยรักษาชาติ จะทำให้ทั้งสองพรรคการเมืองปรับยุทธวิธีและมุ่งเน้นการเสียงในพื้นที่เป้าหมาย
(1)พรรคเพื่อไทยจะรุกหาเสียงในพื้นที่ภาคอีสานและภาคเหนืออย่างหนัก เพื่อเป้าหมายกวาด ส.ส. ยกภาค ไหนๆก็ไม่ได้ ส.ส. ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้วก็เน้น ส.ส. เขตเป็นหลัก
โดยกำหนดเป้าหมาย ส.ส. เขต ในภาคอีสานต้องได้ 100 ที่นั่งขึ้นไป
และในพื้นที่ภาคเหนือ(ตอนบน+ตอนล่าง)ต้องได้ ส.ส. เขต 50 ที่นั่งขึ้นไป
โดยจะใช้จำนวน ส.ส. ของทั้งสองภาคเป็นฐานต้นทุน ส.ส. แล้วนำ ส.ส. เขตจาก กทม. และภาคกลางมาร่วมเป็นส่วนขยาย โดยเป้าหมาย ส.ส. เขต ในพื้นที่ กทม. และภาคกลาง ตั้งเป้าหมายไว้ 40 ที่นั่ง
แผนนี้ต้องการเพิ่มจำนวน ส.ส. ของพรรคเพื่อไทยให้ได้ถึง 190 ที่นั่ง
(2)พรรคอนาคตใหม่เดิมหาเสียงแบบปูพรม 350 เขต แต่หากมีการยุบพรรคไทยรักษาชาติ พรรคอนาคตใหม่จะปรับยุทธวิธีหาเสียงใหม่ โดยมุ่งเน้นไปที่ 150 เขตเลือกตั้งที่ไม่มีผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย เช่น ภาคใต้ กทม.บางส่วน ภาคกลางและภาคอีสานบางเขต
จะเกิดวาทกรรมชี้นำทางการเมืองในพื้นที่ดังกล่าว เช่น
"ไม่มีเพื่อไทยเลือกอนาคตใหม่"
"ไม่มีเพื่อไทยเลือกธนาธร"
จะมีกระบวนการเร่งขยายวาทกรรมดังกล่าวให้กระขายไปทั่วเขตเลือกตั้ง เป้าหมายเพื่อให้คะแนนเดิมของพรรคเพื่อไทยที่ยกให้พรรคไทยรักษาชาติ เทคะแนนไปเลือกพรรคอนาคตใหม่
จากข้อมูลพรรคไทยรักษาชาติประเมินคะแนนโดยเฉลี่ยของตนอยู่ที่ 3 ล้านคะแนนบวก เฉลี่ยเขตละ 15,000-20,000 คะแนนขึ้นไป
เมื่อดูฐานคะแนนเดิมของพรรคอนาคตใหม่ที่กระจายไปทั่วประเทศ มีหนาแน่นในเขตเมืองใหญ่ๆ และเบาบางในเขตชนบท ซึ่งพรรคอนาคตใหม่ก็ประเมินคะแนนของตนเองว่าจะมีคะแนนสะสมจากทั่วประเทศประมาณ 1,800,000-2,000,000 คะแนน ซึ่งอาจมีบางคนแย้งว่าคนรุ่นใหม่(อายุ 18-25 ปี) มีเกือบ 8 ล้านคน ซึ่งส่วนใหญ่น่าจะเลือกธนาธร ความจริงก็ใช่ แต่คนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ไปเลือกตั้งน้อยที่สุด ไปเลือกตั้งไม่ถึง 40% ในการเลือกตั้งแต่ละครั้ง
แต่ถ้าหากแผนเทคะแนนของพรรคไทยรักษาชาติ (ฐานคะแนนเดิมของพรรคเพื่อไทย)ประสพความสำเร็จ จะสามารถเติมคะแนนให้พรรคอนาคตใหม่อีกกว่า 3 ล้านคะแนน ซึ่งจะทำให้พรรคอนาคตใหม่มีคะแนนรวมทั่วประเทศใกล้เคียง 5 ล้านคะแนน
หากเป็นเช่นนี้จะทำให้พรรคอนาคตใหม่ได้ ส.ส. ระบบบัญชีรายชื่อมากกว่า 60 คน โดยยึดหลักการคำนวณจากฐานคะแนน 80,000 คะแนนได้ ส.ส. หนึ่งคน
แต่ความเป็นจริง ส.ส. ระบบเขตของพรรคเพื่อไทยกินแดนมายัง ส.ส. ระบบบัญชีรายชื่อจำนวนมาก ทำให้พรรคอนาคตใหม่ได้ ส.ส. ระบบบัญชีรายชื่อน้อยลงเหลือประมาณ 40-43 คนเท่านั้น
หมายเหตุ
ยังไม่สามารถประเมินความร่วมมือของพรรคเพื่อไทยกับพรรคเพื่อชาติและพรรคเสรีรวมไทยได้ เนื่องจากข้อตกลงและแนวทางทางการเมืองยังไม่นิ่ง
พรรคเพื่อชาติมีปัญหาการจัดการภายใน
พรรคเสรีรวมไทยหัวหน้าพรรคมีความเป็นตัวเองสูง
หากมีความคืบหน้าจะนำเสนอให้ทราบอีกครั้ง
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |