28 ก.พ.62 - นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ออกแถลงการณ์สมาคมฯ เรื่อง "ขอดเกล็ด 11 เหตุผลที่ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่เหมาะเป็นนายกรัฐมนตรีอีกต่อไป" ระบุว่า ตามที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ยอมลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.เพื่อมาทำหน้าที่ผู้รักษาการณ์ ตามครรลองของการเมืองไทยที่ปฏิบัติกันมา แถมยังกล้าที่จะตอบรับการเสนอบัญชีรายชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ ในการต่อสู้ชิงชัยในการเลือกตั้ง 24 มีนาคมศกนี้ ทำให้เป็นที่ครหาว่าท่านเป็นกรรมการตัดสิน แต่กลับลงสนามมาเล่นแข่งเสียเอง แถมยังใช้ทรัพยากรต่างๆ ของรัฐและสื่อของชาติมาจ้อทุกคืนวันศุกร์ โดยไม่ได้ประเมินให้ขาดว่าสถานการณ์เช่นนี้ทำให้ความเหมาะสมของการเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่สง่างามของ พล.อ.ประยุทธ์ นั้นหมดสิ้นไปแล้ว และไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะหวนกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีก และตลอดระยะเวลาที่คณะตรวจสอบภาคประชาชนได้ติดตามตรวจสอบการทำงานของ พล.อ.ประยุทธ์มาโดยตลอดนั้น สามารถสรุปเหตุผลความไม่เหมาะสมที่ท่านเป็นผู้นำประเทศด้วย 11 เหตุผล ดังนี้ 
       
1.เป็นผู้นำรัฐประหารซึ่งทั่วโลกไม่ยอมรับ 2.ไม่มีความเป็นผู้นำทั้งในและต่างประเทศ เป็นตัวตลกในเวทีโลก 3.ไม่กล้าตัดสินใจในผลประโยชน์ของชาติ เช่น กรณีเขมรรุกที่ทำกินในเขตแดนไทย 4.ทำจริง ทำได้ และทำให้เห็นมาแล้วคือการเอื้อประโยชน์ให้นายทุนในเมกกะโปรเจกต่างๆ 5.ตัวจริงเสียงจริง ในการใช้คำสั่ง  คสช.อย่างฟุ่มเฟือยโดยไม่คำนึงถึงหลักประชาธิปไตย 6.เสียสละเพื่อชาติเกินไปทำให้ไทยมีหนี้สาธารณะเกือบ 7 ล้านล้านบาท 7.อ้างว่ารักประชาชน แต่นำเงินภาษีของประชาชนไปแจกคนจนหาเสียงล่วงหน้า 8.เป็นนายกรัฐมนตรีที่สัมผัสไม่ได้ พึ่งไม่ได้ ทุกครั้งที่ลงพื้นที่หรือจัด ครม.สัญจร ลิ่วล้อจะกีดกันชาวบ้านไม่ให้มาร้องทุกข์ต่อหน้า ใครฝ่าฝืนก็จะถูกแจ้งความผิด พ.ร.บ.ชุมนุมฯ  9.ไม่มีวิสัยทัศน์ ไม่ปกป้องสมบัติชาติ เช่น นำที่ดินรถไฟมักกะสันของ ร.5 ไปประเคนให้นายทุนเช่า 99 ปี 10.ทำลายฐานรากประชาธิปไตยด้วยการทำรัฐประหาร และ 11.มีความเป็นมนุษย์สูงเกินไป คือ การหงุดหงิดง่าย ตวาดนักข่าวหรือผู้คน ใช้ถ้อยคำผรุสวาทเสมอๆ

เหตุผลทั้ง 11 ข้อดังกล่าวคณะตรวจสอบการทุจริตและประพฤติมิชอบภาคประชาชน นำโดยคุณอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ คุณรสนา โตสิตระกูล คุณธีรชัย ภูวนารถนฤบาล คุณชาญชัย อิสระเสนารักษ์ และผู้รู้ท่านอื่นๆ ได้ร่วมกันขอดเกล็ดนำเสนอบางประเด็นให้สาธารณชนทราบมาแล้วตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ในเวทีการเสวนา “การตรวจสอบการทุจริตประพฤติมิชอบของรัฐบาล” ในแต่ละครั้ง ซึ่งสรุปได้ตรงกันว่า “ผิดหวัง” กับ คสช. และผิดหวังต่อพล.อ.ประยุทธ์ ที่ทำให้การรัฐประหารที่มีธงนำเรื่องการปฏิรูปนั้น “เสียของ” ทำให้ประเทศเสียเวลา เสียโอกาสในการพัฒนาอย่างน่าเสียดาย