พรรคพลังธรรมใหม่ ในสนามเลือกตั้งกทม.


เพิ่มเพื่อน    

        “พรรคพลังธรรมใหม่” ที่มี นพ.ระวี มาศฉมาดล เป็นหัวหน้าพรรค เป็นอีกหนึ่งพรรคการเมืองที่หวังลุ้นชัยชนะและคะแนนเสียงในสนามเลือกตั้งกรุงเทพมหานคร

         โดยหนึ่งในผู้สมัคร ส.ส.เขต กรุงเทพมหานคร ของพรรคพลังธรรมใหม่ ก็คือ ณัฐดนัย ชนิตร์วัฒน์ อดีตนักแสดง “ที่วันนี้เข้าสู่ถนนการเมือง-การเลือกตั้ง เป็นครั้งแรกด้วยการใส่เสื้อพรรคพลังธรรมใหม่ ลงชิงชัยในสนาม กทม.เขต 12 (บางเขต) ซึ่งแม้จะเป็นผู้สมัครหน้าใหม่ เพิ่งเข้าสู่การเมืองครั้งแรก แต่ก็พกความตั้งใจมาเต็มเปี่ยมกับการลงเลือกตั้งครั้งนี้

        “ปาล์ม-ณัฐดนัย” บอกถึงความสนใจทางการเมืองของตัวเองว่า สมัยที่เคยอยู่ในวงการบันเทิง ได้ไปพบปะชาวบ้านเวลามีภัยพิบัติต่างๆ ทั้งเล็กใหญ่ ช่วยชาวบ้านตามต่างจังหวัดในฐานะดาราหน้าใหม่ แต่ก็เป็นงานเล็กๆ เช่น ฟุตบอลการกุศล ไปบ่อยมาก หากใครขอมาจะไม่เคยปฏิเสธ เวลาได้รับมอบหมายให้ไปจะมีความสุขมาก ถึงชาวบ้านเค้าจะไม่ได้รู้จักเรา แต่ก็รับรู้ได้ว่าเค้าดีใจที่มีคนคิดถึงและไม่ได้ทอดทิ้งเค้าเวลาประสบภัย

        จนเติบโตขึ้น อายุมากขึ้นอยากทำงานเพื่อประชาชนในระดับประเทศที่ใหญ่ขึ้น จุดประสงค์เพื่อให้ประชาชนกินดีอยู่ดีกันถ้วนหน้า จึงลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งนี้

        สำหรับการเข้าสังกัดพรรคพลังธรรมใหม่ จุดเริ่มต้นเป็นเพราะว่า มีความศรัทธาในพรรคพลังธรรมเดิม ภาพที่ท่านมหาจำลอง ศรีเมือง แต่งกายไม่ได้หรูหราดูเข้าถึงง่าย และเป็นคนซื่อสัตย์สุจริต หากสิ่งใดผิดก็ว่ากันไปตามผิด ไม่มีการละเว้นหรือเห็นแก่พวกพ้อง ตลอดชีวิตการเมืองของท่านไม่เคยมีเรื่องทุจริต แม้สมัยเคยเป็นรัฐบาล ฝั่งรัฐบาลไม่สามารถชี้แจงปัญหาได้อย่างโปร่งใส ท่านลาออกโดยไม่เสียดายตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น เป็นต้น

       “พลตรีจำลองท่านเป็นต้นแบบตัวอย่าง ทุกอย่างที่นักการเมืองไทยควรจะมี นี่คือความซื่อสัตย์ต่อประเทศชาติที่พรรคพลังธรรมโดดเด่นกว่าพรรคไหนๆ จึงได้อาสาเข้ามาทำให้พรรคการเมืองดีๆ มีกระแสกลับมาอีกครั้ง”

       “ปาล์ม-ณัฐดนัย” ถ่ายทอดมุมมองต่อการเมืองไทยในช่วงที่ผ่านมาว่า จากการมองการเมืองที่ผ่านมา ถ้าในแง่ดีก็ถือว่ารัฐบาลช่วยทำให้ประเทศไทยสงบสุข ไม่มีปัญหาสีเสื้อมาทะเลาะกันเป็นเวลานาน การแก้ปัญหาที่คงค้างสามารถใช้มาตรา 44 ทำให้สำเร็จได้ โดยหากพึ่งพรรคการเมืองจากการเลือกตั้งคงทำได้ยาก แต่ก็ยังมีปัญหาเรื่องความโปร่งใส การกระทำที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ หลายๆ เรื่องที่ประชาชนไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ ทั้งๆ ที่ควรเป็นเรื่องเปิดเผย

       “คนชอบด่าว่านักการเมืองโกงกิน คอร์รัปชัน ตอนนี้ไม่มีนักการเมืองมา 5 ปี ตัวเลขการคอร์รัปชันเราก็ไม่ได้ขยับดีขึ้น หากจะมีพรรคการเมืองน้ำดีอย่างพลังธรรมใหม่เข้าไปแม้แต่คนเดียวในสภาฯ ให้ประชาชนได้เห็นถึงนโยบายและความตั้งใจ นั่นเท่ากับว่าเราชนะแล้ว”

        ผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรคพลังธรรมใหม่ผู้นี้ ยังแสดงทัศนะต่อเรื่อง ”คนรุ่นใหม่กับบทบาท-พื้นที่ทางการเมือง” ด้วยว่า บทบาทคนรุ่นใหม่ในการเลือกตั้งรอบนี้นับว่าเป็นสีสัน ทั้งหนุ่มหล่อสาวสวย หลากวงการ คนรุ่นใหม่เรามีข้อดีคือ เราไม่ได้เข้ามาเพราะอำนาจ หรือเข้ามาเพราะต้องใช้หนี้บุญคุณใคร เราสามารถก้าวข้ามความขัดแย้งในสงครามสีเสื้อได้อย่างง่ายดายโดยไม่มีอคติต่อพรรคคู่แข่ง และหน้าที่หลักๆ ของคนรุ่นใหม่มีความสามารถในการขับเคลื่อนพรรคให้ก้าวเร็วทันโลกด้วยเทคโนโลยี ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับคนที่อายุเยอะๆ อาจจะไม่เก่งเท่า แต่ทั้งนี้คนรุ่นใหม่ก็ยังต้องการคำแนะนำจากผู้มีประสบการณ์ในการตัดสินใจในหลายๆ เรื่อง ซึ่งหากทำงานร่วมกันก็จะได้ผลงานที่ดีกว่าอย่างลงตัว

        พร้อมกันนี้ ปาล์ม-ณัฐดนัย ยังให้ข้อคิดเห็นในฐานะคนรุ่นใหม่-หน้าใหม่ทางการเมืองกับการหาเสียงในเวลานี้ว่า อยากขอให้พรรคต่างๆ แข่งขันกันด้านนโยบายที่ดีเพื่อส่วนรวม มากกว่าการสาดโคลนหรือสร้างวาทกรรมป้ายสีพรรคตรงข้าม หรือพูดเอามันส์เข้าว่าเพื่อให้มวลชนสนุกสนาน ทำลายพรรคคู่แข่ง เพราะนั่นจะทำให้ประชาชนมองนักการเมืองจากที่ความหมายคือ ผู้แทนในสภาขับเคลื่อนนโยบายพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวไกล ที่มีเกียรติกลายเป็นกลุ่มคนที่เป็นนักเลงหรือมาเฟียระดับประเทศมาสร้างความเกลียดชังให้เกิดขึ้นกับประชาชนต่อไปไม่หยุดหย่อน

       “นโยบายของพรรค พรรคพลังธรรมมีความชัดเจนเรื่องการปราบปรามทุจริต คอร์รัปชันให้เหลือ 0 เราจะมีการเพิ่มโทษกับผู้กระทำผิด คดี ป.ป.ช.ต้องจบภายใน 1 ปี ทุจริต 50 ล้านประหารชีวิต เป็นสิ่งที่เราชูธงเสมอ อีกทั้งบุคลากรของพรรคส่วนใหญ่คลุกคลีกับประชาชนอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด ทำให้เห็นถึงปัญหาของคนในทุกๆ ระดับ ตั้งแต่รากหญ้าจนระดับเจ้าสัว เรามองเห็นความเหลื่อมล้ำที่ยากจะเยียวยา คนจนก็เหยียดคนรวย คนรวยก็แทบจะเหยียบคนจนจมดิน นโยบายต่างๆ ของพรรคออกมาเพื่อประสานความเหลื่อมล้ำให้ทุกคนมีสิทธิเท่าเทียม” เขากล่าวทิ้งท้าย.

 

       "คนรุ่นใหม่เรามีข้อดีคือ เราไม่ได้เข้ามาเพราะอำนาจ หรือเข้ามาเพราะต้องใช้หนี้บุญคุณใคร เราสามารถก้าวข้ามความขัดแย้งในสงครามสีเสื้อได้อย่างง่ายดายโดยไม่มีอคติต่อพรรคคู่แข่ง อยากขอให้พรรคต่างๆ แข่งขันกันด้านนโยบายที่ดีเพื่อส่วนรวม มากกว่าการสาดโคลนหรือสร้างวาทกรรมป้ายสีพรรคตรงข้าม หรือพูดเอามันส์เข้าว่าเพื่อให้มวลชนสนุกสนาน ทำลายพรรคคู่แข่ง"

 

ข้อมูลส่วนตัว

 

ณัฐดนัย ชนิตร์วัฒน์

 

-เรียนมัธยมต้น โรงเรียนพระนารายณ์

 

-มัธยมปลาย โรงเรียนพิบูลวิทยาลัย

 

-จบปริญญาตรี วุฒิศิลปะศาสตรบัณฑิต

 

ศึกษาต่อ Commercial pilot license Texas USA.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"