กองทัพสวนนักการเมือง หมดยุคทหารเกณฑ์รับใช้


เพิ่มเพื่อน    

    โฆษกกลาโหมลั่น! เงินซื้ออุดมการณ์กองทัพไม่ได้ พรรคการเมืองอย่าหาเสียงลอยๆ ว่าจะเลิกเกณฑ์ทหาร เปิดสถานภาพกำลังพล ความไม่พร้อมจากสงครามในอดีตทำให้เกิดความสูญเสียมาก ยันทหารรับใช้แทบจะไม่มี ผู้กองยอดรัก ไม่ต้องไปซักผ้าให้เห็น เพราะทุกบ้านมีเครื่องซักผ้าใช้หมดแล้ว
    เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ชี้แจงกรณีที่มีบางพรรคการเมืองนำเรื่องการยกเลิกการเกณฑ์ทหารไปหาเสียงว่า ภาพรวมของทหารมีการใช้กำลัง 1 ใน 3 ไปปฏิบัติภารกิจป้องกันชายแดน รวมถึงในพื้นที่จังหวัดใช้แดนภาคใต้ และในส่วน 2 ใน 3 ต้องฝึกตามวงรอบ และปฏิบัติภารกิจดูแลความมั่นคงภายในประเทศ ทหารกองประจำการจึงเป็นกำลังพลหลัก ของกองทัพ ที่หมุนเวียนกันเข้ามาทำหน้าที่รับใช้ชาติ รวมถึงการดูแลปกป้องภัยคุกคามรูปแบบใหม่ เช่น ภัยยาเสพติด, ภัยคุกคามทางไซเบอร์ และภัยพิบัติที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติ ภัยก่อการร้ายอาชญากรรมข้ามชาติ การค้ามนุษย์ การแก่งแย่งชิงทรัพยากร รวมถึงโรคระบาดต่างๆ ที่เป็นภัย ที่ไม่ได้เกิดขึ้นจากสงคราม ซึ่งรัฐต้องดูแลเรื่องเหล่านี้ด้วย
    สำหรับความต้องการทางทหารกองประจำการนั้น ใน 1 ปีมีชายไทยลงทะเบียนเป็นทหารกองเกินไว้ประมาณ 6-7 แสนคน แต่เข้ารับการตรวจเลือกประมาณ 4-5 แสนคน ส่วนที่หายไป เพราะร่างกายไม่ผ่านการคัดเลือก และอีกส่วนหนึ่งก็มีการขอผ่อนผัน ซึ่งในส่วนความต้องการของกองทัพมีประมาณ 1 แสนคน หรือเป็น 1 ใน 5 ของยอดที่เข้ารับการตรวจเลือก ที่ผ่านมาในแต่ละปีมีคนสมัครใจเป็นทหารกองประจำการประมาณ 20% แต่ในปี พ.ศ.2557-2558 มียอดสมัครใจ 45%  
    พล.ท.คงชีพกล่าวอีกว่า สถานภาพกำลังพลในกองทัพ แบ่งเป็นส่วนประชากร 4%, ส่วนสนับสนุนการรบ 7%, ส่วนภูมิภาค 14%, ส่วนกำลังรบ 63%,  ส่วนส่งกำลังบำรุง 4% และส่วนการฝึกศึกษา 8% ซึ่งภารกิจของทหารกองประจำการจะแบ่งเป็นการเตรียมกำลัง และปฏิบัติภารกิจภายในประเทศ 67% ส่วนภารกิจป้องกันชายแดน 33% ที่ผ่านมา เรามีบทเรียนจากในอดีต เมื่อเวลาเกิดสงครามคนไม่มีความพร้อม เพราะไม่ได้รับการฝึก จึงทำให้เกิดการสูญเสียเป็นจำนวนมาก ทางรัฐบาลในสมัยนั้นจึงได้ตราระเบียบการรับราชการทหารปี พ.ศ.2497 ออกมา เพื่อให้ชายไทยทุกคนเข้ามารับการตรวจเลือกการเป็นทหารเพื่อดูแลประเทศชาติ เตรียมกำลังและความพร้อมสามารถเผชิญต่อภัยสงครามได้
    ทั้งนี้ ในโลกนี้มีอยู่ 39 ประเทศ ที่ยังใช้ระบบการเกณฑ์ทหารอยู่ และ 13 ประเทศที่ยกเลิกการเกณฑ์ทหารไปแล้ว และ 29 ประเทศที่ไม่เกณฑ์ทหาร แต่ที่ผ่านมาหลายประเทศที่เคยยกเลิกระบบการเกณฑ์ทหารแล้วนำกลับมาพิจารณาใช้อีก เช่น ประเทศสวีเดน, ประเทศลิทัวเนีย และประเทศจอร์แดน ส่วนที่ประเทศอิตาลี, โรมาเนีย, เยอรมนี และฝรั่งเศส กำลังพิจารณาหลักเกณฑ์การเกณฑ์ทหารกลับมาใช้อีก
    ส่วนประเทศไทยนั้น เราทำแบบผสม เราจำเป็นต้องใช้การตรวจเลือกทหาร แบบผสมทั้งความสมัครใจ และเกณฑ์ทหารควบคู่กัน ทั้งนี้ ทหารที่รับราชการมีอยู่ 3 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 กลุ่มที่มีความต้องการเป็นทหาร โดยความสมัครใจ 2.กลุ่มที่ถือว่าเป็นหน้าที่ของชายไทย ที่ต้องทำตามกฎหมาย กลุ่มนี้ก็จะเข้ามารับการตรวจเลือกและจับสลากใบดำ-ใบแดง และ 3.คือกลุ่มที่ไม่ต้องการรับราชการทหารเลย แม้จะมีแรงจูงใจมากเท่าไหร่ก็ตาม 
    เมื่อถามว่า สังคมยังรู้สึกว่าทหารเกณฑ์ถูกนำไปเป็นพลทหารรับใช้บ้าน จะลดจำนวนตรงนี้หรือยกเลิกไปเลยหรือไม่ พล.ท.คงชีพกล่าวอีกว่า ตนไม่ได้ปฏิเสธ แต่วันนี้ถือว่าน้อยมาก หรือแทบจะไม่มี และถือเป็นนโยบายอยู่แล้วที่เราหลีกเลี่ยงการใช้ทหารไปทำภารกิจที่ไม่เหมาะสม โดยเคารพในเกียรติและศักดิ์ศรีของเขา ภาพเก่าๆ ในละครผู้กองยอดรัก ที่ใช้ไปซักผ้า คงไม่มีให้เห็น เพราะทุกบ้านมีเครื่องซักผ้าใช้หมดแล้ว
    "ที่มีการเรียกร้องให้ยกเลิกการเกณฑ์ทหารในภาวะที่เราต้องการทหารขนาดนี้ จะยอมรับกับปัญหาที่เกิดขึ้นได้หรือไม่ วันนี้ต้องศึกษาและทำความเข้าใจกันก่อน ไม่อยากให้มีการพูดกันลอยๆ จะกระทบต่อจิตใจต่อคนปฏิบัติหน้าที่ พลทหารทุกคนเป็นรั้วของชาติที่มีชีวิตจิตใจ ควรมาหันมาให้เกียรติและให้กำลังใจในการทำงาน ผมเชื่อว่าชายไทยทุกคนจะภาคภูมิใจและเดินเข้ามาสมัครเป็นทหาร" พล.ท.คงชีพกล่าว
    ถามว่า พรรคเพื่อไทย อนาคตใหม่ เสรีรวมไทย หาเสียงยกเลิกการเกณฑ์ทหาร หากเข้ามากำหนดนโยบาย กองทัพจะชี้แจงหลักการนี้ได้หรือไม่ โฆษกกระทรวงกลาโหมกล่าวว่า คิดว่าเมื่อฟังสิ่งที่ชี้แจงแล้วจะเข้าใจ และพรรคการเมืองเหล่านั้นก็เคยทำงานทางการเมืองมาแล้ว และเป็นนักการเมืองหน้าเดิมๆ และมีหน้าใหม่เข้ามาบ้าง รัฐบาลที่ผ่านมาก็เป็นรัฐบาลในวิถีประชาธิปไตย ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลที่มาจากพรรคเพื่อไทยหรือพรรคประชาธิปัตย์ เคยทำงานในสภา การแก้ไข พ.ร.บ.การเกณฑ์ทหาร ก็อยู่ในสภา รวมถึงการรับกำลังพลเข้ามาเป็นทหาร ก็ต้องมีการขออนุมัติงบประมาณจาก ครม. จึงไม่อยากไปหาเสียงในลักษณะลอยๆ ว่าจะยกเลิกการเกณฑ์ทหาร 
    “ทหารทำงานด้วยแรงศรัทธา อุดมการณ์ ไม่ใช่จ้างด้วยเงิน เพราะเงินซื้อสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ ไม่ควรตีค่าความรับผิดชอบต่อแผ่นดิน ความรักชาติ เป็นเงิน การดูแลแผ่นดินเกิดและความมั่นคงของชาติ เป็นหน้าที่ของทุกคน ผมต้องการชี้แจง ไม่ใช่เป็นการตอบโต้ การนำไปหาเสียงแบบนี้ก็ต้องพิจารณากันเองว่าเหมาะสมหรือไม่” พล.ต.คงชีพกล่าว    
    ที่ร้านอาหารจักรพงษ์ วิลล่า มีการจัดงานเปิดตัวหนังสือ “ปฏิบัติการลับ ในสมรภูมิรบ” โดยภายในงานมีการจัดงานเสวนาพิเศษในหัวข้อ “เหลียวหลัง แลหน้า…หาคำตอบ การทหาร-การเมืองไทย” โดยมี พล.อ.จรัญ กุลละวณิชย์ อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.), พล.อ.เอกชัย ศรีวิลาศ ผู้อำนวยการสำนักสันติวิธีและธรรมาภิบาล สถาบันพระปกเกล้า ร่วมเสวนา
    พล.อ.จรัญกล่าวว่า นักรบที่เป็นประชาชนหรือชาวบ้าน ผู้ชายมีบทบาทมาตั้งแต่อดีต ในยุคที่ประเทศไทยยังมีหลายอาณาจักร หลายกลุ่มชาติพันธุ์ ที่กระจายกันอยู่ก่อนจะเกิดเป็นประเทศไทย ก่อนจะเริ่มใช้คำว่าทหารครั้งแรกในสมัยสุโขทัย ซึ่งนักรบสมัยก่อนที่เก่งและฉลาดที่สุดจะได้ขึ้นมาเป็นกษัตริย์ ก่อนจะเริ่มมีการจัดระบบทหารให้เป็นสถาบันในเวลาต่อมา แต่ปัญหาที่ประเทศไทยมีมาตลอดคือปัญหาเกี่ยวกับความสามัคคีของคนในชาติ ที่มักเกิดจากผลประโยชน์ อำนาจ หรือความคิดที่แตกต่างทางการเมืองในหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
    “เมื่อปี 2475 ถึงปี 2490 มีการเปลี่ยนรัฐบาลเกือบทุก 2 ปี บางรัฐบาลมีอายุไม่ถึงเดือน ซึ่งทุกสงครามที่เรามีผลกระทบทั้งสงครามไทย-ฝรั่งเศส  สงครามโลกครั้งที่ 2 และมหาสงครามเอเชียบูรพา ล้วนเกิดในยุคจอมพลแปลก พิบูลสงคราม ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุดทั้งหมด ซึ่งในทุกเหตุการณ์ ล้วนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ทั้งที่เปิดเผยและไม่เปิดเผย ทั้งการตัดสินใจเป็นพันธมิตรกับญี่ปุ่น หรือการส่งขบวนการเสรีไทยไปฝึกที่อินเดีย ทำให้เห็นว่าทหารมีส่วนร่วมเกี่ยวกับการเมืองไทยในอดีตมากขนาดไหน” พล.อ.จรัญกล่าว
    พล.อ.เอกชัยกล่าวว่า สาเหตุที่จอมพล ป. ต้องจับมือกับญี่ปุ่น เพราะต้องการรักษาชีวิตของคนไทยไว้ เพราะกองทัพญี่ปุ่นมีแสนยานุภาพเป็นอย่างมาก ขณะที่หลวงอดุลเดชจรัส ที่เป็นมือขวาจอมพล ป. นั้นกลายมาเป็นแกนนำของขบวนการเสรีไทย แสดงให้เห็นว่าจอมพล ป. นั้นมีวิสัยทัศน์ และต้องการให้ประเทศไทยได้รับผลกระทบจากสงครามโลกน้อยที่สุด เช่นเดียวกับการปลุกกระแสชาตินิยม เพื่อป้องกันการถูกญี่ปุ่นกลืนอัตลักษณ์ของชาติไทย ทั้งในแง่ของภาษาและวัฒนธรรม.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"