ถ้าเล่นโป๊กเกอร์...........
ทั้งเพื่อไทยและประชาธิปัตย์ "ถูกจับไก่" หมดตูดคาบ่อนแหง!
เลือกตั้ง ๒๔ มีนา แข่งกันร่วม ๘๐ พรรค
มี ๖๘ คน เข้าชิง "เก้าอี้นายกฯ"
ใน ๖๘ คู่ชิงนั้น.....
"อภิสิทธิ์" ประชาธิปัตย์ "สุดารัตน์-ชัชชาติ-ชัยเกษม" เพื่อไทย อยู่แถวหน้า ในฐานะ
"เต็งหนึ่ง" ผู้จะได้นั่งเก้าอี้นั้น!
แต่พลันมีพรรค "พลังประชารัฐ" เป็นงาแซงในสนาม และเสนอ "พลเอกประยุทธ์" เข้าชิงด้วย
สถานการณ์เปลี่ยนทันที!
ชาวบ้าน ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้ง ไม่เปลี่ยน
กว่าครึ่ง จะมีอาการ "อมภูมิ-คุมเชิง" แบบนี้
จนวันสุดท้ายนั่นแหละ ถึงจะรู้ จากการได้เห็น ลูก-หลาน จูงพ่อแก่-แม่เฒ่า "พลังเงียบ" ไปเข้าคูหา ว่าจะมากน้อยขนาดไหน?
แต่ "เพื่อไทย-ประชาธิปัตย์" เปลี่ยน......
เปลี่ยนแค่ ๒ พรรค เห็นชัด
จากอดีต "ประชาธิปัตย์-เพื่อไทย" คู่กัด จะต้องหัวแม่เท้าชนแม่เท้า ประจันหน้า ตาถลนใส่กัน มีดคนละเล่ม
แล้วจ้วงกัน!
แต่วันนี้ ประชาธิปัตย์-เพื่อไทย เปลี่ยนประจันหน้าเป็นจูบสามัคคีได้เหนือบรรยาย
จากที่ต้องตายกันไปข้าง เปลี่ยนเป็น "ผนึกกำลัง" เฉพาะกิจ เพื่อกลบฝัง "ศัตรูร่วม" ในทางแคบ
คือ "พลเอกประยุทธ์"!
เวียนออกมายืนหน้าค่าย ตะโกนท้าบ้าง ยั่วโทสะบ้าง ให้ "พลเอกประยุทธ์" ออกมาขึ้นเวทีประลองฝีปาก ที่เรียกดีเบต
ประเด็นที่ต้องมอง......
ไม่ใช่ตรงพลเอกประยุทธ์จะพริ้มหลับ...อมิตาพุทธ หรือโกรธจนหนวดกระพือ แล้วคว้าง้าว-คว้าทวน ถลันแล่นออกไปตามท้า
หากแต่เป็นกิริยาการประชาธิปัตย์-เพื่อไทยนั่นแหละ บ่งอาการ "ฟ้องตัวเอง"
ยอมรับ ในความ "เป็นรอง"!
แทนที่พรรคใหม่ "พลังประชารัฐ" นักการเมืองมือใหม่ "พลเอกประยุทธ์" จะเป็นฝ่ายมาตะกายท้าชิง
กลายเป็นว่า "พรรคเก่า" เจ้ายุทธจักรเดิม "เพื่อไทย-ประชาธิปัตย์"
เป็นฝ่ายตะกายไป "ท้าชิง"!
นี่...รูปมวยและลีลา "๒ รุม ๑" ขณะนี้ มันบอกชัดกว่าคำอธิบายใดๆ ว่าเพื่อไทย-ประชาธิปัตย์ "จิตระย่อ" ให้แก่พลเอกประยุทธ์เสียแล้ว
ปากไม่ยก.......
แต่การกระทำ เท่ากับยก "พลเอกประยุทธ์" เป็น "เจ้ายุทธ์เสียมล้อ" ตั้งแต่การประลองยังไม่เริ่ม!
คนเป็น "เจ้ายุทธจักร" ไม่ปรากฏว่าต้องไปท้ารบใคร
มีแต่คนอยากชิง เป็นฝ่ายไปท้ารบ!
อภิสิทธิ์-สุดารัตน์ กระทั่งจาตุรนต์ คนให้น้ำหนักตัวเอง ก็เช่นนั้น แม้ยึดอดีตหวานเป็นฝันเฝื่อนในปัจจุบัน
กระนั้น ลึกๆ ในใจ หมดหวัง เหลือแต่อาลัย ในเก้าอี้เจ้ายุทธจักรเสียมล้อ
เพราะรู้ตัว ลดชั้นเป็น "ฝ่ายชิง"
เก้าอี้จอมยุทธ์ต้องอยู่ใต้ก้นพลเอกประยุทธ์เป็นแม่นมั่น พลเอกประยุทธ์กลายเป็น "ผู้ถูกชิง" โดยปริยาย
ด้วยจิตสยบ แต่ปากแข็งนั่นแหละ........
จึงเห็น ในภาวะมีผู้เข้าชิง นอกจากพลเอกประยุทธ์อีกตั้ง ๖๖ คน
แต่ทั้ง ๒ พรรค ไม่ให้น้ำหนัก ที่จะยกเป็นคู่แข่ง แล้วท้าดีเบต เหมือนที่ท้าพลเอกประยุทธ์ยิกๆ
อ่านทาง-อ่านหมากพรรคที่ต้องตกอยู่ใต้เงาประยุทธ์ทั้งสอง ในทางจิตวิทยา มันชัด ชนิดหมดประเด็นถามแล้วว่า
หลังเลือกตั้ง ๒๔ มีนา ใครงามเลิศในปฐพี?
ไม่ใช่มาร์ค ไม่ใช่แม่มด ไม่ใช่สโนไวต์
คำตอบ คือ........
"ตู่" น่ะซี่ งามเลิศที่สุด!
ใน ๖๘ ผู้เข้าชิงนายกฯ "หลายท่าน" ฝีไม้ลายมือในฐานะเจ้าสำนัก ยากที่ใครจะลบหลู่ได้ และพร้อมขึ้นเวทีฟีเจอริง
นอกจาก "ประชาธิปัตย์-เพื่อไทย" แล้ว ที่พร้อมประลองฝีปากในเวทีดีเบต ก็เช่น........
นายอนุทิน ชาญวีรกูล เจ้าสำนักภูมิใจไทย
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เจ้าสำนักอนาคตใหม่
นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ เจ้าสำนักเศรษฐกิจใหม่
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส เจ้าสำนักเสรีรวมไทย
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ที่ปรึกษาสำนักชาติพัฒนา
น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา เจ้าสำนักชาติไทยพัฒนา
นายชัชวาลย์ คงอุดม เจ้าสำนักพลังท้องถิ่นไท
พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา เจ้าสำนักพลังไทยรักไทย
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา เจ้าสำนักประชาชาติ
เนี่ย...ยกพอเป็นตัวอย่าง
เห็นชื่อ-เห็นหน้า หลายท่าน เคยฝากฝีมือไว้ในยุทธจักรแล้วด้วยซ้ำ
ดูแล้ว ไม่ห่างชั้นที่ "ประชาธิปัตย์-เพื่อไทย" จะมองว่า "ไม่อยู่ในสายตา" ชนิดไม่สนจะดีเบต
จ้องแต่จะฟีเจอริงกับ "พลเอกประยุทธ์" เพียงคนเดียว!
กับบางท่าน-บางสำนัก จะว่าไปแล้ว ฝีไม้ลายมือ "เหนือกว่า" ตัวแทนประชาธิปัตย์-เพื่อไทยรุ่นนี้ด้วยซ้ำ
อย่างคุณสุวัจน์, คุณกัญจนา, พล.อ.ธรรมรักษ์, คุณวันมูหะมัดนอร์ มะทา
คุณอภิสิทธิ์ คุณหญิงสุดารัตน์ "ชั่งฝีปาก-ฝีมือ" กับเจ้าสำนักเหล่านั้นดูซิ
กินเขาลง หรือจะถูกเขากิน?
คงเพราะเห็นว่า "ชั้นเหนือกว่า" ในตลาดเลือกตั้ง จึงไม่ให้ราคาที่จะดีเบตกับเขาเหล่านั้น
ขณะเดียวกัน รู้ตัว "ด้อยกว่า" พลเอกประยุทธ์ ในตลาดเลือกตั้ง จึงท้าดีเบต หวังใช้ความช่ำชองพลิกแพลงกระบวนท่า "เสริมบารมี" ให้ตัวเองได้บ้าง
เห็นพลเอกประยุทธ์บอกนักข่าวเมื่อวาน (๒๖ ก.พ.๖๒)
"ยังไม่เห็นความจำเป็นต้องไปร่วม.......
ไม่ใช่กลัวหรือไม่กลัว
แต่เวทีดีเบตวันนี้ โจมตีกันเป็นส่วนใหญ่ สาระไม่ค่อยมี เถียงกันตอนต้น ตอนปลายมาพูดถึงนโยบายก็ไม่มีใครสนใจแล้ว
เพราะไปอินกับเรื่องการว่าคนโน้น-โจมตีคนนี้ นี่ไม่ใช่การดีเบต ต้องไปดูของต่างประเทศว่า เขาดีเบตกันอย่างไร
ผมคงไม่ไปหรอก.....
ไม่ว่าใครจะมากระตุ้นอย่างไร ผมก็ไม่ได้โกรธและก็ไม่ได้กลัวด้วย
ความสำคัญคือ วันนี้ผมทำงานอยู่ มันก็เสียเวลาที่ผมจะต้องประดิดประดอยคำพูดให้มันออกมา ปวดหัวน่ะ แค่ทำงานในระบบมันก็แย่พออยู่แล้ว”
ฟัง ก็เข้าใจได้ มันเป็นเช่นนั้น แต่ก็นี่แหละ การเมืองไทย กับรสนิยมสังคม ที่........
ต้องขูดตัวเลขต้นไม้ เห็นน้ำโคลนเป็นน้ำวิเศษ นักข่าวเป็นร้อยรุมทำข่าวนักร้องซ้อนรัก
จะไป-ไม่ไปดีเบต ไม่เกี่ยวกับผิด-ถูก ขึ้นอยู่กับความพอใจของแต่ละบุคคล ใครเห็นเป็นประโยชน์พรรค ก็ไป เห็นว่าไม่จำเป็น ก็ไม่ต้องไป มันก็เท่านั้น
แต่อยากให้เข้าใจ ดีเบต กับโต้วาที ลีลาคล้ายกัน แต่เนื้อหา คนละเรื่อง
โต้วาที เหมือนเอาไม้ปั่นหู มัน ซี้ดซ้าด สะใจ เสร็จแล้ว โยนทิ้ง
แต่ดีเบต ที่พูดไป นอกจากมัน-ไม่มันแล้ว คือเงื่อนไข คือเนื้อหา คือสัญญา คือข้อผูกมัดทางความรับผิดชอบ ต้องทำให้ปรากฏทางปฏิบัติ
พลเอกประยุทธ์อาจต้องการให้เนื้องาน ๕ ปี แทนคำดีเบตก็ได้
และ ๔ ปีข้างหน้า ถ้าได้เป็นนายกฯ อยู่
แผนพัฒนาตามยุทธศาสตร์ และงานที่ค้างมากมายดังเห็น จะสานให้เสร็จแน่
ปี ๖๕-๖๖ กับประเทศไทยที่เปลี่ยนไป นั่นคือดีเบตที่ละไว้โดยไม่ไป ในความหมายนี้
แต่บอกตรงๆ หลับตาเห็น ว่าจะเป็นอย่างไร ถ้าพลเอกประยุทธ์ด้วยเนื้อหา ไปดีเบตกับลีลา "อภิสิทธิ์-สุดารัตน์"
จะว่าไป ไม่น่าสนใจเท่า ได้เห็น-ได้ฟัง
"อภิสิทธิ์-สุดารัตน์" ดีเบตกับ คุณมิ่งขวัญ คุณธนาธร คุณสุวัจน์ และ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ผู้เป็นคู่ชิงเก้าอี้นายกฯ ด้วย!
อันนี้ ถูกคอตลาดแน่
โดยเฉพาะคุณมิ่งขวัญ เจ้าสำนักเศรษฐกิจใหม่ อยากเห็น คนไหนรับฝ่ามือชนิด "ไร้กระบวนท่าคือกระบวนท่า" ของคุณมิ่งขวัญได้บ้าง?
เอาละมัง.........
วันนี้ ๒๗ กุมภา ปูเสื่อ-ปูสาด รอฟังศาลรัฐธรรมนูญเรื่อง "ยุบ-ไม่ยุบ" พรรคไทยรักษาชาติดีกว่า
เพราะคนเร่ร่อนครางว่า พลาดกระบวนท่าเดียวแท้ๆ
แพ้ราบทั้งกระดาน!
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |