ยังไม่รู้เลยว่า...เรื่องยุบ-ไม่ยุบพรรค ไทยรักษาชิน เขาจะไปถึงไหนต่อถึงไหนกันบ้างแล้ว เลยคงต้องคั่นบรรยากาศด้วยการหันไปว่ากันเรื่องดีเบต-ไม่ดีเบต น่าจะเหมาะกว่า คือเรื่องที่ไม่ว่าจะประเภท ดี หรือ ไม่ดี แต่ถ้าลองได้ เบต ตามแบบฉบับที่ได้ลอกเลียนมาจากพวกฝรั่งแล้ว ถือว่าเป็นอะไรที่เข้าท่า เข้าทาง ดูเก๋ ดูเท่ ดูเป็นประชาธิปไตย ทั้งๆ ที่แทบไม่ได้เกี่ยวอะไรกับความถูกต้อง เป็นธรรม ที่ต้องอาศัย พฤติกรรม หรือ การกระทำ นั่นแหละเป็นตัววัดตัดสิน ไม่ใช่จ๋อยๆ เจ๊าะๆ แจ๊ะ ไปได้เรื่อยๆ

                                                                  -----------------------------------------------

      แต่ถ้าหากคิดจะ ดีเบต กันจริงๆ แล้ว...คงไม่น่าจะเสียเวลาไปรบกวน บิ๊กตู่ ให้ต้องนั่งพลิกกฎหมาย ตีความ อะไรกันมากมาย เอาแค่ระดับ กุมารสนธิรัตน์ หรืออดีตรัฐมนตรี สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ในฐานะเลขาธิการพรรค  พลังประชารัฐ นั่นแหละ ก็น่าจะพอแล้ว รับรองว่าน่าจะได้  เบต กันชนิดเมื่อยลิ้น เมื่อยปาก จะเอาแบบสุภาพๆ แบบผมๆ คุณๆ หรือจะเอาขึ้นมึง ขึ้นกู ก็น่าจะลื่นๆ ไหลๆ ไปด้วยกันทั้งสิ้น ไม่เชื่อ...มึงลองไปดู ช่วงที่ผมขึ้นเวทีปราศรัยที่จังหวัดสมุทรปราการเอาเลยก็ยังได้ ช่างเป็นอะไรที่ซี้ดๆ ซ้าดๆ ไม่น้อยไปกว่าเจ๊สุดาหน่อย ชัชช่ง ชัชชาติ หรือใครที่อยากจะดีเบตกันตัวสั่น ชนิดอาจต้อง ขาสั่น เอาง่ายๆ...

                                                                   ------------------------------------------------

      คือ กุมารสนธิรัตน์ รายนี้...ต้องยอมรับว่า ออกจะมาแรง แซงโค้ง อยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะในทางการเมือง ส่วนทางการบริหาร จัดการ รัฐบาล ประเทศชาตินั้น คงเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่คงต้องไปวินิจฉัยกันเอาเอง แต่การที่ ป๋าดัน-สมคิด หรือใครก็แล้วแต่ ได้มอบหมายให้เข้ามาบริหาร จัดการพรรคการเมือง อย่างพรรค พลังประชารัฐ ในตำแหน่งระดับเลขาธิการพรรคนั้น คงต้องถือว่า พุท เดอะ ไรท์ แมน ออน เดอะ ไรท์ จ๊อบ เอามากๆ ทั้งๆ ที่โดยรูปร่าง ลักษณะหน้าตา ตลอดไปจนประวัติความเป็นมา น่าจะให้ไปยืนอยู่หน้า เขียงหมู หรือไป ขายกาแฟ น่าจะเหมาะกว่า แต่เอาไป-เอามาแล้ว...คงปฏิเสธไม่ได้ว่า รายนี้นี่แหละที่ไม่เพียงแต่จัดอยู่ในประเภท มือประสานสิบทิศ  แล้ว ยังเป็นอะไรที่เหมาะสำหรับการเมืองแบบไทยๆ เป็นอย่างยิ่ง...

                                                                 ----------------------------------------------------

      เฉพาะแค่ลีลาการให้สัมภาษณ์ ตอบโจทย์ ตอบคำถาม ของผู้สื่อข่าวยุค พี่ป๊อบ-น้องโบว์-อาจารย์ปลา หรือยุคที่ต้องยกกองทัพแห่ไปทำข่าวรักซ้อนของดารากันเป็นร้อยๆ กระทั่งนายกฯ บิ๊กตู่ เองนั่นแหละ คงต้องหมั่นศึกษา หยิบเอามาใช้เป็นแบบอย่าง แนวทาง เอาไว้ซะแต่เนิ่นๆ คือเป็นอะไรที่ พลิ้วไหว เอามากๆ สามารถเด้งเชือก ตัดเวที แฉลบออกข้าง ชนิดต้อนยังไงก็ต้อนไม่อยู่ ไม่เคยจนมุม ไม่เคยต้องแช่อยู่ภายในกับดักของคู่ต่อสู้ เจอกับแย็บซ้าย อัปเปอร์คัตขวา ก็สามารถสวมหมวกกันน็อก ก้มหัวหลบ แฉลบออกมาเต้นย็อกๆ แย็กๆ อยู่กลางเวที โดยไม่ต้องเสียเวลาไป ยกโพเดียมทุ่มหัว ใครต่อใครเอาเลยแม้แต่น้อย...

                                                                    ---------------------------------------------------

      การได้ กุมารสนธิรัตน์ มาเป็นเลขาฯ พรรค พลังประชารัฐ นั้น...จึงต้องถือว่าถูกที่ ถูกเวลา และถูกคนมิใช่น้อย โดยเฉพาะกับการจัดระยะห่าง ระยะเคียง จัดระบบสัมพันธภาพระหว่าง อดีตทหาร ผู้สนใจการเมือง กับบรรดา นักการเมืองแท้ๆ ซึ่งออกจะเป็นอะไรที่หา จุดลงตัว กันไม่ค่อยได้ง่ายๆ คือด้วยเหตุเพราะคุณลักษณะของความเป็นทหารนั้น มักจะหนักไปทาง ถือปืน-แบกปูน-ไปโบกตึก ซะจนเคย เมื่อต้องเจอกับบรรดานักการเมืองที่ล้วนแล้วแต่มีปีก มีหาง เกล็ดแตกลายงา เขี้ยวติดสปริงไฮดรอลิก สามารถยืดได้-หดได้ โอกาสที่ทหาร หรืออดีตทหารรายใดก็แล้วแต่ มีสิทธิ์ ตกม้าตาย ย่อมเป็นไปได้สูงเอามากๆ หรือเป็นมา-เป็นไปในแนวนี้มาโดยตลอด...

                                                                    ----------------------------------------------------

      แต่ด้วยขีดความสามารถในการพลิ้วไหว เด้งเชือก ตัดเวที แฉลบออกข้าง ของ กุมารสนธิรัตน์ รายนี้...อาจพอช่วยลดแรงปะทะช่วยสร้างความยืดๆ หยุ่นๆ ให้กับนายกฯ และว่าที่นายกฯ แห่งพรรคพลังประชารัฐ อย่าง บิ๊กตู่ มิใช่น้อย แม้แต่เรื่องการเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็น โฉนดที่ดิน ที่หวิดๆ จะสร้างความ เปรี้ยวเท้า ให้กับทั้งสองฝ่าย แต่ กุมารสนธิรัตน์ ท่านก็ยัง เอาอยู่ สามารถปรับระดับแรงเสียดสี เสียดทาน ไม่ให้ระเบิดเถิดเทิงมากมายเกินไปกว่านี้ หรือให้พออยู่ๆ กันไปได้ รักษา พลังดูด ให้สอดคล้องไปกับ พลังโน้มถ่วง ไม่ถึงกับแตกกระจัดกระจายกันไปก่อนกำหนดการ...

                                                                        ----------------------------------------------------

      แต่ก็นั่นแหละ...หลังจากเลือกตั้งผ่านพ้นไปแล้ว ถ้าหากพลังประชารัฐได้เข้ามาระดับเกินร้อย ไม่ต้องถึงกับสามร้อย-สี่ร้อย แบบที่ กุมารสนธิรัตน์ ท่านได้ปลุกจิต ปลุกใจ เอาไว้ก่อนล่วงหน้า อันนี้นี่แหละ...ที่จะเป็นตัววัดตัดสินว่า ฝีมือการประสานสิบทิศ ขีดความสามารถในการพลิ้วไหว แฉลบออกข้าง ของเลขาธิการพรรคประชารัฐรายนี้ อยู่ในขั้นใด ระดับใด จะสามารถหยุดยั้งการ เรียงหิน หยุดยั้ง ซีทีเอ็กซ์” ปรับสภาพโครงการ วัวล้านตัว ให้กลายเป็น ควายไม่กี่ตัว เพื่อไม่ให้ก่อให้เกิดอาการคลื่นเหียน วิงเวียน อ้วกแตก รากแตก ต่อบรรดาผู้ที่ เชียร์บิ๊กตู่ ได้ขนาดไหน เพียงใด...

                                                                         --------------------------------------------------------

      แต่ก็เอาเถอะ...เอาเป็นว่า ถ้าหากภาษิตกะเหรี่ยง อันว่าด้วย ถ้าหัวไม่ส่าย...หางก็มิอาจกระดิก ยังพอมีผลบังคับใช้ อย่างน้อยก็น่าจะยังดีกว่า หัว ประเภทที่ลงทุนสไกป์ ลงทุนสั่งการผ่านวิดีโอลิงค์ ให้ตั้งคนโน้น คนนี้ มาเป็นผู้ทำหน้าที่ จำนำข้าว งาบอะไรต่อมิอะไรไปเป็นแสนๆ ล้าน แถมโกงแล้ว...ยังไม่ยอมแบ่งกันมั่ง มีแต่ แบ่งคุก ให้ลูกน้อง ส่วนตัวเองและน้องสาวตัวเองเฉิดฉายอยู่ในปราสาทราชวัง อันนี้นี่แหละ...เลยคงหนีไม่พ้นต้อง เอาบิ๊กตู่ อย่างมิอาจปฏิเสธและหลีกเลี่ยงได้...

                                                                            -----------------------------------------------------

      ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Stephen W. Comiskey... You can delegate authority, but not responsibility.- คุณสามารถมอบอำนาจหน้าที่ให้ผู้อื่นทำแทนได้ แต่มอบความรับผิดชอบไม่ได้...

                                                                             ------------------------------------------------------