จับ'พงศกร'แชร์ข่าวมั่ว


เพิ่มเพื่อน    

    "ปรีชาพล" พร้อมน้อมรับคำตัดสินยุบพรรค ทษช. 7 มี.ค.นี้ บ่นเสียดายพยานไม่มีโอกาสชี้แจง ขอมวลชนอย่ามาศาล หวั่นถูกโยงสร้างเงื่อนไขเหตุรุนแรง "กกต." สั่งลบ 12 โพสต์ผิด กม.และรับคำร้องสอบพรรคอนาคตใหม่อุปโลกน์ประวัติ "ธนาธร" เรียก "ศรีสุวรรณ" ผู้ร้องไต่สวน 6 มี.ค. "ส้มหวาน" ระส่ำ "บิ๊กโจ๊ก" จับรองหัวหน้าพรรคผิด พ.ร.บ.คอมพ์แชร์มั่วภาพ "บิ๊กป้อม" จิบกาแฟแก้วละ 1.2 หมื่น "พงศกร" เสียงแข็งอ้างขอโทษลบโพสต์แล้ว เชื่อโดนกลั่นแกล้งการเมือง
    เมื่อวันที่ 4 มี.ค. ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) และทีมทนายความ เข้าร่วมประชุมกรรมการบริหารพรรค เพื่อหารือถึงทิศทางต่างๆ หลังจากเหลือเวลาอีกเพียง 3 วันจะถึงกำหนดวันที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดฟังคำวินิจฉัยคดียุบพรรคในวันที่ 7 มี.ค.นี้ ซึ่งถือเป็นการเดินทางเข้ามาที่ทำการพรรคครั้งแรกในรอบหลายสัปดาห์ 
    ร.ท.ปรีชาพลกล่าวว่า การประชุมครั้งนี้เพื่อเตรียมงานของพรรค ไม่ใช่การประชุมอย่างเป็นทางการ  แต่ก็คงมีการหารือกันในการเตรียมความพร้อมรับฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในคดียุบพรรคในวันที่ 7 มี.ค.นี้ รวมถึงหารือถึงท่าทีว่าพรรคจะดำเนินการอย่างไรต่อ ซึ่งโทษที่พ่วงมากับคำร้องของ กกต. หากมีการยุบพรรค กกต.ก็ต้องร้องขอให้มีการเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรค 
    "ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญว่าจะวินิจฉัยออกมาอย่างไร ขณะนี้คณะกรรมการบริหารพรรคทุกคนมีจุดยืนชัดเจน และได้แจ้งต่อประชาชนไปแล้วว่าคณะกรรมการบริหารพรรคขอเน้นในการชี้แจงคดีซึ่งเหลืออีกไม่กี่วันข้างหน้า ส่วนที่เกี่ยวข้องกับการหาเสียง ทั้งกรรมการยุทธศาสตร์และกรรมการรณรงค์หาเสียงก็ยังมีหน้าที่ลงไปสื่อสารกับประชาชน และลงไปให้กำลังใจผู้สมัครทั้ง 175 เขตเลือกตั้ง ซึ่งการแยกกันทำงานก็เพื่อให้หลายฝ่ายสบายใจ และไม่อยากให้ใครนำเรื่องคดียุบพรรคไปขยาย หรือฉกฉวยโอกาสสร้างสถานการณ์ให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง เพราะปรารถนาที่จะเห็นการเลือกตั้งเกิดขึ้นในวันที่ 24 มี.ค." ร.ท.ปรีชาพลกล่าว  
    หัวหน้าพรรค ทษช.กล่าวว่า แนวทางในวันที่ 7 มี.ค.นี้ กรรมการบริหารพรรคจะไปฟังคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อผลออกมาอย่างไรก็พร้อมน้อมรับ เพราะทุกคนอยู่ในประเทศที่ปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งพรรคคือผู้ถูกกล่าวหาก็ได้ทำเรื่องชี้แจงเป็นเอกสารไปยังศาลรัฐธรรมนูญแล้ว แต่ก็เกิดความเสียดายอยู่บ้างที่ไม่มีโอกาสได้เข้าชี้แจงในฐานะพยาน  โดยในส่วนของพยานเอกสารได้ชี้แจงค่อนข้างครบถ้วนแล้ว แต่ได้เห็นคำคัดค้านของ กกต.ก็มีความไม่สบายใจอยู่บ้าง
    "ในวันที่ 7 มี.ค.นี้อยากสื่อสารไปถึงประชาชนที่เมตตาและสนับสนุนพรรค และหลายคนไปถามหาตัวผมที่เวทีปราศรัย ซึ่งส่วนตัวก็รู้สึกเจ็บปวดที่พรรคมีการจัดเวทีปราศรัย แต่หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคไม่มีโอกาสได้ขึ้นบนเวที แต่เพื่อประโยชน์ของส่วนรวม เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่ให้มีประเด็นใดๆ ที่จะมีคนมาฉกฉวยให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง เราก็ต้องอดทนและรอคอย แต่ขอว่าวันที่ 7 มี.ค.นี้อยากให้ติดตามชมผลการวินิจฉัยอยู่ที่บ้าน เพราะผมไม่มั่นใจว่าในวันนั้นจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง จึงไม่อยากให้เกิดการสร้างสถานการณ์นำเรื่องคดียุบพรรคไปทำให้เกิดความวุ่นวาย" หัวหน้าพรรค ทษช.กล่าว
    ถามว่าได้พูดคุยกับบุคคลที่ถูกเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ร.ท.ปรีชาพลระบุว่า  ไม่ขอพูดถึงในรายละเอียด เพราะเรื่องนี้ค่อนข้างละเอียดอ่อน แต่เฉพาะคณะกรรมการบริหารพรรคยืนยันว่าจะไปร่วมฟังคำวินิจฉัย
กกต.สั่งลบโพสต์ผิด กม.
    ส่วนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า ในวันที่ 7 มี.ค.ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาคดียุบพรรค ทษช. ในส่วนของพรรค ปชป.เราก็ไม่มีการเตรียมการอะไรเป็นพิเศษ  เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้พรรคมีความพยายามที่จะบอกกับประชาชน ว่าเรามีคำตอบให้กับปัญหาของพวกเขาอย่างไร ทั้งเรื่องเศรษฐกิจและการเมือง ประเด็นทางการเมืองอื่นๆ ขณะนี้ไม่ใช่ประเด็นสำคัญของพรรค
    ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีรายงานว่า กกต.​ได้มีคำสั่งให้มีการลบภาพและข้อความหาเสียงที่เข้าข่ายผิดกฎหมายและระเบียบ กกต.ว่าด้วยการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ.2561 ตามที่คณะทำงานติดตามเกี่ยวกับการหาเสียงทางอิเล็กทรอนิกส์ได้เสนอรวม 12 กรณี 
    คือ 1.กรณีบัญชีเฟซบุ๊ก Watsawan Yensuk โพสต์ภาพนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ โดยมีข้อความว่า  "ยังไม่ทันไรสันดานโกงก็โผล่แล้ว! #ยายลั่นไม่เอาอนาคตใหม่!!" 2.กรณีเพจเฟซบุ๊กสนับสนุนลุงตู่เป็นนายกฯ คนที่ 30 โพสต์ภาพนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ โดยมีข้อความว่า "ภาพหลุดอนาคตใหม่ ดับความชั่วความเลวเปิดเผย" และข้อความว่า "ชัดเจน! ใครเผาประเทศ!" 3.กรณีบัญชีเฟซบุ๊กสุริยา ขำเจริญพร  โพสต์ข้อความและรูปภาพกลุ่มเชียร์ลุงตู่ โพสต์ภาพสัญลักษณ์พรรคเพื่อไทย พรรคไทยรักษาชาติ และพรรคเพื่อชาติ โดยมีรอยเท้าปิดทับสัญลักษณ์ของพรรคทั้งสามและมีข้อความว่า "นี่คือคำตอบที่กูให้มึง  ไอ้เหี้ยพรรคเผาบ้านเผาเมือง"
    4.กรณีบัญชีเฟซบุ๊กชื่อ Ziko Mesa โพสต์รูปภาพนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ โดยมีข้อความโจมตีบุคคลดังกล่าวข้อความว่า "แนวคิดจุดยืนชัดเจนเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ!" 5.กรณีเฟซบุ๊กจั่วหัวโพสต์ภาพนางชยิกา วงศ์นภาจันทร์ โดยมีข้อความว่า "หลานยิ่งลักษณ์-ทักษิณ ประกาศรื้อฟื้นโครงการโคตรโกงตามรอยยิ่งลักษณ์" 6.กรณีเพจเฟซบุ๊กศูนย์ต้านนิรโทษกรรม โพสต์ภาพนายจาตุรนต์ ฉายแสง,   นายเหวง โตจิราการ, นายก่อแก้ว พิกุลทอง, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และโพสต์ภาพการเผาบ้านเมือง รวมทั้งใส่สัญลักษณ์พรรคไทยรักษาชาติ และมีข้อความประกอบภาพ "อย่าลืมผลงานของพวกเรา" 
    7.กรณีมีบุคคลโพสต์ภาพสัญลักษณ์พรรคเพื่อชาติ พรรคไทยรักษาชาติ และพรรคเพื่อไทย โดยมีข้อความว่า "พอกันทีวาทกรรมเผาบ้านเผาเมือง!!! เพราะพวกเรา..." รวมทั้งมีภาพการชุมนุมทางการเมืองของคนเสื้อแดง 8.กรณีทวิตเตอร์บัญชี vnomenon โพสต์ภาพสัญลักษณ์พรรคเพื่อไทย พรรคไทยรักษาชาติ และพรรคเพื่อชาติ โดยมีภาพบุคคลคือ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, นายจตุพร พรหมพันธุ์ และมีข้อความว่า "แกนนำสำคัญที่ร่วมมือกันเผาบ้านเผาเมือง!! ปี 53 อยู่พรรคไหนกันบ้าง..ดูเอา" 9.กรณีเพจเฟซบุ๊กยังจำได้ไหม โพสต์รูปภาพการชุมนุมทางการเมืองของคนเสื้อแดง โดยมีข้อความว่า "ไทยรักษาชาติ" และมีข้อความอีกว่า "อย่าลืมพวกที่เคยทำร้ายบ้านเมืองเรา" 
    10.กรณีเพจเฟซบุ๊กยังจำได้ไหม โพสต์ภาพนายจาตุรนต์ ฉายแสง, นายเหวง โตจิราการ, นายก่อแก้ว พิกุลทอง และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และโพสต์ภาพการเผาบ้านเมือง รวมทั้งใส่สัญลักษณ์พรรคไทยรักษาชาติ และมีข้อความประกอบภาพ "ยุบแน่ๆ คุกรออยู่" 11.กรณีเพจเฟซบุ๊กศูนย์ต้านนิรโทษกรรม  โพสต์ภาพนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และมีข้อความว่า "พรรคไหนเผา..เราไม่เลือก" และข้อความว่า "เผาเลยครับพี่น้อง ผมรับผิดชอบเอง" รวมทั้งโพสต์ภาพสัญลักษณ์พรรคไทยรักษาชาติ 12.กรณีทวิตเตอร์บัญชี  Leader Democracy โพสต์ข้อความ "ขอเรียกร้องเชิญพี่น้องประชาชน ผู้รักชาติ พระมหากษัตริย์ และประชาชนทั้งหลาย คว่ำบาตร พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ​และ พล.อ.ประยุทธ์ในการเลือกตั้ง"
ตร.จับ 'รอง หน.ส้มหวาน'
    วันเดียวกัน ร.ต.อ.มนูญ วิเชียรนิตย์ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสืบสวนสอบสวน ในฐานะประธานกรรมการสืบสวนและไต่สวน กกต. มีหนังสือเชิญถึงนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย มาให้ปากคำกรณีที่ได้ยื่นคำร้องว่านายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ อาจเข้าข่ายการฝ่าฝืน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.61 มาตรา 73 (5) เนื่องจากในเว็บไซต์ของพรรคระบุว่า นายธนาธรเคยดำรงตำแหน่งประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย 2 วาระ ตั้งแต่ปี 2551-2555 จึงไม่ตรงกับความจริง 
    "โดยเลขาธิการ กกต.ได้สั่งรับคำร้องไว้ดำเนินการไต่สวนแล้ว จึงขอให้นายศรีสุรรณไปให้ปากคำกรณีดังกล่าวต่อคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนในวันที่ 6 มี.ค. เวลา 14.00 น. ที่สำนักงาน กกต.  ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ" หนังสือระบุ
    นายศรีสุวรรณกล่าวว่า เมื่อ กกต.รับคำร้องแล้ว ตนก็จะเดินทางไปให้ปากคำตามวันเวลาที่ได้นัดหมาย
    ขณะที่ พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (คสช.) แถลงหลังการประชุมสำนักเลขาธิการ คสช.ที่มี พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ เลขาธิการ คสช.เป็นประธานว่า เลขาฯ คสช.กำชับในช่วงต่อจากนี้สถานการณ์ด้านการเมืองที่กำลังเดินหน้าสู่การเลือกตั้งนั้นมีความสำคัญ ซึ่งข้าราชการทุกส่วนต่างมีความรับผิดชอบที่จะต้องปฏิบัติตามภาระหน้าที่ต่อบ้านเมือง การดำเนินการทุกอย่างขอให้อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง 
    "ยิ่งในสภาวะปัจจุบัน ข้อมูลข่าวสารที่ใช้ในการหาเสียงทางการเมืองมีความหลากหลาย ทั้งการใช้สื่อสังคมออนไลน์ เวทีปราศรัย การให้สัมภาษณ์ จึงจำเป็นที่หน่วยงานที่รับผิดชอบจะต้องติดตามในทุกข้อมูลข่าวสาร และต้องชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อมิให้มีการบิดเบือนหรือสร้างความสับสนให้แก่ประชาชน  เป็นการร่วมกันสร้างการรับรู้ในทิศทางที่เอื้ออำนวยต่อการเดินหน้าสู่การเลือกตั้งให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย" รองโฆษก คสช.กล่าว
    ที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นประธานเปิดกิจกรรมปฏิญาณตนวางตัวเป็นกลางทางการเมืองของข้าราชการและบุคลากรของ กทม.และปล่อยแถวขบวนรณรงค์เชิญชวนประชาชนมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง โดยมีผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ข้าราชการและบุคลากรของกรุงเทพมหานคร จำนวนกว่า 1,200 คนร่วมปฏิญาณตนและร่วมกิจกรรมรณรงค์เลือกตั้งครั้งนี้
    ช่วงค่ำ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. ในฐานะรอง ผอ.ศูนย์ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) แถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาคดีแชร์ภาพ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหมนั่งจิบกาแฟย่านถนนสีลม กับนายไพศาล พืชมงคล  ที่ปรึกษา โดยมีการเขียนพาดหัวข่าวว่า "ป้อมแจง งบจิบกาแฟข้างทาง 12,000 โต้ ของดีนำเข้าต้องแพง ลั่น คนจนหมดสิทธิ์ลอง" มีผู้ต้องหากระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ 6 ราย โดยมี พล.ท.พงศกร รอดชมภู รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่เป็น 1 ในผู้แชร์ข่าวดังกล่าว มีความผิดฐาน "นำเข้า เผยแพร่ หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน" 
    อย่างไรก็ตาม พล.ท.พงศกรยืนยันว่ายังไม่มีการจับกุม ตนเพิ่งได้รับหมายเรียกในคดีดังกล่าววันนี้  โดยแจ้งให้ไปพบเจ้าหน้าที่ บก.ปอท.ในวันที่ 11 มี.ค.นี้ บุคคลที่ฟ้องคือ พ.อ.บุรินทร์ รับลูกโดย พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ซึ่งตอนแชร์ข่าวดังกล่าวไม่ทราบว่าเป็นข่าวปลอม เห็นชื่อตรงลิงก์เป็นสำนักข่าวแห่งหนึ่งที่เป็นที่รู้จักจึงแชร์ แต่พอรู้ว่าเป็นข่าวปลอมก็รีบดำเนินการลบทันทีภายใน 2-3 นาที พร้อมทั้งโพสต์ข้อความขออภัยเพราะไม่มีเจตนา     
    "ขอตั้งข้อสังเกต พ.อ.บุรินทร์เคยแจ้งความนายธนาธรด้วยนั้น จงใจกลั่นแกล้งทางการเมืองหรือไม่  แต่ก็ไม่ได้กังวล รู้สึกสนุก ยิ่งเข้าสู่โค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งก็จะยิ่งเห็นการดำเนินการทุกวิถีทาง แต่เชื่อว่าไม่ได้ผล สุดท้ายก็เสร็จฝ่ายประชาธิปไตย" รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ระบุ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"