แห่ฟ้อง-ร้องสารพัดกรณี กกต.ชี้ใส่ร้ายโซเชียลตรึม


เพิ่มเพื่อน    

  สารพัดเรื่องร้อง กกต.! เพื่อไทยพะเยาบี้สอบกลุ่มชายชุดดำเก็บบัตร ปชช.ข่มขู่ชาวบ้าน อีกฝ่ายยื่นฟัน "ธนาธร" ปราศรัยใส่ร้าย "บิ๊กตู่" ปชป.โวยบิดเบือนแชร์ภาพ "มาร์ค" คุยแกนนำพรรคอื่นตั้งรัฐบาล "จตุพร" ส่งกำลังใจให้สมาชิก ทษช.

    ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)  เมื่อวันที่ 1 มีนาคม เวลา 10.30 น. พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. ได้นำสื่อมวลชนตรวจเยี่ยมศูนย์รับแจ้งเบาะแสทุจริตการเลือกตั้ง ตอบข้อกฎหมายเกี่ยวกับการสืบสวนไต่สวนและวินิจฉัย ซึ่งตั้งอยู่บริเวณชั้น 3 ของสำนักงาน กกต. โดยศูนย์ดังกล่าวจะเป็นศูนย์ที่รับแจ้งเบาะแส เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตการเลือกตั้งทุกเหตุการณ์ รวมทั้งคอยมอนิเตอร์ข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งด้วย โดยมีเจ้าหน้าที่ประจำการประมาณ 8 คน 
    ทั้งนี้ สำหรับข้อมูลและเบาะแสต่างๆ เกี่ยวกับการทุจริตการเลือกตั้ง หากศูนย์ได้รับเรื่องจะนำไปวิเคราะห์เพื่อนำไปสู่กระบวนการตรวจพยานหลักฐาน หากมีมูลจะดำเนินการตั้งคณะกรรมการไต่สวนเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป เบื้องต้นมีเรื่องการทุจริตการเลือกตั้งจำนวน 43 เรื่อง ซึ่งมีทั้งประชาชนร้องเรียนขึ้นมาและกรณีความปรากฏ
    หลังจากนั้นเลขาธิการ กกต.ได้นำสื่อมวลชนตรวจเยี่ยมศูนย์บริหารการหาเสียงทางอิเล็กทรอนิกส์ โดย พ.ต.อ.จรุงวิทย์กล่าวว่า ศูนย์ดังกล่าวมีเจ้าหน้าที่คอยสอดส่องการใส่ร้ายผู้สมัคร และพรรคการเมืองทางอิเล็กทรอนิกส์ ด้วยความเป็นเท็จ ตามมาตรา 73 (5) ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.)ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ซึ่งถ้าพบการใส่ร้ายทางเจ้าหน้าที่จะพิจารณาส่งเรื่องให้ กกต.เพื่อสั่งลบ โดยหากเป็นผู้สมัครหรือพรรคการเมืองทำ ทาง กกต.จะประสานให้พรรคดำเนินการลบ กรณีเป็นแอคเคาต์อวตารจะติดต่อให้ลบ แต่ถ้าไม่สามารถติดต่อได้จะประสานให้เว็บไซต์เป็นผู้ลบ ซึ่งโทษการใส่ร้ายมีโทษจำคุก 1-10 ปี ปรับ 20,000-200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และตัดสิทธิทางการเมือง 20 ปี โดยในขณะนี้มี 50 เรื่องที่มีลักษณะใส่ร้าย เตรียมส่งให้ที่ประชุม กกต.สั่งลบ
    พ.ต.อ.จรุงวิทย์กล่าวด้วยว่า วันที่ 17 มี.ค. ซึ่งเป็นวันเลือกตั้งล่วงหน้า พรรคการเมืองและผู้สมัครยังสามารถหาเสียงได้ แต่ กกต.กำลังพิจารณาว่าการหาเสียงจะต้องห่างจากหน่วยเลือกตั้งกลางจำนวนเท่าไหร่ และสามารถหาเสียงผ่านโซเชียลฯ ได้ แต่ต้องระวังไม่ให้เป็นการจูงใจ ส่วนการจัดงานเลี้ยงหากเป็นประชาชนธรรมดาที่ไม่เกี่ยวข้องกับผู้สมัครสามารถทำได้ปกติ แต่ต้องระวังเรื่องการห้ามจำหน่ายจ่ายแจกสุราตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันที่ 16 มี.ค. ถึง 18.00 น. ของวันที่ 17 มี.ค. 
    ด้านนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 พะเยา พรรคเพื่อไทย ได้เดินทางมายื่นหนังสือถึง กกต. ขอให้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงพฤติกรรมของกลุ่มชายฉกรรจ์ที่แฝงตัวในพื้นที่ โดยระบุว่า ในพื้นที่จังหวัดพะเยา เริ่มเกิดความไม่ปลอดภัย เนื่องจากมีกลุ่มชายฉกรรจ์ชุดดำจำนวนมากเข้ามาในพื้นที่โดยไม่ทราบสาเหตุหรือวัตถุประสงค์ ว่าเข้ามาเพื่อเหตุใด สร้างความหวาดกลัวให้กับประชาชนในพื้นที่ ดังนั้นหากเป็นเจ้าหน้าที่อยากให้แต่งเครื่องแบบแสดงตัวหรือหน่วยงานให้เกิดความชัดเจน นอกจากนี้ยังรับทราบว่ามีการโทรศัพท์ไปข่มขู่ประชาชนด้วย รวมถึงการเก็บบัตรประชาชน ทั้งนี้ ขอเรียกร้องให้ กกต.ส่วนกลางลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานเกี่ยวกับการกระทำความผิด พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. โดยใช้วิธีการแจกเงิน สิ่งของ และเก็บสำเนาบัตรประชาชนของผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้ง 3 เขตของ จ.พะเยาด้วย
    ต่อมา นายศุภศักดิ์ ศรีอินทร์ อ้างเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ยื่นคำร้องต่อ กกต. ขอให้ดำเนินคดีกับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และพรรคอนาคตใหม่ กรณีไปปราศรัยหาเสียงในลักษณะต้องการให้มวลชนมาสมัครเป็นสมาชิกพรรค 90,000 คน โดยอ้างว่าเพื่อมาตรวจสอบการทุจริตในการเลือกตั้ง ส.ส.วันที่ 24 มี.ค. ทั้งที่จุดประสงค์ดังกล่าวคือต้องการให้มวลชนดังกล่าวช่วยทำหน้าที่ตอบโต้ข่าวแทนพรรคอนาคตใหม่และมีเจตนาแอบแฝงเพื่อให้คนทั้งหมดเป็นหัวคะแนนให้กับพรรค  
    รวมถึงกรณีที่นายธนาธรและพรรคอนาคตใหม่ได้ใช้วิธีการพูดใส่ร้ายบิดเบือนข้อเท็จจริงว่าชาวบ้านไม่ต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กลับมามีอำนาจ หาก พล.อ.ประยุทธ์และพรรคที่สนับสนุนกลับมาได้ ก็ต้องมีการโกงทุจริตการเลือกตั้ง จึงเห็นว่าการกระทำของนายธนาธรและพรรคอนาคตใหม่มีความผิดตามมาตรา 73 ( 5) ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. 
    ที่ศาลรัฐธรรมนูญ นายพลภาขุน เศรษฐญาบดี ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ยื่นคำร้องต่อประธานศาลรัฐธรรมนูญ ผ่านนายบรรชา รังแก้ว เจ้าหน้าที่ศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้วินิจฉัยประเด็นคำวินิจฉัยของ กกต. กรณีพรรคพลังประชารัฐเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ โดยระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ ขาดคุณสมบัติที่จะถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี เนื่องจากไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 98 (15) ห้ามพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ หรือเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ 
          ในขณะที่ตำแหน่งหัวหน้า คสช.ถือเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ หากพิจารณาถึงประกาศของ คสช. ฉบับที่ 6/2557 ลงวันที่ 22 พ.ค.2557 และประกาศ คสช. ฉบับที่ 2/2561 ลงวันที่ 27 ก.ย.2561 เรื่องแต่งตั้งคณะบุคคลใน คสช.กำหนดให้คณะกรรมการใน คสช.เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยได้รับค่าตอบแทนเงินเดือนเงินประจำตำแหน่ง มีเกียรติศักดิ์แห่งตำแหน่ง ได้รับการคุ้มกันห้ามดูหมิ่นเจ้าพนักงาน ประกอบรัฐธรรมนูญ มาตรา 265 บัญญัติว่าให้ คสช.ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2557 ฉบับชั่วคราว ให้ยังคงเป็น คสช.ตามรัฐธรรมนูญ ฉบับ 2560 ต่อไป 
    วันเดียวกัน นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อชาติ กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยยุบพรรคไทยรักษาชาติหรือไม่ ในวันที่ 7 มี.ค. ว่า พยายามส่งกำลังใจให้กับพรรคไทยรักษาชาติ และตนไม่มีความสุขกับการที่พรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งจะถูกยุบในระหว่างการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ดังนั้นตนอยากให้กำลังใจบรรดามิตรสหายที่อยู่ในพรรคไทยรักษาชาติ
    ขณะที่ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีความพยายามใช้สื่อบิดเบือนข้อมูล สร้างความสับสนบนโลกโซเชียล โดยเสนอเนื้อหาสาระที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิด มีการแชร์รูปภาพที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ร่วมหารือกับหัวหน้าพรรคการเมืองต่างๆ ที่เป็นแคนดิเดตเป็นนายกรัฐมนตรี ยกเว้นพรรคพลังประชารัฐ พร้อมมีข้อความที่พยายามจงใจให้เข้าใจว่าเป็นการหารือจับมือกันเพื่อร่วมรัฐบาล
    “ภาพดังกล่าวมีการส่งต่อๆ กันไปทั้งทวิตเตอร์ เฟซบุ๊ก และมีข้อความทำนองว่าพรรคประชาธิปัตย์จะร่วมรัฐบาลกับพรรคอื่น ซึ่งเป็นข้อมูลเท็จ เพราะข้อเท็จจริงคือในภาพดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ที่นายอภิสิทธิ์นั่งสนทนากับหัวหน้าพรรคการเมืองหลายคนระหว่างรอออกรายการดีเบตที่สถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่ง ไม่ใช่นั่งคุยจัดตั้งรัฐบาลแต่อย่างใด” นายองอาจ กล่าว และว่า นอกจากนี้ยังมีความพยายามแบ่งฝ่ายบีบให้ประชาชนเลือกข้างระหว่างฝ่ายประชาธิปไตยกับฝ่ายเผด็จการ ซึ่งไม่ใช่ประชาธิปไตยที่แท้จริง และคิดว่าเวลานี้มี 3 ทางเลือก คือ ฝ่ายนายทักษิณ ชินวัตร, ฝ่าย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และฝ่ายประชาชนเท่านั้น.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"