วันพฤหัสบดีที่ 7 มี.ค.นี้ คือวันชี้ชะตาว่าสุดท้ายแล้ว พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) จะได้ไปต่อจนถึงวันเลือกตั้ง 24 มี.ค. หรือจะถูกยุบพรรคเสียก่อน
หลังที่ประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันพุธที่ 27 มี.ค. ลงความเห็นว่า จากคำร้องของ กกต.และคำชี้แจงข้อกล่าวหาของพรรค ทษช. ทำให้มีพยานหลักฐานเพียงพอต่อการวินิจฉัยคดี จึงไม่ต้องเปิดห้องพิจารณาไต่สวนคดีและเรียกพยานมาเบิกความตามที่พรรค ทษช.ยื่นคำร้อง ดังนั้น จึงนัดประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในวันพฤหัสบดีที่ 7 มี.ค. เพื่อให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญแต่ละคน แถลงคำวินิจฉัยส่วนตนและลงมติเพื่อทำคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในคดียุบพรรค ทษช. ที่คณะกรรมการการเลือกตั้งยื่นคำร้องขอให้ยุบพรรค ทษช. กรณีเสนอพระนามทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาฯ เป็นแคนดิเดตนายกฯ ที่ กกต.เห็นว่าการกระทำดังกล่าว มีความผิดตามมาตรา 92 (2) ของ พ.ร.บ.พรรคการเมือง ที่บัญญัติว่า กระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
คำวินิจฉัยของศาล รธน.ที่จะออกมา ก็จะมีด้วยกัน 2 แนวทางเท่านั้น คือ
1.ยกคำร้องของ กกต. ที่ก็คือ พรรค ทษช.ไม่ได้กระทำผิด ไม่ได้มีพฤติการณ์ตามที่ กกต.ยื่นคำร้องให้ยุบพรรค ผลก็คือ ทำให้พรรค ทษช.ได้ไปต่อทางการเมือง หากออกมาแบบนี้ พรรค ทษช.ก็เดินหน้าหาเสียงเลือกตั้งเต็มสูบต่อไป
2.มีคำวินิจฉัยให้ยุบพรรค ทษช. เนื่องจากกระทำความผิดตามคำร้องของ กกต. โดยหากออกมาแบบนี้ พรรค ทษช.ก็สิ้นสภาพโดยทันทีในวันที่ 7 มี.ค. เท่ากับผู้สมัคร ส.ส.ของ ทษช.ทั้งระบบเขตและบัญชีรายชื่อทั้งหมด สิ้นสภาพยกพรรคเพราะพรรคถูกยุบ อันมีผลทำให้ ทษช. พรรคเครือข่ายของทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย ที่ตั้งไว้เพื่อไปเก็บคะแนนเสียงปาร์ตี้ลิสต์ แล้วมาจับมือกับเพื่อไทยตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้ง หายไปหนึ่งพรรค ที่ก็ต้องดูว่า ทักษิณ–เพื่อไทย จะปรับแผนแก้เกมอย่างไร
ขณะเดียวกัน หากศาล รธน.มีคำวินิจฉัยให้ยุบพรรค ทษช. ก็ต้องลุ้นกันต่อว่า แล้วศาล รธน.จะลงโทษ-ตัดสิทธิการเมืองกรรมการบริหารพรรค ทษช. ที่ร่วมลงมติเรื่องแคนดิเดตนายกฯ ด้วยหรือไม่ ซึ่งก่อนหน้านี้นักกฎหมายบางสำนักชี้ประเด็นว่า ความเป็นพรรค ทษช. ที่เป็นนิติบุคคล ไม่สามารถไปทำอะไรเองได้ ทุกอย่างต้องเกิดจากผู้บริหาร กรรมการบริหารพรรค เปรียบเสมือนบริษัท จำกัด หากทำผิดกฎหมายแล้วโดนดำเนินคดี ตัวกรรมการบริษัท-ผู้บริหารก็ต้องรับผิดชอบ จนมีการมองกันว่า หากพรรค ทษช.ถูกยุบ กรรมการบริหารพรรค ทษช.ก็อาการโคม่า น่าจะรอดยาก ต้องรับผิดชอบทางการเมืองด้วย ซึ่งหากสุดท้ายไม่รอด ก็คือถูกเพิกถอนสิทธิรับสมัครเลือกตั้งตลอดชีวิต และไม่สามารถไปร่วมจัดตั้งพรรคการเมืองใดๆ ได้อีกภายในเวลา 10 ปี
7 มี.ค. จึงเป็นวันชี้ชะตาอนาคตพรรค ทษช. ที่คนส่วนใหญ่ หรือแม้แต่คนในพรรค ทษช. ก็เทน้ำหนักไปในทางที่ว่า มีโอกาส “ยุบพรรค-กรรมการบริหารพรรคไม่รอด”!.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |