ความแตกต่างระหว่างการเมืองกับการค้า


เพิ่มเพื่อน    

      ฮื่ออ์อ์อ์...หัวจิต หัวใจ น่าจะหล่นมากองอยู่แถวๆ ตาตุ่ม หรือจะค้างๆ คาๆ อยู่บริเวณลำไส้ใหญ่ ก็แล้วแต่จะว่ากันไป สำหรับคดียุบพรรค-ไม่ยุบพรรค ไทยรักษาชิน แม้ว่าคำตัดสิน พิพากษาของศาลท่าน จะยืดออกไปในช่วงสัปดาห์หน้า แต่โดยลักษณะลีลา โดยทางบอล ทางมวย บรรดาผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง และผู้ซึ่งต้องรับผลกระทบทั้งหลาย น่าจะเริ่มหันไปมองทำเลการค้าอื่นๆ เอาไว้ก่อนล่วงหน้า ส่วนจะเปิดร้านขายก๊วยเตี๋ยว หรือเข็นรถขายลูกชิ้นปิ้ง ก็คงต้องขึ้นอยู่กับทางใครก็ทางมัน...

                                                         -----------------------------------------------------------

      คือสำหรับ การเมือง นั้น...ว่าไปแล้ว มันออกจะเป็นอะไรที่ผิดแผก แตกต่าง ไปจากเรื่องของ การค้า แบบชนิดจะเอามาผสมปนเปให้กลายเป็น คนละเรื่องเดียวกัน ออกจะลำบากอยู่พอสมควร และใครก็ตามที่ไม่ได้แยกแยะความแตกต่าง มองไม่เห็นความแตกต่างระหว่างสิ่งที่ว่า โอกาสที่จะ ตกม้าตาย แบบคราวแล้ว คราวเล่า ตกซ้ำ ตกซาก ย่อมปรากฏให้เห็น กันในระดับ เหงื่อโง่ ไหลพรากๆ วันละ 3 เวลาหลังอาหาร อย่างมิอาจปฏิเสธและมิอาจหลีกเลี่ยงมาโดยตลอด แทบไม่ต่างไปจากเวรกรรม ที่ไม่มีโอกาสได้ชดใช้ ชนิดบาปอย่างแรกยังไม่ทันแล้วเสร็จ บาปอย่างหลังก็เปิดประตูตามมาติดๆ ทำนองนั้น...

                                                          ----------------------------------------------------------

      ด้วยเหตุเพราะ การค้า นั้น...มันคงวนไป-วนมาอยู่กับเรื่อง กำไร และ ขาดทุน แบบไม่ต้องเสียเวลาไปคิดมาก หรือต้องหันไปคิดโน่น คิดนี่ มากมายซักเท่าไหร่ ได้จังหวะ ได้โอกาส ต่อเส้น ต่อสาย อัดค่าใช้จ่ายเพื่อให้ได้มาซึ่ง สัมปทาน ไม่ว่าจะสูง จะต่ำ เพียงใด ก็ถือเป็นแค่ ต้นทุน  เมื่อได้รับการอนุมัติ อนุญาต เรียบโร้ยย์ย์ย์แล้ว ค่อยไป โขกกำไร ขูดอะไรต่อมิอะไรชนิดเลือดไหลซิบๆ หรือไหลโจ๊กๆ ก็คงไม่ถึงกับมีใครถือสา หาความ อะไรกันมากมาย เนื่องจากทุกสิ่งทุกอย่างได้ถูกกำหนดเอาไว้ตามมาตรฐานทางการค้า ตามสิทธิที่ได้รับการอนุมัติ อนุญาต ไปแล้วก่อนหน้านั้น...

                                                          -----------------------------------------------------------

      การรวยแบบพรวดๆ พราดๆ...แวบเดียวมีเงินถุง เงินถัง นับเป็นพันล้าน หมื่นล้าน ทั้งๆ ที่แค่ไม่กี่ปีที่ผ่านมา ยังต้อง วิ่งแลกเช็ค ชนิดเหงื่อไหลไคลย้อย มันจึงถือเป็น ความสำเร็จทางการค้า ที่จะนำมาเกี่ยวข้องกับเรื่อง  ความสำเร็จทางการเมือง คงมิได้ เพราะในทางการเมืองนั้น มันยังมีอะไรมากไปกว่าเรื่องของ กำไร และ ขาดทุน  อีกเยอะเลย ไม่ว่าเรื่องอารมณ์ ความรู้สึกของผู้คน ค่านิยมทางสังคม ไปจนถึงเรื่องวัฒนธรรม ประเพณี ขนบธรรมเนียมที่พึงปฏิบัติ และที่ไม่พึงปฏิบัติ ฯลฯ แม้ว่าบรรดาสิ่งเหล่านี้ ไม่ได้ถูกผนวกเอาไว้ในคำอนุมัติ อนุญาต หรือแม้กระทั่งไม่ถูกบัญญัติเอาไว้ในตัวบทกฎหมายก็ตามที แต่ถ้าลองดันเผลอไป...ล้ำเส้น ไปล่วงละเมิดขอบเขต พื้นที่ที่ควรจะเป็น โอกาส เจ๊ง...กับ...เจ๊ง หงายท้องตึง หลับกลางอากาศ ย่อมเป็นไปได้ทุกเมื่อ...

                                                                 -----------------------------------------------------

      การนำเอาลักษณะนิสัยทางการค้า...มาใช้กับการเมือง ชนิดถูกเรียกขานกันในนาม ธุรกิจการเมือง โดยไม่ได้คิดจะแยกแยะ พิจารณา ความตื้น-ลึก-หนา-บางต่างๆ ให้ชัดๆ เข้าไว้ จึงเป็นอะไรที่ออกไปทางหยาบๆ สากๆ ทื่อๆ ถ่อยๆ จนส่งผลให้ ทุน ซึ่งไม่ว่าจะมีอยู่กี่พัน กี่หมื่น กี่แสนล้าน มันเลยหนักไปทาง ทุนสามานย์ ที่ใครต่อใครเขาออกจะ รับไม่ได้ ไปด้วยกันทั้งสิ้น ไม่ว่าผู้นั้นจะเป็นผู้มีอำนาจ หน้าที่ มีบทบาทความรับผิดชอบในเรื่องใด เรื่องหนึ่ง ในกิจกรรม หรือกิจการใดๆ ก็ตาม เพราะเมื่อต้องเจอกับแรงเสียดสี เสียดทาน ระดับเกินกว่า ขีดจำกัด ที่ผู้ใด-ผู้หนึ่งจะรับไหว เห็บหมา ย่อมหนีไม่พ้นที่จะต้องรีบโดดออกจาก ตัวหมา ไปด้วยกันทั้งนั้น เหลือแต่เฉพาะ เห็บที่ไม่มีทางไป เท่านั้นเอง...

                                                                  ------------------------------------------------------

      ด้วยเหตุนี้นี่แหละ...ที่เลยยิ่งสู้-ยิ่งแพ้ ยิ่งฮึด-ยิ่งเจ๊ง ยิ่งอยากเอาชนะ-ยิ่งฉิบหาย เหลียวมามองรอบข้าง รอบตัวเมื่อไหร่ ก็เห็นแต่ เห็บที่ไม่มีทางไป เกาะอยู่เป็นกระจุกๆ ซึ่งคงต้องตายไปพร้อมๆ กับ ตัวหมา อย่างมิอาจปฏิเสธ ชนิดต่อให้มี ทุน เหลืออยู่อีกเท่าไหร่ อีกกี่หมื่น กี่แสนล้านก็เถอะ แต่ถ้าหากมันดันกลายเป็น ทุนสามานย์ ซะอย่างแล้ว โอกาสที่จะโน้มน้าวให้ผู้คนเค้าเกิดอารมณ์ ความรู้สึก ปลาบปลื้ม ยินดี เกิดความยึดมั่น ยึดถือ แบบเดียวกับที่เคยยึดๆ อยู่ในขนบธรรมเนียม วัฒนธรรม ประเพณีอันดี หรือวัฒนธรรม ประเพณี อันมี ธรรมะ รองรับไว้โดยพื้นฐาน ยังไงๆ...มันคงเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วแน่ๆ!!!

                                                                       -----------------------------------------------------

      และอันนี้นี่เอง...ที่ทำให้ไม่ว่า เห็บ ไม่ว่า หมา ย่อมมีแต่ตาย...กับ...ตาย ลูกเดียวเท่านั้นเอง ขึ้นอยู่กับว่าใครจะ โชคดี...ที่ตายก่อน โดยเฉพาะประเภทที่ โดดไม่ทัน และต้องตายไปแล้ว ต้องเรียกว่า...นับจำนวน ศพ แทบไม่ได้ ส่งผลให้ผู้ที่ต้องกลายเป็น ศพ รายต่อไป อดไม่ได้ที่จะดึง หมา ให้ต้องร่วมตายไปกับตัวเอง จะปล่อยให้เฉิดฉาย หิ้วกระเป๋าใบละเป็นล้านๆ เดินช็อปปิ้งอยู่ตามห้างสรรพสินค้าอันสุดแสนวิลิศมาหรา ขณะตัวเองนอนบิดไป-บิดมา หมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาทอยู่ในคุก มันออกจะเป็นอะไรที่เจ็บปวด รวดร้าว สุดจะเกินทน...

                                                                       --------------------------------------------------------

      ดังนั้น...สำหรับบรรดา เห็บที่ยังไม่มีทางไป คงต้องหยิบมาเป็นอุทาหรณ์ สอนใจ ไว้ซะแต่เนิ่นๆ เพราะเฉพาะแค่ ตายในทางการเมือง นั้น มันคงไม่ถึงกับหนักหนา สาหัส มากมายซักเท่าไหร่ ตราบใดที่ ชีวิต และ ความเป็นมนุษย์ ยังคงอยู่ โอกาสที่จะแก้ไข แก้ตัว แก้ความผิดพลาดอันเนื่องมาจากความ หลงผิด การ เห็นกงจักรเป็นดอกบัว ย่อมเป็นไปได้เสมอๆ ขอเพียงแต่ให้ ตระหนัก และ สำนึก ให้รู้จักแยกแยะว่าอะไรถูก อะไรผิด อะไรดี อะไรชั่ว การดำรง รักษา คุณค่าแห่งความเป็นมนุษย์ ก็ไม่น่าจะถึงกับลำบาก ยากเย็น จนเกินไป...

                                                                       -----------------------------------------------------------

      ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก German proverb... One sin opens the door for another.- บาปอย่างแรกจะเปิดประตูให้บาปอย่างหลังตามมา...

                                                                          ------------------------------------------------------


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"