ยึดมั่นคำพูด


เพิ่มเพื่อน    

        เสี่ยแฮงค์-อนุชา นาคาศัย อดีต ส.ส.ชัยนาท ช่วงตัดสิทธิ์การเมืองบ้านเลขที่ 111 พรรคไทยรักไทย เจ้าตัวมักอยู่เบื้องหลังไม่ค่อยออกหน้า สนับสนุนบุคคลที่มีความสามารถทำงานให้ชาติบ้านเมืองอย่างต่อเนื่อง 

      แต่เป็นที่รับรู้กันว่าเขาคือผู้ประสานสิบทิศที่ใจถึงพึ่งได้ พูดคำไหนคำนั้น รับปากอะไรสุดท้ายเป็นจริงหมด แม้เจ้าตัวจะต้องกลืนเลือดในบ้างครั้งก็ตาม...แต่ก็ไม่เคยปริปากพูดหรือแฉให้ใครได้รับความเสียหาย จึงทำให้เวลาไปไหนก็มักจะมีแต่มิตรมีแต่คนรัก ด้วยคำพูดติดปากของ "อนุชา" ที่มักพูดเสมอเมื่อเจอชาวบ้านหรือเพื่อนๆ นักการเมือง  

      “มีอะไรบอกผมได้นะ ไม่ต้องเกรงใจ”

      แต่การเลือกตั้งเที่ยวนี้แตกต่างออกไป เสี่ยแฮงค์ จากเบื้องหลังผันตัวไปอยู่เบื้องหน้าในฐานะประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งภาคกลาง พรรคพลังประชารัฐ ที่กล้าประกาศจะพา ลุงตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก้าวขึ้นเป็นนายกฯ หลังเลือกตั้งให้สำเร็จ เพื่อแก้ปัญหาความยากจน สร้างความร่ำรวยให้คนในชาติ พร้อมหยุดความขัดแย้งของบ้านเมืองตลอด 10 ปีที่ผ่านมา

        เสี่ยแฮงค์ ยอมรับว่าวันนี้ "ลุงตู่" เข้ามาทำให้พวกตนเริ่มเห็นแสงสว่าง ที่ทุกคนจะร่วมอุดมการณ์นำไปสู่ความสงบสุข ไม่ต้องเห็นลูกหลานไทยเข่นฆ่ากันเองอีก จึงเกิดเป็นพรรคพลังประชารัฐที่รวบรวมคนทุกสีเสื้อเข้าด้วยกัน

      พร้อมประกาศลั่นว่าหากการเลือกตั้งครั้งนี้ได้เป็นรัฐบาล แล้วอีก 4 ปีชาวนา 15 ล้านคนยังเดือดร้อนอยู่ “ผมจะขอเลิกเล่นการเมืองตลอดชีวิต เพราะไม่รู้จะเป็นนักการเมืองไปทำไม” 

      อนุชา กล่าวระหว่างปราศรัยที่เวทีแห่งหนึ่งในภาคอีสาน 

      นี่คือวาจาของ อนุชา ที่ยึดมั่นคำพูดเหนือกว่าสัญญาที่เป็นลายลักษณ์อักษร.

ช่างสงสัย


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"