เปิดคู่มือโปรโมต 'บิ๊กตู่' จาก 'เด็กชาย' ถึง 'นายกฯ'


เพิ่มเพื่อน    

“ประชารัฐ สร้างชาติ” คือคู่มือโปรโมต “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เล่มล่าสุด

“ประชารัฐ สร้างชาติ” ถูกพิมพ์ครั้งแรกในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 จัดพิมพ์ครั้งแรก 10,000 เล่ม เพื่อแจกจ่ายผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ตลอดจนทีมงาน เพื่อไปศึกษาก่อนจะ “บอกต่อ” แก่ประชาชนในพื้นที่

"ประชารัฐ สร้างชาติ” มีต้นทุนเล่มละ 100 บาท มีเนื้อหาทั้งสิ้น 157 หน้า ทุกตัวอักษรผ่านสายตาของ “บิ๊กตู่” ทั้งหมดก่อนจะมีการตีพิมพ์และเผยแพร่ให้สื่อมวลชนเห็น โดย “บิ๊กตู่” เองได้รับมอบเอาไว้แล้ว

“ประชารัฐ สร้างชาติ” ไม่ได้มีการแจกจ่ายแก่คนทั่วไป และไม่ได้มีวางขาย เพราะป้องกันการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง

รูปเล่มดูจัดทำแบบให้อ่านง่ายและเข้าใจง่ายด้วยภาษาที่ไม่ได้ทางการเกินไป เนื้อหาภายในไม่ได้เน้นหนัก “ตัวอักษร” จนแน่น แต่ใช้รูปภาพและกราฟฟิกเป็นตัวดึงสายตา

ภายในเล่มมีทั้งหมด 5 บท เริ่มจากล้มลุกคลุกคลาน, ยืนหยัดอย่างมั่นคง, บุรุษที่ใช่, คืนความสุข และเปิดปูมชีวิตสู่ความสำเร็จ

“ประชารัฐ สร้างชาติ” ตอนที่ 1 เริ่มต้นด้วยการเล่าถึงเหตุผลว่าทำไม “บิ๊กตู่” ถึงเข้ามาบริหารประเทศเมื่อปี 2557 ที่มีความขัดแย้งของคนในชาติ โดยระบุว่า ก่อนปี 2557 ประเทศไทยเคยเจริญเติบโตสูงสุดในภูมิภาค โดยเศรษฐกิจขยายตัวสูงถึงร้อยละ 11.2 ในปี 2553

แต่ในปี 2557 ประเทศไทยตกอยู่ในภาวะถดถอยสูญเสียความสามารถในการแข่งขันกับประเทศอื่นๆ เกิดปัญหาหลายอย่างในประเทศที่เดินหน้าไม่ได้

กระทั่ง “ที่สุดแล้วทางตันทั้งหลายได้ถูกทลายลงด้วยความสุขุมเด็ดขาด โดยยึดประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ” พร้อมกับภาพ “บิ๊กตู่” ก้าวเดินเข้ามา

หนังสือระบุเหตุผลที่ “บิ๊กตู่” ต้องเข้ามา ได้แก่ ยุติความรุนแรงที่เกิดใน กทม.และปริมณฑล ป้องกันความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินประชาชน พาบ้านเมืองกลับสู่สภาวะปกติโดยเร็ว เดินหน้าปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และสลายความขัดแย้งสร้างความปรองดอง

ตอนที่ 2 เล่าถึงหลัง “บิ๊กตู่” เข้ามาบริหารประเทศ ได้เกิด 4 เปลี่ยน พลิกโฉมประเทศ” ประกอบด้วย เกิดเสถียรภาพทางการเมือง เปลี่ยนความขัดแย้งเป็นสงบ เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว และเรียกความเชื่อมั่นจากประชาคมโลก ซึ่งมีการนำภาพการพบปะผู้นำประเทศต่างๆ มาประกอบ

ขณะที่ตอนที่ 3 ให้หัวเรื่องว่า “เด็กชายตู่สู่นายกฯ” ตั้งแต่เกิดในปี 2497, ปี 2504–2513 เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 12 และนักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้ารุ่นที่ 23, ปี 2519–2545 เป็นทหารเสือราชินี, ปี 2545–2550 มีความเป็นผู้นำได้รับตำแหน่งเป็นรองแม่ทัพภาคที่ 1 ก่อนจะเลื่อนเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 ในปีถัดมา

ปี 2551–2553 ความทุ่มเททำให้ในปี 2553 ได้รับโปรดเกล้าฯ ให้เป็นผู้บัญชาการทหารบกคนที่ 37 ขณะที่ปี 2557 ระบุว่า หลังจากปัญหาความขัดแย้งทำให้ต้องเข้ามาควบคุมอำนาจในการบริหารประเทศ ส่วนปี 2558–ปัจจุบัน คำมั่นสัญญาที่เคยให้ไว้เกิดขึ้นแล้วนั่นคือ “ประเทศเติบโต มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน”

ในตอนนี้ หนังสือได้ยกเอา “วรรคทอง” ของ “บิ๊กตู่” มารวบรวมเอาไว้จำนวนมาก เช่น “ความผิดของผมมีเพียงอย่างเดียวคือ ความเป็นมนุษย์สูง” ซึ่งเคยเปิดใจกับสื่อมวลชนอย่างตรงไปตรงมาในช่วงที่เผชิญเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก หรือ “ผมบอกกับประชาชนเสมอว่าไม่ได้มาเพื่อการเมือง แต่ต้องการมารับรู้รับฟังปัญหาของประชาชนโดยตรง ไม่ใช่นายกฯ นั่งอยู่ในหอคอยงาช้าง”

ส่วนตอน 4 “คืนความสุข” โดยโชว์ผลงานระหว่าง “บิ๊กตู่” เป็นนายกฯ ว่าได้ทำอะไรไปแล้วบ้าง อาทิ คืนทรัพย์สินให้ลูกหนี้ได้กว่าหมื่นราย เป็นโฉนดกว่า 2 หมื่นไร่ มูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท, การทำศูนย์ดำรงธรรม ที่พึ่งประชาชนทั่วประเทศ, ความช่วยเหลือผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ, บ้านประชารัฐล้านหลัง, จัดระเบียบริมคลองคืนสุขชุมชน, เน็ตประชารัฐ, ปลูกไม้ได้หลักประกัน, ประกันภัยพืชผล รวมถึงการท่องเที่ยวไทยที่ทำรายได้มากที่สุดอันดับ 4 ของโลก

ขณะที่ตอนสุดท้าย “เปิดปูมสู่ความสำเร็จ” เล่าถึงอุปนิสัยวัยเด็กของ “ด.ช.ประยุทธ์” โดยเฉพาะคอลัมน์ “เรียนดี” ในนิตยสารชัยพฤกษ์ของสำนักพิมพ์ไทยวัฒนาพานิชเมื่อปี 2512 ที่ระบุว่า “ด.ช.ประยุทธ์เป็นนักเรียนที่ใช้เวลาให้หมดไปกับหนังสือ ในวันหยุดจะไม่มีใครเห็นเขาวิ่งเล่นเช่นเด็กรุ่นเดียวกัน ในวันธรรมดาเขาใช้เวลาทบทวนวิชาเรียนตอนหลังอาหารเย็นไปจนถึง 4 ทุ่ม จึงจะเข้านอน วิชาที่ ด.ช.ประยุทธ์ ถนัดเป็นพิเศษ ได้แก่ คณิตศาสตร์ อังกฤษ และวิทยาศาสตร์”

นอกจากนี้ ยังมีคำบอกเล่าของ “พล.ต.หญิงอรพินท์ เพชรพลอย” อดีตอาจารย์โรงเรียนนายร้อย จปร. ซึ่งสอนวิชาประวัติศาสตร์ ที่ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์มีความเป็นผู้นำตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียนนายร้อย เพราะจริงๆ แล้วนักเรียนนายร้อยทุกคนจะได้รับการอบรมให้แก้ไขข้อบกพร่องต่างๆ

หรือ “พล.ต.หญิงศรีสมร ทังสุบุตร” อดีตอาจารย์โรงเรียนนายร้อย จปร.อีกคนที่เล่าว่า พล.อ.ประยุทธ์เป็นคนกตัญญู ตั้งแต่เป็น ผบ.ทบ.ก็มาหากราบครูเสมอ

บทส่งท้ายของหนังสือเป็นกลอนชื่อ “ประเทศไทย 4.0” ที่แต่งโดย “บิ๊กตู่” เนื้อหาว่า มาวันนี้ สืบสาน ทำงานต่อ แผ่นดินพ่อ แผ่นดินแม่ ช่วยแก้ไข ให้ยั่งยืน ตื่นเถิด สังคมไทย ก้าวต่อไป อนาคต ให้มั่นคง.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"