ไม่ได้แอบเข้าไปสอดๆ ส่องๆ หรืออันที่จริงก็น่าจะพอๆกับ “เสือก”นั่นแหละ...ในเฟซบุ๊คของท่านอดีตนายกฯ “อภิสิทธิ์” (หล่อชรา) มานานแล้ว แต่ล่าสุด...เมื่อลองแวบๆเข้าไปเสือก ไปสอดๆส่ายๆ ก็น่าจะพอได้เห็นคำตอบ เห็นเค้าโครงของการเมืองหลังการเลือกตั้งที่รักผ่านพ้นไปแล้ว ค่อยๆเริ่มปรากฏขึ้นมา แบบเลือนๆรางๆ...
--------------------------------------------
โดยเฉพาะเมื่อได้เห็นการ “โพสต์”คราวล่าสุด...ที่ออกจะเป็น “ทางการ”อยู่พอสมควร อันอาจถือเป็นการ “ประกาศจุดยืน”ของพรรคประชาธิปัตย์แบบสั้นๆง่ายๆ แต่ออกจะมีน้ำหนักและความชัดเจนมิใช่น้อย นั่นก็คือการประกาศว่า “ประชาธิปไตยที่ใช้การได้...ต้องสุจริตเท่านั้น” หรือประชาธิปไตยในความหมายที่พรรคประชาธิปัตย์เขาพร้อมที่จะยึดมั่น ถือมั่น ต้องเป็นประชาธิปไตยในแบบที่หัวหน้าพรรคและอดีตนายกฯ “อภิสิทธิ์”ท่านบอกเอาไว้แบบเต็มปาก-เต็มคำว่า “ผมไม่มีวันยอมให้พรรคที่ทุจริตมานำพาประเทศ” หรือ “ผมไม่เอาทั้งพวกที่บกพร่องโดยสุจริต หรือพวกที่ทุจริตในเชิงนโยบาย...”
----------------------------------------------
อันนี้...ใน “ทางการเมือง” ก็ต้องถือว่าเรียบโร้ยย์ย์ย์ ส่วนจะเป็นโรงเรียนประชาธิปัตย์ หรือโรงเรียนนายร้อยจปร. คงต้องไปคิดเอาเองก็แล้วกัน แต่น่าจะพอสรุปได้คร่าวๆว่า...แนวโน้มในการจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งคราวนี้ผ่านพ้นไปแล้วนั้น ไม่น่าจะถึงกับยักตื้น-ติดกึก ยักลึก-ติดกัก มากมายซักเท่าไหร่ เพราะไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ หรือแกนนำคนสำคัญๆ ดูจะออกมายืนยัน นั่งยัน และนอนยัน อย่างค่อนข้างเป็นมั่น เป็นเหมาะแล้วว่า คงไม่มีโอกาส “พลิก” ไปร่วมสังฆกรรมใดๆกับบรรดาพวก “บกพร่องโดยสุจริต” อันได้แก่บรรดาพวกที่อยู่ในเครือข่าย “เผาๆ”ทั้งหลาย แบบประมาณพันเปอร์เซนต์ หรือล้านเปอร์เซนต์ขึ้นไป...
-----------------------------------------------
ด้วยเหตุนี้...การต่อเส้น ต่อสาย เนื่องใน“วันผสมพันธ์แห่งชาติ” (ที่ไม่ได้เกี่ยวกับวันวาเลนไทน์ใดๆเอาเลยแม้แต่น้อย) หรือวันเวลาที่จะต้องอุบัติขึ้นมาหลังการเลือกตั้งในแต่ละครั้งผ่านพ้นไป จึงน่าจะเป็นอะไรที่ค่อนข้างราบรื่นและลื่นไหล ได้แบบพลั่กๆๆอยู่พอสมควร และหนึ่งในพรรคที่น่าจะมีโอกาสเข้าร่วมเป็นรัฐบาล ก็คงหนีไม่พ้นไปจากพรรคประชาธิปัตย์รายนี้นี่เอง อันเนื่องมาจากไม่ว่าหัวหน้าพรรคต้องลาออก เพราะไม่ได้เสียง ไม่ได้เก้าอี้มาครบ 100 เสียง 100 เก้าอี้ หรือไม่ต้องลาออกเพราะได้เสียง ได้เก้าอี้ มาประมาณ 101 เสียง หรือ 102 เก้าอี้ แต่คงไม่ถึงกับหิมะถล่ม แผ่นดินทลายไปถึง 200-300 อยู่แล้วแน่ๆ สถานะของพรรคประชาธิปัตย์จึงกลายมาเป็น “ตัวแปร”ที่สำคัญเอามากๆ อย่างชนิดมิอาจปฏิเสธได้...
--------------------------------------------------
และถ้าจะว่าไปแล้ว...ไม่ว่าใครก็เถอะ ถ้าลองได้พรรคประชาธิปัตย์มาร่วมรัฐบาล หรือเป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาล อย่างน้อย...ก็น่าจะหายใจได้คล่องคอเกินกว่า 3 เดือน 6 เดือนอยู่แล้วแน่ๆ เผลอๆ...อาจครบเทอม 4 ปี หรือลากยาวไปถึง 8 ปี แบบรัฐบาล “ป๋าเปรม”เอาเลยก็ยังได้ ด้วยเหตุเพราะในแง่ของทางมวย หรือทางปืน คงต้องยอมรับเอาจริงๆนั่นแหละว่า...พรรคการเมืองซึ่งต้องถือเป็นพรรคเก่าแก่ที่สุด อย่างประชาธิปัตย์นั้น เขาค่อนข้างที่จะเชี่ยวชาญ ชำนัญการ กับ “การเมืองตามวิถีทางรัฐสภา”อย่างชนิดหาตัวจับยากเอามากๆ ใครก็ตาม...ที่ปล่อยให้พรรคประชาธิปัตย์ต้องกลายเป็น “ฝ่ายค้าน” ส่วนใหญ่...มักหนีไม่พ้นคมเขี้ยวระดับยาวเฟื้อยเลื้อยลากดิน แถมติดสปริงไฮดรอลิคเอาไว้อีกต่างหาก เจอเข้ากับการ “แค้นจัด-กัดดะ-ฝังเขี้ยวจมน่อง”ขึ้นมาเมื่อไหร่ มักต้อง “ไปไม่เป็น”เอาดื้อๆ...
------------------------------------------------------
ดังนั้น...การมีพรรคประชาธิปัตย์เป็นส่วนหนึ่ง หรือส่วนร่วมในรัฐบาล จึงแทบไม่ต่างไปจากการสร้างเสถียรภาพ ความมั่นคงให้กับ “วิถีทางรัฐสภา”ไปภายในตัว ชนิดอาจถือเป็น“สูตรสำเร็จ”ทางการเมืองแบบไทยๆเอาเลยก็ว่าได้ เนื่องจากพรรคการเมืองพรรคนี้ เขาอยู่คู่กับระบอบประชาธิปไตยแบบไทยๆมาตั้งแต่แรก ชนิดอาจถือเป็นส่วนหนึ่งของ “ตำนานการเมืองไทย”เอาเลยก็ว่าได้ จนทำให้การกันพรรคประชาธิปัตย์ออกไปเป็นฝ่ายค้าน อาจกลายเป็นส่วนหนึ่งที่ส่งผลให้ประชาธิปไตยในเมืองไทยต้องวนไป-วนมา ล้มลุกคลุกคลาน แบบไม่ยอมไปไหนซักกะที...
------------------------------------------------------------
ซึ่งนั่นจะถือเป็นส่วนดี หรือส่วนไม่ดี ของพรรคการเมืองพรรคนี้...คงต้องไปคิดๆเอาเองก็แล้วกัน แต่ก็นั่นแหละด้วย“สูตรสำเร็จ”ที่เป็นไปในลักษณะนี้ ไม่ว่าใครที่จะขึ้นมาเป็น “นายกรัฐมนตรี”เป็นผู้ฟอร์มรัฐบาลในการเลือกตั้งที่กำลังจะปรากฏขึ้นมาในอีกไม่กี่วันข้างหน้า คงต้องหยิบเอาไปใคร่ครวญ พิจารณา ไว้ซะแต่เนิ่นๆ อะไรที่มันจะกลายเป็นอุปสรรค ขัดขวาง ให้การร่วมรัฐบาลของแต่ละพรรค ต้องเป็นไปในแบบติดๆขัดๆ ร่วมแบบ “ข่มขืน”อันเนื่องมาจากการ “ขัดขืน” คงต้องหาทางปรับท่าที ปรับกริยาอาการ ให้เป็นไปแบบซอฟท์ๆ นิ่มๆ เป็นไปตามความยินยอมพร้อมใจให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้...
---------------------------------------------------------------
สรุปรวมความแล้ว...ก็คงต้องถือเป็นเรื่องดีนั่นแหละ ที่บรรยากาศความเป็นไปทางการเมืองในอนาคตข้างหน้า มันไม่ถึงกับซับซ้อน ซ่อนเงื่อน เพื่อนทรยศมากมายซักเท่าไหร่ ใครจะเป็น “ฝ่ายค้าน” ใครจะเป็น “ฝ่ายรัฐบาล”ค่อนข้างที่จะเห็นชัดเจน แบบไม่ต้องเสียเวลาแทงสูง แทงต่ำ แต่แทบจะออกไปทาง “เปิดถ้วยแทง”เอาเลยก็ว่าได้ อันเป็นบรรยากาศที่น่าจะช่วยให้การ “เดินหน้าประเทศไทย”ไปสู่การยกระดับในด้านต่างๆ ไม่ถึงกับต้องวนมา-วนไป หรือย้อนกลับไปสู่ “ทศวรรษแห่งความมืดมน”น่าจะเป็นไปได้ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ...
----------------------------------------------------------------
ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก “Dave Meurer”... “A great marriage is not when the perfect couple comes together. It is when an imperfect couple learns to enjoy their differences. – การแต่งงานที่วิเศษสุด ไม่ได้เกิดขึ้นเมื่อคู่ที่เหมาะสมกันมาอยู่ร่วมกัน แต่เกิดขึ้นเมื่อคู่ไม่เหมาะสมกัน เรียนรู้ที่จะหาความสุขจากความแตกต่างระหว่างกัน...”
--------------------------------------------------------------
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |