เสี่ยเจ้าของประพันธ์ขนส่ง เขม่นกับกลุ่มวัยรุ่นเมืองเพชร โพสต์ท้าทายกันทางเฟซบุ๊ก ก่อนนัดเคลียร์ที่หน้าร้านอาหารกลางดึก ถูกยิงทะลุแก้ม ซิ่งรถสปอร์ตหนีตายกลับชนรถที่จอดริมทาง 3 คัน ทำให้รถตัวเองเสียหลักพุ่งลงคลองชลประทานดับอนาถ ตำรวจเร่งไล่ล่ากลุ่มมือปืน ล่าสุดเข้ามอบตัวแล้ว แต่ให้การมีพิรุธ ยังไม่ปักใจเป็นคนร้ายตัวจริง

    เมื่อเวลา 00.20 น. วันที่ 5 มีนาคมนี้ ร.ต.ท.ฐานันดร แสงคำ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองเพชรบุรี รับแจ้งมีผู้ถูกยิงขณะขับรถ ทำให้รถเสียหลักตกลงไปในคลองชลประทาน บริเวณหมู่ 6 ต.ต้นมะม่วง อ.เมือง จ.เพชรบุรี หน้าร้านอาหารแสงตะวัน จึงประสานเจ้าหน้าที่กู้ชีพ โรงพยาบาลพระจอมเกล้าจังหวัดเพชรบุรี และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างสรรเพชญธรรมสถานเพชรบุรี สนับสนุน พร้อมไปตรวจสอบ โดยมี พล.ต.ต.เทียนชัย คามะปะโส ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี และ พ.ต.อ.อรรถพล พงษ์สุวรรณ ผกก.สภ.เมืองเพชรบุรี ร่วมตรวจที่เกิดเหตุ
    ภายในคลองชลประทานเลียบถนน เจ้าหน้าที่พบรถเก๋งสปอร์ตนิสสัน รุ่น 350 Z สีขาว หมายเลขทะเบียน กฉ 7544 เพชรบุรี ภายในรถพบผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสหมดสติ เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ช่วยกันนำร่างขึ้นมาจากน้ำและตรวจคำชีพจร แต่ไม่พบ จึงได้ช่วยกันทำซีพีอาร์ แต่ไม่เป็นผล จึงเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลกรุงเทพเพชรบุรี แต่คนเจ็บเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทราบชื่อคือนายประพันธ์ ศรีเบญจวรรณ อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2 ถนนรอบตลาดเทศบาล ต.ท่าราบ อ.เมืองเพชรบุรี เป็นเสี่ยเจ้าของธุรกิจด้านขนส่ง “ประพันธ์ขนส่ง” ตรวจสอบเบื้องต้นพบบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนที่แก้มขวาทะลุแก้มซ้าย นอกจากนี้ในที่เกิดเหตุยังมีรถที่จอดริมถนน ถูกชนได้รับความเสียหายอีก 3 คัน เป็นรถกระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ ตอนครึ่ง สีขาว หมายเลขทะเบียน บพ 9871 เพชรบุรี ถูกชนตกลงไปในคลอง รถกระบะโตโยต้า 4 ประตู หมายเลขทะเบียน กท 1575 เพชรบุรี และรถเก๋งฮอนด้า แอคคอร์ด หมายเลขทะเบียน กข 3084 เพชรบุรี ถูกชนได้รับความเสียหาย
    จากการสอบสวนได้ความว่า เมื่อคืนวันที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมา นายประพันธ์มีปัญหาโต้เถียงกับกลุ่มวัยรุ่นจากการมองหน้ากัน จนลุกลามบานปลาย แต่ก็ได้แยกย้ายกันไป ต่อมีการโพสต์ท้าทาย ด่าทอกันในเฟซบุ๊ก และคืนวันที่ 4 มี.ค. นายประพันธ์ได้ขับรถมาจอดอยู่ที่ถนนหน้าร้านอาหาร จากนั้นคู่อริจำนวนหลายคนได้เดินมาที่รถของนายประพันธ์ แล้วเกิดเสียงปืนดังขึ้น ก่อนที่นายประพันธ์จะขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว และชนกับรถที่จอดอยู่ข้างคลองชลประทาน ก่อนที่รถของนายประพันธ์จะเสียหลักพุ่งลงไปในคลองใกล้ร้านที่เกิดเหตุ ส่วนกลุ่มวัยรุ่นได้พากันหลบหนีไป
    ตำรวจได้ตรวจสอบภายในรถของนายประพันธ์ พบอาวุธปืนขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก ปลอกกระสุน ขนาด 9 มม. 1 ปลอก หัวกระสุนขนาด 9 มม. 1 หัว ตกอยู่ในรถ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน และจากการตรวจสอบไทม์ไลน์ เฟซบุ๊กของนายประพันธ์ มีข้อมูลการโพสต์เฟซบุ๊กเมื่อเวลา 02.04 น. วันที่ 3 มี.ค. สรุปใจความว่า กำลังมีปัญหาอยู่กับคนกลุ่มหนึ่ง ที่ร้านแสงตะวัน ต่อมาวันที่ 4 มี.ค. เมื่อเวลา 21.33 น. ได้โพสต์อีกครั้งพร้อมรูป ขณะจอดรถอยู่หน้าร้านแสงตะวัน และมาถูกยิงจนเสียชีวิตเมื่อ เวลา 00.20 น.ดังกล่าว
    ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งชุดสืบสวนภูธรจังหวัดเพชรบุรี ชุดสืบสวนเมืองเพชรบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดเพชรบุรี ได้เร่งสืบสวนหาข่าวและรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งพยานบุคคล ภาพจากกล้องวงจรปิด และพยานวัตถุอื่นๆ เพื่อเป็นแนวทางในการติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
    ตำรวจยังได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าสถานบันเทิงแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุ พบว่ากลุ่มวัยรุ่นที่เข้าไปล้อมรถของนายประพันธ์ก่อนที่จะมีการใช้อาวุธปืนยิงนายประพันธ์ กระทั่งรถของนายประพันธ์เสียหลักตกคลองชลประทาน ได้มีนายชโลธร เกิดสมจิตต์ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 54 หมู่ 4 ต.บ้านแหลม อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี ร่วมอยู่ในกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวด้วย ตำรวจจึงได้เชิญตัวนายชโลธรมาสอบปากคำพร้อมกับทนาย
    จากการสอบปากคำนานกว่า 3 ชั่วโมง นายชโลธรให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ใช้ปืนพก ขนาด .38 มม. ยิงนายประพันธ์ จากนั้นได้พากันหลบหนี โดยนำปืนไปโยนทิ้งลงคลองในพื้นที่อำเภอชะอำ จากนั้นตำรวจได้นำตัวนายชโลธรไปตรวจหาเขม่าดินปืน แต่เนื่องเวลาเกิดเหตุและเวลาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำนายชโลธรไปตรวจเขม่านานเกิน 6 ชั่วโมง จึงต้องส่งหลักฐานไปตรวจสอบที่กองพิสูจน์หลักฐานกลาง สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ 
    อย่างไรก็ตาม จากการสอบปากคำนายชโลธร เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อว่าเป็นผู้ก่อเหตุตัวจริง เนื่องจากให้การขัดแย้งกันเอง รวมถึงขัดแย้งกับแนวทางการสืบสวนและพยานหลักฐานอื่นๆ จึงมีการสอบเพิ่มเติม รวมทั้งรวบรวมพยานหลักฐานทุกด้านเพื่อคลี่คลายคดี.