การมีเพื่อนถือเป็นลาภอันประเสริฐอย่างหนึ่ง ยิ่งมีเพื่อนหลายๆ กลุ่ม ก็ยิ่งทำให้เวลาหลังเกษียณมีความหลากหลาย เพิ่มรสชาติของชีวิต..จริงไหมคะ
    สัปดาห์นี้ไปกับเพื่อนชั้นประถม อีกสัปดาห์ไปกับเพื่อนชั้นมัธยม ตามด้วยเพื่อนมหา'ลัย และเพื่อนที่เคยใช้ชีวิตทำงานมาด้วยกัน  ก็เรียกว่าเกือบมีกิจกรรมแทบทุกสัปดาห์แล้ว แค่เวียนหมุนเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ช่วยให้มีการติดต่อสื่อสาร ซึ่งถือเป็น "ยาวิเศษ" ป้องกันโรคสมองเสื่อมหรืออัลไซเมอร์ได้อย่างดีเลย
    แต่ขึ้นชื่อว่าเพื่อนในวัยเดียวกัน ก็คงไม่พ้นต้องแก่ เจ็บและตาย ไปตามธรรมชาติของชีวิต เราจึงมักได้ยินได้เห็นมุกแซวกันเล่นๆ ว่า มีตติ้งกันปีนี้มี 15 คน ไม่รู้ปีหน้าจะเหลือกี่คน และเราจะได้ไปอีกไหม 
    ค่ะ มองเป็นเรื่องตลก ขบขัน มันก็เฮฮาได้นะจ๊ะ อย่าไปเห็นเป็นเรื่องเศร้าพลอยให้ซึมและเบื่อชีวิตไปล่ะ เพราะถ้าคนมีอายุแสดงออกถึงอาการเบื่อหน่าย ก็จะส่งผลให้คนในครอบครัวไม่สบายใจด้วย..จริงๆ นะ
    ถ้าใครอยากมีเพื่อนอยู่กับเราตลอดไปล่ะก็ ลองมองหาสัตว์เลี้ยงมาเป็นเพื่อนก็ได้นี่คะ รับรองว่าเขาจะไม่ห่างไกลเราไปไหนเลย ถ้าเราใส่ใจกับเขา 
    เคยมีรายงานชิ้นหนึ่งระบุว่า ด้วยประโยชน์ของสัตว์เลี้ยงที่มีต่อสุขภาพทางกาย ใจ และสังคมของผู้สูงวัยทั่วโลก โดยงานวิจัยชี้ว่า “การมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และสัตว์เป็นสิ่งที่ทรงพลัง สัตว์สามารถให้ความรู้ สร้างแรงบันดาลใจ และพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คนทั่วโลกได้” 
    การได้ดูคลิปหรืออ่านเรื่องราวต่างๆ ว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าของหมาที่ต้องล้มป่วยและนอนโรงพยาบาลกับเจ้าสุนัขผู้ภักดี นับเป็นสิ่งพิสูจน์ทราบอยู่แล้วว่า ความรักอันไม่มีข้อแม้ของสัตว์เลี้ยงสี่ขานั้น จะช่วยเยียวยาความเหงาของคนผู้สูงวัยอย่างไร 
    ใครที่ยังละล้าละลัง ไม่รู้จะจัดการอย่างไรกับชีวิตบั้นปลาย ก็ลองดูวิธีนี้นะคะ ถือเป็นการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์อีกทางหนึ่ง เพราะคนเราเมื่อไม่ว่าง จิตก็ไม่คิดฟุ้งซ่าน หวนหาอดีตจนกลายเป็นคนไม่มีความสุขกับปัจจุบัน
    แต่ใครที่ไม่ชอบเลี้ยงหมาเลี้ยงแมว เพราะคิดว่าต้องดูแลให้ความเอาใจใส่อย่างจริงจัง ขณะที่ตัวเองวางแผนว่าจะเที่ยวให้หนำใจ ก็ไม่ต้องเลือกเส้นทางนี้หรอกค่ะ สำคัญที่สุดคือ การทำให้สุขภาพจิตของตัวเองแข็งแรง ด้วยรูปแบบไหนก็ตาม แล้วสุขภาพร่างกายก็จะแข็งแกร่งตามมา เป็นผู้สูงวัยที่มีคุณภาพ ไม่เป็นภาระกับลูกหลานนะคะ.
 
                                        "ป้าเอง"