ชะลอคดีการเมือง ช่วงก่อนเลือกตั้ง หวั่นเสียเปรียบกัน


เพิ่มเพื่อน    


    ประธาน ป.ป.ช.ตัดพ้อ ปราบโกงเป็นวาระระดับชาติแต่ให้งบแค่ 3 พันล้าน คิดเป็น 0.1%  ของ พ.ร.บ.งบประมาณ เผยชะลอคดีการเมืองก่อนเลือกตั้ง หวั่นอาจเกิดความได้เปรียบเสียเปรียบกัน  ยันหลังเลือกตั้งทำแน่ที่ผ่านมาใกล้เสร็จแล้ว  
    เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นประธานเปิดงานสัมมนาระหว่างคณะกรรมการ ป.ป.ช.และผู้บริหารหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ เพื่อยกระดับธรรมาภิบาลในการบริหารรัฐวิสาหกิจ โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า ปัจจุบันมีผู้ประกาศตัวเสนอเป็นตัวแทนประชาชนในการทำงานนิติบัญญัติและบริหารประเทศ ดังนั้นต้องแสดงเจตจำนงทางการเมืองเรื่องการป้องกันการทุจริต ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ย่อยที่ 2 ของยุทธศาสตร์ป้องกันและปราบปรามการทุจริตระยะที่ 3
    พล.ต.อ.วัชรพลกล่าวว่า ปัจจุบันคณะกรรมการ ป.ป.ช.ดำเนินการกำกับติดตามมาตรฐานทางจริยธรรมของนักการเมืองและเจ้าหน้าที่รัฐทุกระดับ อย่างไรก็ดีงบประมาณที่ใช้ในการแก้ไขปัญหาการทุจริตต้องมีการปรับปรุงพัฒนา ยกตัวอย่างรัฐวิสาหกิจทั้งหมดมีทรัพย์สินมากกว่า 12 ล้านล้านบาท 
    "ขณะที่ พ.ร.บ.งบประมาณ 2562 มีงบ 3 ล้านล้านบาท แต่งบที่ใช้ในการแก้ไขปัญหาการทุจริตตกปีละ 3 พันล้านบาท หรือคิดเป็น 0.1% ของ พ.ร.บ.งบประมาณเพื่อนำมาแก้ไขปัญหาการทุจริต ทั้งที่บอกว่าเป็นวาระแห่งชาติ เงิน 3 พันล้านบาทเป็นเงินเดือนของหน่วยงานสำคัญในการปราบปรามการทุจริต เช่น ป.ป.ช., สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ดังนั้นต้องอาศัยเครือข่ายประชาชนที่อยู่ในภาคเอกชนให้ความร่วมมือด้วย" ประธาน ป.ป.ช.กล่าว
    พล.ต.อ.วัชรพลให้สัมภาษณ์ถึงกรณีคณะกรรมการ ป.ป.ช.ทำหนังสือเสนอหลักเกณฑ์ป้องกันการทุจริตเชิงนโยบายให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไปดำเนินการตรวจสอบนโยบายของแต่ละพรรคการเมืองว่า หลังจากนี้ กกต.ต้องไปดูหลักเกณฑ์ดังกล่าว รวมทั้งส่งหลักเกณฑ์ให้พรรคการเมืองต่างๆ นำไปเปรียบเทียบกับนโยบายที่พรรคนำเสนอ โดย ป.ป.ช.จะมีการเฝ้าระวังและวิเคราะห์ข้อมูลจากนโยบายพรรคการเมือง หากพบว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายหรือมีความผิดทางอาญาจะมีการไต่สวนข้อเท็จจริงต่อไป ถือว่าเป็นการทำงานเชิงรุกของ ป.ป.ช. โดยวิเคราะห์นโยบายไว้ก่อนว่าเป็นอย่างไร ไม่ต้องให้คนมาร้องเรียนหลังจากที่มีปัญหาเกิดขึ้นแล้ว
    "ในช่วงนี้อยู่ระหว่างเลือกตั้ง ป.ป.ช.ได้หารือกัน และกรรมการทุกคนรับทราบแล้วว่าจะยังไม่มีการสรุปคดีที่เกี่ยวกับแคนดิเดตนักการเมืองในช่วงก่อนเลือกตั้ง เพราะอาจเกิดปัญหาความได้เปรียบเสียเปรียบทางการเมือง โดยหลังเลือกตั้ง ป.ป.ช.จะมีการดำเนินการสรุปคดีที่เกี่ยวกับนักการเมืองหลายคดี  ที่ผ่านมาดำเนินการใกล้เสร็จแล้ว" พล.ต.อ.วัชรพลกล่าว
    ส่วนกรณีช่วงเดือน ต.ค.62 ที่ ป.ป.ช.จะเป็นประธานการประชุมประจำปีของหน่วยงานต่อต้านการทุจริตในภูมิภาคอาเซียน (SEA-PAC) โดยหยิบยกคดีสินบนโรงไฟฟ้าขนอม และคดีปลูกปาล์มน้ำมันที่อินโดนีเซียมาหารือ และจะแล้วเสร็จในปี 2562 นั้น พล.ต.อ.วัชรพลกล่าวว่า ปัจจุบันทั้ง 2 คดีมีความคืบหน้าไปมาก ได้สอบปากคำผู้ถูกกล่าวหาและผู้ที่เกี่ยวข้อง มีการเพิ่มชื่อผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 2 คดี แต่ไม่ขอระบุในรายละเอียด เชื่อว่าทั้ง 2 คดีนี้อาจเสร็จสิ้นภายในกลางปีนี้ หรืออย่างช้าที่สุดคือภายในปี 2562.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"