ขึ้นชื่อว่าเป็นดาราตลก สิ่งแรกที่ต้องนึกถึง คือ รอยยิ้มและความสนุกสนานจากมุกโจ๊กๆ แต่นั่นก็เป็นเพียงบทบาทหนึ่งของคนคนนั้น เพราะความจริงบุคคลมีหลายมุมในคนเดียว

อย่าง “จงรวย สมจิตรนา” ซึ่งหลายท่านอาจไม่คุ้นเคยกับชื่อดังกล่าว แต่นี่คือชื่อจริงของ “หยอง ลูกหยี” ดาราตลกชื่อดังที่ใครๆ ต่างรู้จัก

ปัจจุบัน “จงรวย” กำลังปรับเข้าสู่โหมดเครียด เป็นผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดลพบุรี เขตเลือกตั้ง 4 (อ.ชัยบาดาล อ.ท่าหลวง อ.สระโบสถ์ อ.โคกเจริญ อ.ลำสนธิ) ของพรรคประชาธิปัตย์

“เวลากลับบ้านที่ลพบุรี ผมเจอพี่ป้าน้าอาโดนนายทุนยึดไร่นา พืชผลการเกษตรตกต่ำ ไม่มีประกันรายได้ของคน เอกสารสิทธิ์ที่ดินทำธุรกรรมการเงินไม่ได้ ปัญหาหนี้เน่า พี่น้องเราโดนเอาเปรียบ” จงรวยกล่าวตอนหนึ่งระหว่างถูกถามหาสาเหตุที่ตัดสินใจเล่นการเมือง

ทว่า จังหวัดลพบุรีที่จงรวยประกาศตัวขอท้าชิงเก้าอี้นั้น เป็นที่ทราบดีว่าคือพื้นที่ทหาร และแชมป์เก่าเป็นของพรรคเพื่อไทย แต่ “จงรวย” เชื่อว่าเขาสู้ไหว และยังกล่าวว่า แต่ก็แพ้ได้ตลอดเช่นกัน เพราะเราไม่มีเล่ห์เหลี่ยมทางการเมืองมากมาย เราไม่มีวิชามาร เล่นการเมืองครั้งแรก แต่ก็พยายามสร้างเกาะป้องกันตัวเองให้มากที่สุด จังหวัดลพบุรี ก็รู้ๆ กันอยู่ว่าสู้กับอะไร อำนาจรัฐ อำนาจเงิน จะเรียกว่าพรรคส่งตนวิ่งฝ่ากระสุนเงินเพื่อปักธงก็ได้ ซึ่งถือว่าไม่ง่ายนัก แต่ถ้าสู้กันแบบตามครรลองทางการเมืองจริงๆ ตนไม่กลัว สู้กันแบบสุภาพบุรุษ เพราะนโยบายของพรรคเราใช้ได้ ชาวบ้านโอเค ทั้งนี้ แม้พื้นที่ลพบุรีเป็นพื้นที่ทหาร แต่ลพบุรีก็เป็นบ้านเกิดตนเองเช่นกัน และจะสู้ไปตามวิถีของตนเท่าที่จะทำได้

จงรวย วิเคราะห์พื้นที่ของตนเองว่า แฟนพันธุ์แท้ของประชาธิปัตย์น่าจะมีกว่า 16,000 เสียงโดยประมาณ แต่สำหรับเขตเลือกตั้งของตนรอบนี้มีคู่แข่งจำนวนมากถึง 8 พรรค ประชากร 5 อำเภอสามารถใช้สิทธิ์ได้ 180,000 คน และคาดว่าจะมาใช้สิทธิ์ 140,000 คน ดังนั้น หากจะชนะต้องได้คะแนนอย่างน้อย 45,000 เสียง

ผู้สมัคร ปชป.ลพบุรี เขต 4 ระบุว่า เชื่อว่าพ่อแม่พี่น้องชาวลพบุรีตื่นรู้ รู้ทันการเมือง ตนจะใช้วิธีเดินขอความรักจากชาวลพบุรี เดินให้เยอะที่สุด และอยากฝากถึงชาวเขต 4 โดยเฉพาะเด็กรุ่นใหม่อายุ 18-27 ปี จะเป็นการเลือกครั้งแรกของเขา ว่าอย่าให้ใครครอบงำ ใครให้เงินรับให้หมดแล้วอย่าเลือก หลวงพ่อคูณเคยบอกว่าถ้าเลือกคนให้เงิน เราจะบาป ดังนั้น เราต้องมีคนดีคนจริงๆ เข้าไปทำงานในสภาให้ได้ อย่าให้ใครครอบงำ ใช้สิทธิเสรีภาพของเราในการคัดสรรครั้งนี้

ความเป็นตลกหนุนงานการเมือง

ช่วยได้นิดหน่อย เพราะสนามตรงนั้นไม่ใช่สนามบันเทิง แต่เป็นสนามทางการเมือง ตนเคยแสดงวิสัยทัศน์และจุดยืนทางการเมืองว่าตนประมาณไหน ส.ส.ในหลายจังหวัดได้เข้ามาเป็น ส.ส.ไม่ค่อยรู้ปัญหาที่แท้จริง เพียงแต่มีเงินและสืบทอดมรดกทางการเมืองจากพ่อจากแม่ จากปู่ย่า จึงไม่รู้ แต่สำหรับตนเป็นลูกคนจากชาวไร่ชาวนา จึงเข้าใจคนจนว่าต้องการอะไร และที่สำคัญ ตนกล้าที่จะพูด ส.ส.บางคนรู้หรือไม่รู้ปัญหาในพื้นที่ไม่ทราบ แต่ไม่เคยนำปัญหาเล่าให้สภาฟัง เพราะพูดไม่เป็น หรือไม่ก็ไม่กล้าพูด บางคนบอกว่าขนาดคันหัวยังไม่กล้าเกาหัวเลย กลัวประธานในสภาให้พูด เพราะคิดว่ายกมือ ทั้งนี้ ตนไม่เคยเห็น ส.ส.ลพบุรีพูดในสภาเลย

“ผมจะบอกว่าผมไม่ใช่ไม้ประดับ ผมลงจริง เล่นจริง ต่อยจริง ชกจริง กล้าพูด กล้าชน ผมไม่ไปนั่งเป่าสากในสภา”

ไม่ว่ารอบนี้จะได้รับโอกาสหรือไม่ ต้องวิเคราะห์ว่าได้หรือไม่ได้เพราะอะไร ถ้าได้จะกลายเป็นประวัติศาสตร์ชาติไทยว่าคนลพบุรีเลือกตน กล้าลองของใหม่ เป็นการทดสอบว่าน้ำหน้าอย่าง “หยอง” กล้าหรือเปล่า ตนไม่ได้ใฝ่ฝันว่าจะเป็นนักการเมืองที่ยิ่งใหญ่ แต่อยากเป็นผู้แทนประชาชนที่ดีเท่านั้นเอง แค่นำปัญหาในพื้นที่ทั้ง 5 อำเภอไปเล่าให้สภาฟัง เช่น ปัญหาที่ดิน ทำไมถึงยังเป็น สปก.ที่ไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้ เป็นต้น

สารพัดเหตุผลสวมเสื้อฟ้าลงสนาม

มีหลายพรรคมาชวนให้เป็นผู้สมัคร แต่มันไม่ใช่ตัวตน แต่ที่เลือกประชาธิปัตย์ เพราะเป็นพรรคส่วนกลาง ไม่ใช่พรรคของนายทุนคนใดคนหนึ่ง ยืนคู่ประเทศไทยมา 70 กว่าปีแล้ว แม้ทำอะไรช้าแต่ชัวน์เสมอ อีกทั้งนโยบายของพรรคจับต้องได้จริง เบี้ยผู้สูงอายุสมัยรัฐบาลนายชวน หลีกภัย เรียกว่าโดนใจ หรือแม้แต่กองทุนกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษา (กยศ.) ที่ให้กู้เงินเรียน ลูกคนจนได้รับปริญญา ถามว่าเป็นเพราะประชาธิปัตย์ใช่ไหม เบี้ยตอบแทนอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) ประชาธิปัตย์ก็ทำขณะเป็นฝ่ายค้าน ทำผลงานไว้มากแต่เขาก็ขโมยไป

“ในส่วนการเลือกตั้งครั้งนี้ นโยบายโฉนดสีฟ้าเป็นไปได้จริง เพราะจะทำเอกสารสิทธิ์ให้คนจนและเกษตรกรทำธนาคารที่ดินทำได้จริง ถ้าเราทำเอกสารสิทธิ์ไม่ได้ เราก็ยกระดับให้เป็นโฉนดสีฟ้า ทำธุรกรรมการเงินการธนาคารกับ ธ.ก.ส.ได้ อันนี้ทำได้เลย ประกันรายได้ เบี้ยผู้สูงอายุ 1,000 บาท โอนเข้าบัญชี ถ้าไม่ใช้ก็สะสมไว้ ทำไมจะทำไม่ได้จริง จะใช้กี่แสนล้าน ที่โกงกันเป็นล้านล้านล้านกี่แสนล้าน ก็แค่นำมาให้คนจนจริงๆ ประกันรายได้ของผู้มีรายได้น้อย ปีละ 120,000 บาท ทำได้จริงด้วย”

“หยอง ลูกหยี” ปิดท้ายว่า ประเทศไทยถ้าไม่มีคอร์รัปชัน ราวสเตนเลสบนสะพานลอยทำเป็นทองคำได้เลย บางคนจะตายวันตายพรุ่งยังจะโลภ ถามว่าทำทำไม ทำไมไม่ทำความดี เผื่อแผ่เอื้ออาทรกัน.

ชื่อ จงรวย นามสกุล สมจิตรนา ฉายา หยอง ลูกหยี

เกิด 26 มิ.ย.2509 อายุ 52 ปี

ประวัติการศึกษา : ปริญญาตรี รัฐศาสตร์การเมืองการปกครอง มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี และปริญญาโท รัฐศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี