บิ๊กตู่สั่งทำฝนเทียม ล้างฝุ่นคลุมกทม.


เพิ่มเพื่อน    


     นายกฯ สั่งทำฝนเทียมลดปัญหาหมอกควันและฝุ่นละอองในกรุงเทพฯ ปลอบชาวบ้านอย่าวิตกเกินเหตุ กำชับเจ้าหน้าที่แจ้งเตือนต่อเนื่องพร้อมหามาตรการแก้ไข ด้านกรมควบคุมมลพิษรายงานช่วงบ่ายพบฝุ่นเกินค่าในเขตบางนา วังทองหลวง และริมถนนอินทรพิทักษ์
    ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 14.20 น. วันที่ 13 กุมภาพันธ์นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรีถึงปัญหามลพิษจากหมอกควันและฝุ่นละอองในอากาศที่เกิดขึ้นขณะนี้ในกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีค่าเกินมาตรฐานในบางขณะ ว่า ไม่ต้องการให้ทุกคนวิตกกังวลจนมากเกินไปกับปัญหาดังกล่าว โดยขณะนี้หลายๆ คนมีมาตรการป้องกันตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการใส่หน้ากากอนามัยเวลาออกนอกบ้าน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีในการป้องกันตัวเอง ขณะที่ในส่วนของรัฐบาลจะมีมาตรการทำฝนเทียมเพื่อลดฝุ่นละออง พร้อมกันนี้ได้กำชับให้กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งข่าวเตือนประชาชนอยู่อย่างต่อเนื่อง พร้อมหามาตรการลดฝุ่นละอองด้วย
    นายกฯ กล่าวว่า ปัญหามลพิษจากหมอกควันและฝุ่นละอองในอากาศที่เกินค่ามาตรฐาน เป็นปัญหาระดับโลกในหลายๆ ประเทศ โดยเฉพาะประเทศใหญ่ๆ ก็ประสบปัญหาเหมือนกัน สาเหตุของปัญหาเกิดจากหลายประเด็น ทุกคนต้องร่วมมือกันลดฝุ่นละออง โดยเฉพาะผู้ประกอบการต่างๆ และเกษตรกรที่เผาซังข้าวเพื่อเตรียมการปลูกพืช
    กรมควบคุมมลพิษรายงานสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ประจำวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2561 ณ เวลา 15.00 น. ตรวจวัดได้ระหว่าง 44-58 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เกินเกณฑ์มาตรฐาน 3 สถานี คือ ที่เขตบางนา เขตวังทองหลาง และริมถนนอินทรพิทักษ์ เขตธนบุรี (มาตรฐานต้องไม่เกิน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) โดยปริมาณฝุ่นละอองมีแนวโน้มลดลง
    ด้านนายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยถึงการขึ้นบินเพื่อทำฝนหลวงในการแก้ปัญหาฝุ่นละอองที่เกินมาตรฐานในพื้นที่กรุงเทพมหานครเมื่อวันจันทร์ ว่า จากสภาพการจราจรทางอากาศในพื้นที่ กทม. ทำให้ทีมงานไม่สามารถบินเข้ามาทำฝนหลวงในพื้นที่กรุงเทพฯ ได้ จึงได้บินรอบๆ เพื่อดูทิศทางลม ซึ่งพบว่าเป็นลมทางทิศตะวันออก จึงใช้หน่วยฝนหลวงที่จังหวัดระยองดำเนินการบิน เพื่อปฏิบัติการทำฝนหลวงในพื้นที่อำเภอองครักษ์ เพื่อต้องการให้กลุ่มฝนก่อตัวและเข้ามาตกในพื้นที่ กทม. อย่างไรก็ตาม การทำฝนหลวงในวันนี้ ทำได้เพียงขั้นตอนที่เรียกว่า เลี้ยงให้อ้วน ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ 2 ของการสร้างฝน สำหรับขั้นตอนแรกคือ การก่อกวน เป็นการสร้างเมฆ ขั้นตอนที่สองคือ การเลี้ยงให้อ้วน และขั้นตอนที่สามคือ โจมตี เป็นการทำให้เป็นฝนตกลงมา แต่ในวันนี้ไม่สามารถดำเนินการในขั้นตอนที่สามได้ เพราะอากาศไม่เอื้ออำนวย เมฆจึงไม่พัฒนาเท่าที่ควร จึงไม่ประสบความสำเร็จ แต่ในวันที่ 13 ก.พ.นี้ จะติดตามทิศทางลมและค่าฝุ่นละอองอีกครั้ง เพื่อประเมินการดำเนินการ 
    อธิบดีกรมฝนหลวงฯ กล่าวว่า จะพยายามช่วยแก้ปัญหาให้มากที่สุด แม้ว่าการทำฝนเทียมเพื่อไปจับฝุ่นละอองในอากาศให้ตกลงมาไม่ใช่แนวทางแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ แต่กรมฝนหลวงฯ ก็พร้อมที่จะช่วยแก้ปัญหา ซึ่งนี่ถือเป็นครั้งแรก เพราะไม่เคยเจอมาก่อนที่ค่าฝุ่นละอองมีมากขนาดนี้ เป็นการนำประสบการณ์การทำฝนหลวงมาประยุกต์นำมาแก้ปัญหาฝุ่นละอองในอากาศ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"