เมื่อวันที่ 3 มีนาคม ที่ จ.บุรีรัมย์ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ เดินทางช่วยผู้สมัครหาเสียง โดยในช่วงเช้า พร้อมด้วย นายนรวัฒน์ โรจน์รวีชัย หรือ ครูหมึก ผู้สมัครเขต 8 ( อ.โนนดินแดง อ.ละหานทราย และ อ.ปะคำ) พบปะประชาชนตลาดสดโนนดินแดง ชุมชนรอบเขตเทศบาลตำบลละหานทราย และร้านรวงโดยรอบเทศบาลปะคำ  จากนั้นในช่วงบ่าย เดินทางต่อมายัง อ.สตึก เพื่อช่วยผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 นางสาวอิสรีย์ อภิสิริรุจิภาส หรือ ซ้อมิ้ง ปราศรัยหาเสียงที่ศาลาเอนกประสงค์ชุมชนวังกรูด ซึ่งทุกจุดที่พรรคอนาคตใหม่เดินทางไปเยือน มีประชาชนให้การต้อนรับอย่างดี มีคนเข้ามาขอถ่ายรูปด้วย และประชาชนส่วนใหญ่รู้จักพรรรคอนาคตใหม่ว่าเป็นพรรคการเมืองใหม่ที่กำลังเป็นกระแสข่าวในช่วงนี้

นายปิยบุตร กล่าวปราศรัย ถึงนโยบายที่ดินและป่าไม้ของพรรคอนาคตใหม่ ที่จะระงับข้อพิพาททั้งหมดระหว่างชุมชนกับรัฐ และสร้างระบบที่ชุมชนสามารถอยู่ร่วมกับป่าได้ในฐานะกรรมสิทธิ์ร่วม เพื่อเอื้อต่อทั้งการอนุรักษ์ การทำกิน และการท่องเที่ยวไปพร้อมๆ กัน  ด้านที่ดินนั้น พรรคอนาคตใหม่มีแนวนโยบายที่จะแก้กฎหมาย สปก.ให้ที่ดิน สปก.สามารถถูกใช้ประโยชน์ในแนวทางที่กว้างขึ้น  ส่วนนโยบายด้านการจัดเก็บภาษีที่ดินในอัตราที่จะทำให้เกิดการกระจายที่ดิน ไม่ใช่การถือครองเพื่อเก็งกำไรอย่างปัจจุบัน รวมถึง นโยบายยุติรัฐราชการรวมศูนย์ ทุกวันนี้ชาวบุรีรัมย์จ่ายภาษีเช่นเดียวกับทุกคนในประเทศ แต่การพัฒนาต่างๆ กลับไปรวมศูนย์ความเจริญอยู่ที่เมืองใหญ่ มีการสร้างระบบขนส่งมวลชนรถ เช่น รถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ แต่ไม่มีการพัฒนาแบบเดียวกันที่บุรีรัมย์ ชาวบ้านไม่มีทางเลือกนอกจากการซื้อยานพาหนะใช้ในการเดินทาง ยังไม่รวมถึงการพัฒนาด้านอื่นๆ ที่ต้องรอการตัดสินใจและการเฉลี่ยงบประมาณมาจากกระทรวงต่างๆ ในส่วนกลาง ทั้งๆ ที่ชาวบุรีรัมย์ต้องเสียภาษีไปมากกว่านั้น

"การกระจายอำนาจแบบที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ไม่สามารถทำให้ท้องถิ่นพัฒนาได้อย่างเต็มที่ เพราะอำนาจการตัดสินใจต่างๆ ถูกรวมศูนย์อยู่ที่ส่วนราชการส่วนกลาง ภาษีที่จัดเก็บได้ก็ต้องส่งเข้าไปที่ส่วนกลางก่อนค่อยกระจายกลับมาตามโควต้า และแม้ที่ผ่านมาบุรีรัมย์จะสามารถพัฒนาขึ้นมาอย่างก้าวกระโดดที่สุดในบรรดากลุ่มจังหวัดอีสานใต้ แต่ก็เป็นการพัฒนาที่เกิดขึ้นจากความสามารถส่วนบุคคล ไม่ได้เกิดขึ้นจากระบบที่ยั่งยืนถาวร ดังนั้น พรรคอนาคตใหม่จะทำนโยบายยุติรัฐราชการรวมศูนย์ ให้ไปไกลกว่าการกระจายอำนาจแบบเดิมให้ได้" นายปิยบุตร กล่าว

นายปิยบุตร กล่าวอีกว่า ทุกวันนี้นายก อบต.มีงบประมาณก็จริง แต่ไม่มีอำนาจที่จะตัดสินใจว่าจะเอาไปทำอะไร ต้องทำตามแนวนโยบายของกระทรวงต่างๆ จนสุดท้ายเหลืองบประมาณแค่นิดเดียว ไม่พอจะไปทำอะไรเพื่อพัฒนาท้องถิ่นแล้ว นโยบายยุติรัฐราชการรวมศูนย์ คือการทวงคืนอำนาจกลับมาที่ท้องถิ่น การตัดสินใจต่างๆ ต้องมาจากคนบุรีรัมย์ รวมถึงต้องจัดระบบแบ่งสรรรายได้ระหว่างส่วนกลางและท้องถิ่นกันใหม่ อยู่ที่ 50% ต่อ 50% ภาษีที่เก็บได้ที่นี่ต้องอยู่ที่นี่ก่อน ตามสัดส่วน แล้วค่อยโอนกลับไปส่วนกลาง ไม่ใช่ส่งไปที่ส่วนกลางทั้งหมดแล้วรอกระจายกลับมา