"บิ๊กโจ๊ก" เผยรองหัวหน้า อนค.เลื่อนรับทราบข้อหาแชร์ภาพข่าว "บิ๊กป้อม" จิบกาแฟแก้วละ 1.2 หมื่น 10 มี.ค.นี้ จ่อฟันสปอนเซอร์เว็บไซต์ฐานผู้สนับสนุน "ประวิตร" เชื่อดำเนินคดี อนค.ไม่กระทบคสช. "ช่อ" แจง “เสธ.โหน่ง” ไม่มีเจตนาลบโพสต์ขอโทษแล้วพร้อมต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรม ปัด "ธนาธร" เอี่ยวหุ้น PICNI-บ.วันโอซี อ้างใกล้เลือกตั้ง อนค.โดนมรสุม นัดฟ้องดะคดีอาญา "จุลเจิม-ทีนิวส์" คนแชร์ข่าวใส่ร้าย อนค.
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ วันที่ 5 มีนาคม พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) กล่าวถึงกรณีการออกหมายเรียก พล.ท.พงศกร รอดชมพู รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ที่ร่วมกันแชร์ข่าว "บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม "เบิกงบกาแฟแก้วละ 12,000 บาท" ว่าคดีดังกล่าวได้ออกหมายเรียกและดำเนินคดีผู้ที่เกี่ยวข้องในการแชร์ข่าวดังกล่าว 6 คน 5 คนมารับทราบข้อกล่าวหา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์เรียบร้อยแล้ว เหลือเฉพาะ พล.ท.พงศกร ซึ่งเมื่อวันที่ 4 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้ติดต่อผ่านตนเพื่อที่จะเข้ารับทราบข้อกล่าวหาในช่วงเย็น แต่ปรากฏว่าเมื่อถึงเวลา พล.ท.พงศกรได้ให้เลขาฯ ส่วนตัวเลื่อนเข้ารับทราบข้อกล่าวหาเป็นวันที่ 10 มี.ค. ถึงจะขอเลื่อนไป แต่ถ้าออกหมายเรียก 2 ครั้งแล้วยังไม่มาพบพนักงานสอบสวน ก็จะถูกออกหมายจับตามกระบวนการขั้นตอนของกฎหมาย
"พล.ท.พงศกรถูกดำเนินคดีเป็นผู้ร่วมแชร์ข่าวโดยนำข้อมูลมาจากเว็บไซต์ www.one31news.com ซึ่งมีฐานข้อมูลอยู่ต่างประเทศ ก่อนนำมาเผยแพร่ในประเทศไทย เชื่อเป็นขบวนการเชื่อมโยงต่อกัน ส่วนภาพที่ปรากฏเป็นข่าวเป็นภาพถ่ายจริงของ พล.อ.ประวิตร และนายไพศาล พืชมงคล ที่ปรึกษา นั่งดื่มกาแฟด้วยกันตั้งแต่เมื่อปี 2558 แล้วนำมารวมกันกับบิลค่าอาหารเพื่อบิดเบือนข่าว ส่วนเว็บไซต์ดังกล่าวมีใครเป็นผู้สนับสนุนหรือสปอนเซอร์ เจ้าหน้าที่จะดำเนินคดีทั้งหมดฐานผู้ให้การสนับสนุน" พล.ต.ท.สุรเชษฐ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า การดำเนินคดีต่างๆ ในส่วนของพรรคการเมืองที่อยู่ฝั่งตรงข้ามรัฐบาลมีใบสั่งหรือไม่ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ตอบว่า ไม่มีใบสั่งแต่อย่างไร พรรคไหนทำผิดกฎหมายถูกดำเนินคดีทั้งหมด ไม่เลือกปฏิบัติ และไม่มีใบสั่งใครทั้งสิ้น
ด้าน พล.อ.ประวิตรกล่าวถึงกรณีมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดกับผู้ที่โจมตี คสช. ว่า ก็ดำเนินคดีไปปกติ เมื่อถามถึงการดำเนินคดีกับที่คนแชร์ข่าวเกี่ยวกับ พล.อ.ประวิตร ในลักษณะบิดเบือนว่าดื่มกาแฟราคาแพงได้อย่างรวดเร็วพอใจหรือไม่ พล.อ.ประวิตรจะพอใจได้อย่างไร เจ้าหน้าที่เขาดำเนินการตามกฎหมาย
เมื่อถามว่า พรรคอนาคตใหม่ระบุ คสช.กลัวพรรคอนาคตใหม่จะชนะการเลือกตั้ง จึงดำเนินคดีกับแกนนำพรรค พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “ก็รู้อยู่แล้วจะถามทำไมวะ” ถามอีกว่าการดำเนินคดีในช่วงการเลือกตั้งจะส่งผลเสียต่อ คสช.หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “ไม่เป็นผลเสีย กฎหมายจะเว้นวรรคได้หรือ”
ที่พรรคอนาคตใหม่ น.ส.พรรณิการ์ วาณิช โฆษกพรรค กล่าวว่า การจับกุม พล.ท.พงศกร ยังไม่ได้เกิดขึ้น และไม่ได้ไปมอบตัว รวมถึงไม่มีหมายจับ แต่มีเพียงหมายเรียก ซึ่งคนฟ้องคือ พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ ตัวแทนของ คสช. คดีดังกล่าว พล.ท.พงศกร เป็นหนึ่งในผู้แชร์ข่าว พล.อ.ประวิตร ช่วงหนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้านี้จริง แต่เมื่อทราบว่าเป็นข่าวปลอม ท่านก็รีบลบแล้วรีบชี้แจงขอโทษ พร้อมยืนยันเจตนาว่าไม่ได้ตั้งใจ ในโพสต์ดังกล่าวอยู่หน้าบนหน้าเฟซบุ๊กเพียงไม่กี่นาที แต่ก็นำมาสู่การดำเนินคดี 1 ใน 6 คน โดยใช้ พ.ร.บ.คอมพ์ เช่นเดียวกับกรรมการบริหารพรรค 3 คน ที่โดนคดีก่อนหน้า ในฐานความคิด 1.การนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ 2.ทำให้เกิดความตื่ตระหนกต่อสาธารณะและประชาชน 3.ภัยความมั่นคงของรัฐ
โฆษกพรรค อนค.กล่าวว่า พล.ท.พงศกร พร้อมต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรม เรื่องนี้ไม่ได้สร้างความตื่นตระหนกใดๆ ให้สังคม และกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ หากจะกระทบกับความมั่นคงของใครก็กระทบกับ พล.อ. ประวิตรคนเดียวเท่านั้น และเราเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมว่าจะให้ความเป็นธรรมกับพรรคอนาคตใหม่ แม้จะมี 6 คนถูกออกหมายเรียก แต่ข่าวปลอมแบบนี้มีอยู่ทั่วไป ซึ่งคนที่แชร์มีอีกจำนวนมากที่แชร์แล้วไม่ได้โดนดำเนินคดี นี่เป็นการเลือกปฏิบัติหรือไม่ หรือเป็นความจงใจที่จะสกัดกั้นพรรคอนาคตใหม่ และเป็นระลอก 2 ในการใช้ พ.ร.บ.คอมพ์ เล่นงานพรรคอนาคตใหม่หรือไม่
“เราคิดว่า พ.ร.บ.คอมพ์มีปัญหา แม้การแชร์ข่าวปลอมไม่เป็นผลดีก็จริง แต่โทษของ พ.ร.บ.ยังถือว่าหนักเกินไป และง่ายมากในการใช้กฎหมายนี้กำจัดศัตรูทางการเมือง แต่ยิ่งเราโดนโจมตีมาก เราก็ยิ่งมั่นใจมาก เพราะแสดงว่าผู้มีอำนาจกลัว” น.ส.พรรณิการ์ กล่าว
น.ส.พรรณิการ์กล่าวถึงกรณีข่าวปลอมของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค อนค. กรณีการถือหุ้นของบริษัท PICNI ว่านายธนาธรถูกโจมตีว่าเข้าไปเกี่ยวข้องกับหุ้นที่หลอกลวงประชาชน ทั้งนี้ ช่วงที่บริษัทดังกล่าวมีปัญหากับช่วงซื้อ-ขายหุ้นของนายธนาธร เป็นคนละช่วงเวลาชัดเจน ซึ่งนายธนาธรเป็นหนึ่งในคนที่ผู้ใหญ่ขอร้องให้เข้าไปซื้อหุ้นหลังมีคดีความปัจจุบันได้ขายหุ้นดังกล่าวไปหมดแล้ว เช่นเดียวกับกรณีบริษัท วันโอซี นายธนาธรชี้แจงว่าบริษัทดังกล่าวเป็นบริษัทที่นายธนาธรตั้งไว้เพื่อดำเนินกิจการส่วนตัว แต่ไม่ได้มีการดำเนินกิจการใดๆ เป็น Slipping company เป็นภาวะปกติของนักธุรกิจ
“ขอให้ร่วมกันตั้งข้อสังเกตว่าทำไมช่วงใกล้เลือกตั้งพรรคอนาคตใหม่ถึงถูกโจมตีทุกวัน วันละหลายๆเรื่อง ทุกเรื่องที่เราโดนยื่นฟ้องพรรคอนาคตใหม่จะทำตามกระบวนการตามกฎกหมาย อย่างกรณีของคุณศรีสุวรรณ เราไม่กังวล ลำพังการพิมพ์ประวัติหัวหน้าพรรคผิด ขณะที่นายเจษฎ์ โทณะวณิก คนที่เปิดประเด็นเรื่องนี้เองได้ยอมรับกับสื่อมวลชนแล้วว่าจำผิด และเรื่องดังกล่าวไม่ถึงขั้นยุบพรรค คนที่กลัวและคนที่ทำทุกวิถีทางในการสกัดกั้นพรรคอนาคตใหม่ คสช.ต่างหากคือผู้ที่กำลังกลัว เพราะเรากำลังเดินหน้าสู่ชัยชนะในวันเลือกตั้ง”
เมื่อถามว่า ยังคาดหวังว่าจะได้ 70 ที่นั่งตามที่นายธนาธรเคยบอกไว้ก่อนหน้านี้หรือไม่ น.ส.พรรณิการ์กล่าวว่า อาจไม่เหมือนเดิม ตอนนี้เราไม่สามารถพูดถึงผลโพลได้ เพราะผิดกฎหมายเลือกตั้ง แต่อีก 20 วัน เราทำงานหนักและเต็มที่ สัปดาห์ที่ผ่านมา ช่วงที่มีกระแสข่าวโจมตีพรรคอนาคตใหม่ พอเราลงพื้นที่ก็มีแต่กระแสให้กำลังใจ เพราะฉะนั้นตัวเลข 70 อาจเป็นตัวเลขในอดีต และเราคาดหวังตัวเลขในอนาคตที่ดีกว่านั้น
โฆษกพรรค อนค.กล่าวว่า งานปราศรัยใหญ่ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 22 มี.ค.2562 ที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น (ดินแดง) โดยในช่วงเช้าจะมีการจัดขบวนแห่ปราศรัยเพื่อประชาสัมพันธ์ งานช่วงเย็น และพบปะประชาชนเป็นครั้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง จะเป็นวันที่ชาวอนาคตใหม่จะมารวมตัวกันครั้งใหญ่ที่สุด จนเต็มพื้นที่ภายในสนามกีฬาที่จัดเตรียมไว้ จะเป็นวันที่ตอกย้ำว่าอนาคตใหม่ที่เราต้องการคืออะไร ทำไมต้องเลือกพรรคอนาคตใหม่ หลัง 8 ปีที่ไม่มีการเลือกตั้ง เราต้องการย้ำว่าต้องเลือกพรรคใหม่ คนใหม่ ประเทศไทยจะต้องไม่เหมือนเดิน
นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค อนค. โพสต์ข้อความผ่านเพจ Piyabutr Saengkanokkul ถึงการไปปราศรัยหาเสียงที่ชุมชนตลาดนัดหน้ามหาวิทยาลัยมหาสารคาม เมื่อวันที่ 4 มี.ค.ว่า พวกเราทุกคนคือผู้ที่จะต้องใช้ชีวิตอยู่กับประเทศนี้ไปอีกอย่างน้อย 40-50 ปี แต่ทุกวันนี้มีผู้ใหญ่จำนวนหนึ่ง ที่อีกไม่นานก็จะลาสังขารจากโลกกันไปแล้วมาขีดเขียนกำหนดการเมืองกำหนดสังคม กำหนดอนาคตให้กับเราเป็นผู้ต้องใช้มัน ทั้งที่คนรุ่นใหม่ต่างหากคือกลุ่มคนที่มีสิทธิชอบธรรมอย่างเต็มที่ในการกำหนดชะตากรรมของตัวเองและอนาคตของประเทศนี้ คนรุ่นใหม่ทุกคนที่จะเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งครั้งแรกมีจำนวนอยู่ราวๆ 7 ล้านคน ถ้าออกมาใช้สิทธิอย่างน้อยครึ่งหนึ่ง หรือ 3.5 ล้านคน จะสามารถกำหนดจำนวน ส.ส.ในสภาได้ถึง 50 คน หรือ 1 ใน 10 ของสภา มีส่วนในการกำหนดความเป็นไปของประเทศนี้ได้ อยากให้สังคมนี้หน้าตาออกมาเป็นอย่างไร เรามากำหนดร่วมกันได้
มีรายงานว่า ทีมงานประชาสัมพันธ์พรรค อนค. เผยแพร่กำหนดการนัดหมายสื่อมวลชนร่วมทำข่าวพรรค อนค. วันที่ 6 มี.ค. เวลา 08.00 น. ที่ศาลอาญา รัชดาฯ เพื่อดำเนินการฟ้องร้อง 3 คดี คือ 1.ยื่นฟ้องคดีอาญา ม.จ.จุลเจิม ยุคล กรณีโพสต์เฟซบุ๊กกล่าวหาพรรค อนค.และหัวหน้าพรรคมีนโยบายล้มล้างสถาบันฯ 2.ยื่นฟ้องคดีอาญากรณีเว็บไซต์ในเครือ T-news กล่าวหาพรรค อนค.และหัวหน้าพรรคมีนโยบายล้มล้างสถาบันฯ และ 3.ยื่นฟ้องคดีอาญาต่อบุคคลที่ส่งต่อข่าวเท็จใส่ร้ายพรรค อนค. และหัวหน้าพรรคกรณีเป็นเจ้าของโรงเลื่อยเถื่อน
นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวกรณีรองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ถูกตำรวจแจ้งข้อหาว่า คืออีกหนึ่งตัวอย่างของการใช้กฎหมายและเจ้าหน้าที่ของรัฐเป็นเครื่องมือทางการเมืองของรัฐบาล คสช. แม้ข้อความที่นำไปโพสต์ต่อว่ารอง นรม. คนหนึ่งกินกาแฟแก้วละหลายหมื่นโดยใช้งบประมาณของทางราชการจะเป็นความเท็จก็ตาม แต่ก็ไม่ได้ทำให้เกิดความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกกับประชาชน จึงไม่ครบเป็นองค์ประกอบความผิดตามกฎหมายคอมพิวเตอร์.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |