26 ก.พ. 2562 นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ธนาคารกรุงไทย (KTB) เปิดเผยถึงกลยุทธ์การดำเนินงานในปี 2562 ว่า จะมุ่งเน้นการเติบโตของกลุ่มสินเชื่อรายย่อยเป็นหลัก โดยปีนี้ตั้งเป้าหมายสินเชื่อในกลุ่มนี้เติบโต 6-7% ผ่านการพัฒนาบริการต่าง ๆ ในด้านดิจิทัล หรือการให้บริการผ่านโมบายแอปพลิเคชัน “Krungthai NEXT” ซึ่งจะช่วยตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า และตอบโจทย์การนำเสนอผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของธนาคารได้เป็นอย่างดี รวมถึงจะนำบริการดิจิทัล เลนดิ้ง การขอสินเชื่อออนไลน์ เข้ามาใช้ด้วย

นอกจากนี้ ธนาคารยังเน้นการเติบโตในกลุ่มสินเชื่อบ้าน แต่ต้องเป็นการเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่เร่งการเติบโตจนมากเกินไป ซึ่งเป็นผลมาจากเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัย (LTV) ใหม่ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่จะมีผลบังคับใช้วันที่ 1 เม.ย. 2562 จะมีผลต่อการปล่อยสินเชื่อดังกล่าวบ้าง

“สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อม เราไม่ได้เร่ง เพราะถ้าเร่งมากไปจะส่งผลกระทบต่อส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ของธนาคาร ขณะที่ธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ และสินเชื่อมอเตอร์ไซด์ที่ปัจจุบันมีมาร์จิ้นดีนั้น ธนาคารมีแผนการให้บริการในส่วนดังกล่าวในช่วงไตรมาส 2/2562” นายผยง กล่าว

ทั้งนี้ ธนาคารได้ตั้งงบลงทุนด้านไอที ในช่วง 5 ปี (2562-2566) อยู่ที่ 1.9 หมื่นล้านบาท โดยในปีนี้จะใช้เงินลงทุนสูงสุดที่ 1.2 หมื่นล้านบาท ส่วนที่เหลือจะทยอยใช้ตามแผน โดยการลงทุนดังกล่าวจะเป็นการสร้างแพลตฟอร์มที่จะเป็นตัวหลักในการส่งต่อบริการให้แก่ลูกค้า พร้อมทั้งมีพันธมิตรเข้ามาร่วมต่อยอดบริการต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ผ่านช่องทางดิจิทัล ซึ่งจะช่วยให้ต้นทุนของธนาคารลดลง หลังจากที่รายได้ค่าธรรมเนียมจากการโอนเงินและจ่ายบิลหายไป โดยมีการประเมินว่ารายได้จากค่าธรรมเนียมที่หายไปทุก ๆ 1 ล้านบาท ธนาคารจะต้องลดต้นทุนลง 4-5 ล้านบาท เพื่อให้ผลการดำเนินงานของธนาคารยังเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นายผยง กล่าวอีกว่า ธนาคารยืนยันว่ายังไม่มีแผนที่จะปลดพนักงาน แต่จะปล่อยให้เป็นไปตามกลไกปกติ เช่น เกษียณตามอายุงานปกติ หรือก่อนอายุงาน หรือลาออกตามปกติ ส่วนในระยะต่อไปช่วง 2-3 ปี มองว่าจำนวนสาขาที่เหมาะสม ควรลดลงมาอยู่ที่ 1 พันสาขา จากปัจจุบัน 1.1 พันสาขา และพนักงานควรอยู่ที่ 2.1 หมื่นคน ลดลงจากปัจจุบันอยู่ที่ 2.2 หมื่นคน

อย่างไรก็ตาม ในปี 2562 ธนาคารตั้งเป้าหมายสินเชื่อรวมเติบโต 5% ภายใต้สมมุติฐานคาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจไทยในปี 2562 ขยายตัวได้ 4.1% ส่วนรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย ตั้งเป้าหมายเติบโต 2.5% ด้านหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ตั้งเป้าหมายให้ลดลงจากสิ้นปีก่อนประมาณ 1 แสนล้านบาท และคาดว่าจะตั้งสำรองใกล้เคียงกับปีก่อน เพื่อรักษาความแข็งแกร่งและความมีเสถียรภาพของธนาคาร ซึ่งอัตราส่วนการตั้งสำรองต่อหนี้สงสัยจะสูญ (Coverage ratio) ในระดับ 125-128% โดยธนาคารจะพยายามรักษากำไรสุทธิให้อยู่ในระดับที่ใกล้เคียงหรือมากกว่าปีก่อน