ระทึก! ศาล รธน.พิจารณาคดียุบพรรค "ทษช." 27 ก.พ.นี้ "กกต." ส่งคำชี้แจงเพิ่มเติม ยืนยันมติชงยุบพรรคยึดมีหลักฐานอันควรเชื่อตาม ม.92 พ.ร.ป.พรรคการเมือง ไม่จำเป็นต้องตั้ง คกก.ไต่สวน "ณัฐวุฒิ" มั่นใจฝ่ายกฎหมายต่อสู้คดี ขอหยุดหาเสียง 1 วันรอฟังศาลก่อนลุยปราศรัยใหญ่ 1 มี.ค. "อิทธิพร" ปลุกพนักงานสืบสวน กกต.อย่ากลัวอิทธิพล "จรุงวิทย์" สั่งกางบัญชีหัวคะแนนจับตาแจกเงิน "ไพบูลย์" โล่งป้ายหาเสียง "พระพุทธเจ้า" ไม่ผิด
เมื่อวันที่ 26 ก.พ. พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีการศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาคดียุบพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ในวันที่ 27 ก.พ.ว่า ยังไม่ทราบว่าศาลรัฐธรรมนูญจะสั่งให้มีการไต่สวนหรือไม่ต้องรอฟังในวันที่ 27 ก.พ. แต่เบื้องต้น กกต.มีมติให้สำนักงาน กกต.ประสานไปยังอัยการสูงสุด เพื่อให้ส่งอัยการมาช่วยดำเนินการการพิจารณาของศาล ตามมาตรา 93 วรรคสาม ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์รับคำร้องของ กกต.ให้ยุบพรรคไทยรักษาชาติ จากกรณีเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีเข้าข่ายผิดพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 92 (2) กระทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือไม่ โดยศาลนัดพิจารณาคดีในวันพุธที่ 27 ก.พ.2562 เวลา 13.30 น.
มีรายงานว่า ในการประชุม กกต. ได้มีการพิจารณาจัดทำคำคัดค้าน คำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาของพรรคไทยรักษาชาติ กรณีก่อนหน้านี้ กกต.ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรค ทษช. โดยการจัดทำคำคัดค้านและคำชี้แจงของ กกต.ดังกล่าว เนื่องจากหลังพรรค ทษช.ได้ยื่นคำชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 20 ก.พ. และทางศาลรัฐธรรมนูญได้จัดส่งคำชี้แจงของพรรค ทษช.มาให้ กกต.เพื่อพิจารณาแก้ข้อกล่าวหา ซึ่ง กกต.ก็ได้จัดทำคำคัดค้าน คำชี้แจงยืนยันว่าการมีมติ กกต.ยื่นคำร้องยุบพรรค ทษช. เป็นกรณีมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าตามที่มาตรา 92 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองกำหนด กกต.จึงไม่ต้องมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาไต่สวน โดยขณะนี้ได้ส่งคำคัดค้านและคำชี้แจงดังกล่าวไปยังศาลรัฐธรรมนูญแล้ว
มีรายงานด้วยว่า ในส่วนพรรค ทษช. หลังยื่นคำชี้แจงไปเมื่อวันที่ 20 ก.พ.แล้ว พรรคยังไม่ได้รับหนังสือแจ้งจากศาลรัฐธรรมนูญว่าจะให้พยานคนใดที่พรรคขอให้ศาลนำสืบเข้าชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ดังนั้นในการพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญวันที่ 27 ก.พ. จะไม่มีกรรมการบริหารพรรคหรือสมาชิกรายใดเดินทางไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการพิจารณาคดีดังกล่าวของที่ประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จะเป็นการพิจารณาในรายละเอียดของคำร้องของ กกต. คำชี้แจงพยานหลักฐานต่างๆ ที่พรรค ทษช.ได้ยื่นคำคัดค้านแก้ข้อกล่าวหาพรรค ทษช.ของ กกต. จากนั้นศาลจึงจะมีมติว่าจะดำเนินขั้นตอนการพิจารณาอย่างไร
ด้านนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประธานรณรงค์หาเสียงพรรค ทษช. กล่าวว่า กรณี กกต.ยื่นยุบพรรค ทษช. ตอนนี้เข้าใจว่าทางฝ่ายกฎหมายน่าจะดำเนินการทุกอย่างภายใต้กรอบกฎหมาย ส่วนในวันที่ 27 ก.พ.เรายังไม่ทราบขั้นตอนของศาลรัฐธรรมนูญ แต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่าพวกเราที่เป็นสมาชิกพรรคก็จะติดตามเรื่องนี้เช่นกัน ไม่มีการลงพื้นที่ แต่หลังจากนั้นเราก็จะเตรียมการดำเนินการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งเป็นภารกิจของพวกเราต่อไป
"โปรแกรมการลงพื้นที่ปราศรัยหาเสียงของพรรคมีอย่างต่อเนื่อง และภารกิจการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งไม่เกี่ยวข้องกับคดียุบพรรค ซึ่งในวันที่ 1 มี.ค. จะมีการปราศรัยใหญ่ในเขตพื้นที่ กทม. ที่ลานคนเมือง พวกผมดูแลผู้สมัครซึ่งดำเนินการตามกฎหมายอย่างถูกต้อง และมีสิทธิครบถ้วนเหมือนกับผู้สมัครจากพรรคอื่นๆ ไม่มีความเกี่ยวข้องกับคดียุบพรรค เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ชัดเจน อยากชี้แจงให้เข้าใจในส่วนนี้" นายณัฐวุฒิกล่าว
ที่โรงแรมเซ็นทรา ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เป็นประธานเปิดการประชุมอบรมเจ้าพนักงานสืบสวนสอบสวน หรือไต่สวน หรือการดำเนินคดีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เพื่อซักซ้อมทำความเข้าใจให้เจ้าพนักงานสืบสวนสอบสวนมีความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปในรูปแบบและมาตรฐานเดียวกัน
นายอิทธิพรกล่าวว่า การเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งนี้เป็นครั้งแรกหลังรัฐธรรมนูญ 60 มีผลบังคับใช้ กกต.จึงต้องเตรียมความพร้อมให้เจ้าพนักงานเข้าใจในอำนาจหน้าที่ เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรม มีคุณภาพ และเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
"ขอให้เจ้าพนักงานยึดมั่นในความเป็นกลาง กล้าหาญ ไม่หวั่นไหวต่อแรงกดดันหรืออิทธิพลใดๆ แม้จะเจออิทธิพล แต่ขอให้เชื่อมั่นในตัวผม และเชื่อมั่นในเจตนารมณ์กฎหมาย และยึดหลักนิติธรรม ความเที่ยงธรรม ความชอบธรรม เป็นหลักในการทำงาน เพื่อให้ทุกท่านทำงานอย่างมั่นใจ เป็นที่รัก และนับถือจากทุกฝ่ายและทุกคน" ประธาน กกต.กล่าว
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. กล่าวเสริมว่า ในอดีตคดีเกี่ยวกับการเลือกตั้ง 200 สำนวน ศาลสั่งยกคำร้องไป 180 เรื่อง แต่การสืบสวนสอบสวนและดำเนินคดีการเลือกตั้งครั้งนี้มีออปชั่นเพิ่มขึ้น มีทั้งกฎหมายคุ้มครองพยาน และสินบนรางวัลจูงใจให้ประชาชนนำเงินซื้อเสียง 1,000-2,000 บาท มาแลกเงินแสน ตลอดจนอำนาจในการส่งสำนวนไต่สวนไปให้อัยการดำเนินคดีอาญาได้เลย โดยไม่ต้องไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ เท่ากับว่าคดีจะเสร็จสิ้นภายใน 3-5 เดือน
พ.ต.อ.จรุงวิทย์กล่าวว่า นอกจากนี้ กฎหมายยังให้ถือสำนวนไต่สวนของ กกต.เป็นหลัก ในการแจกใบเหลือง-ใบแดงของศาล หรือให้ศาลสั่งจ่ายค่าเลือกตั้งโดยไม่ต้องย้อนไปฟ้องแพ่ง หากผู้ชนะการเลือกตั้งถูกศาลตัดสินว่าทุจริตและสั่งให้เลือกตั้งใหม่ภายในเวลา 6 เดือน จะตกจากเก้าอี้ ส.ส. กลายเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษา ต้องชดใช้ค่าใช้จ่ายเลือกตั้ง 10 ล้านบาท
"ขณะนี้เรื่องร้องเรียนส่วนใหญ่ที่เข้ามายัง กกต. เป็นเรื่องการทำลายป้าย ซึ่งความผิดฐานทำลายทรัพย์ แต่มีแนวโน้มว่าการใส่ร้ายป้ายสีในโซเชียลมีเดียเริ่มแซงการหาเสียงรูปแบบเก่า และยังตรวจสอบไม่พบการโจมตีหรือป้ายสีกันในเวทีปราศรัย แต่ไปปรากฏในโซเชียลมีเดียแทน คาดว่าหลังการเลือกตั้งจะมีจำนวนคนที่ต้องถูกลากจากหน้าจอหรืออีพอร์ต ส่งเข้าเรือนจำเป็นจำนวนมาก เพราะการใส่ร้ายป้ายสีมีโทษอาญา จำคุกหลายปี" พ.ต.อ.จรุงวิทย์กล่าว
เลขาฯ กกต.กล่าวว่า เจ้าพนักงานสืบสวน สอนสวน และไต่สวน ต้องทำงานด้วยความรวดเร็วฉับไว ลงโทษได้ทันทีไม่มีคดีค้าง เพราะหลังเลือกตั้ง ส.ส.จะมีการเลือกตั้งท้องถิ่นตามมา พูดได้ว่าปี 2562 เป็นปีแห่งการเลือกตั้ง กลุ่มภารกิจสอบสวนต้องทำงานควบคู่ไปกับกลุ่มบริหารจัดการเลือกตั้ง การสอบพยานต้องทำเร็ว แต่ต้องไม่ทิ้งหลักการสอบสวนให้ปราศจากข้อสงสัย
"สรุปคือต้องเร็วและละเอียด ขอให้เน้นไปที่พยานเอกสาร บัญชีหัวคะแนน หรือมือแจกเงินประจำตำบล,หมู่บ้าน หมายหัวไว้ได้ล่วงหน้า เราจะไม่ปล่อยให้คนทำผิดกฎหมายเลือกตั้งเข้าไปนั่งในสภา" เลขาฯ กกต.กล่าว
ต่อมา พ.ต.อ.จรุงวิทย์ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมกรณีกระแสข่าวพรรคเพื่อชาติ (พ.พ.ช.) มีการซื้อลำดับ ส.ส.บัญชีรายชื่อว่า ยังไม่ทราบรายละเอียด แต่เรื่องไพรมารีโหวตการคัดสรรผู้สมัครเป็นเรื่องของพรรคการเมือง ซึ่งต้องดูข้อบังคับพรรคเป็นอย่างไร
ถามว่า ที่มีการระบุนายจตุพร พรหมพันธุ์ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อชาติ เข้าไปเกี่ยวข้องในการจัดลำดับส.ส.ด้วย เลขาฯ กกต.กล่าวว่า ยังไม่ทราบในรายละเอียด ขณะนี้พูดได้เฉพาะข้อกฎหมายเท่านั้น และการตรวจสอบจะดูว่ามีคนยืนยันกับสิ่งที่เกิดขึ้นว่าจริงหรือไม่ อย่างเรื่องการเก็บบัตรประชาชนเราก็ตรวจสอบอยู่ดูว่าประเด็นอะไรที่เป็นหน้าที่ กกต.เข้าไปเกี่ยวข้อง ขณะนี้มีเรื่องร้องเรียนเพียง 10 เรื่อง แต่เรื่องกกต.ตรวจสอบเองมี 30 เรื่อง
เลขาฯ กกต.กล่าวว่า การร้องขอให้พิจารณายุบ 12 พรรคการเมืองที่มีการแก้ไขข้อมูลผู้สมัครในระบบฐานข้อมูลสมาชิกพรรคว่า อยู่ระหว่างการตรวจสอบของสำนักงาน ส่วนที่พรรคอ้างว่าระบบฐานข้อมูลของ กกต.ไม่เสถียรนั้น ยืนยันระบบ กกต.เสถียร และการกรอกข้อมูลสมาชิกพรรค กกต.ไม่ได้เป็นผู้กรอก แต่เป็นพรรคการเมืองซึ่งเจ้าหน้าที่พรรคจะต้องได้รหัสในการเข้าไปกรอกในระบบ เรื่องการแก้ไขระยะเวลาเป็นประเด็นข้อกฎหมายต้องไปพิจารณากัน
พ.ต.อ.จรุงวิทย์กล่าวว่า ขณะนี้สำนักงาน กกต.ได้จัดส่งบัตรเลือกตั้งล่วงหน้านอกราชอาณาจักรไปยังสถานทูตและสถานกงสุลที่มีผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิ์ไปหมดแล้ว ซึ่งการเตรียมการเลือกตั้งล่วงหน้าวันที่ 17 มี.ค.นี้ ได้เตรียมพร้อมทั้ง 385 หน่วยเลือกตั้งล่วงหน้า มีการประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ การอำนวยความสะดวกหน้าหน่วยเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นการจัดการจราจร การรักษาความสงบเรียบร้อย
วันเดียวกัน เลขาธิการ กกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง มีหนังสือแจ้งเรื่องการตรวจสอบกรณีนายไพบูลย์ นิติตะวัน หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป ติดป้ายหาเสียงระบุคำว่า “พระพุทธเจ้า” ว่าไม่เป็นการขัดต่อ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 หรือระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 แต่อย่างใด.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |