25 ก.พ.62- ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลังออกลาดตระเวน เพื่อป้องกันการบุกรุกป่า โดยการอำนวยการของนายวุฒิกุล งามปัญญา หน.รักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน – ห้วยสำราญและนายสำเรียบ ศักดิ์ศรี หน.ฝ่ายสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พร้อมด้วยจนท.หน่วยปฎิบัติการพิเศษภูธรจ.สุรินทร์ จนท.ปกครองอ.สังขะ จนท.ตชด. 217 บนพื้นที่ป่าไม้ชายแดนไทย – กัมพูชา บริเวณป่าทิศใต้บ้านคะนา ต.ตาตุม อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ซึ่งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ 

ขณะลาดตระเวนมาถึงบริเวณดังกล่าว ตรวจพบกลุ่มชาวบ้านจำนวน 17 คน เป็นชาย 13 คน หญิง 4 คน ต่างทยอยแบกถุงกระสอบปุ๋ยเดินออกจากป่า ลักษณะเดินมาทีละคน เจ้าหน้าที่จึงได้ส่งสัญญาณให้หยุด และเข้าตรวจสอบพบข้างในถุงกระสอบเป็นไม้พฤกษชาติจำพวกม้ากระทืบโรงและกำแพง 7 ชั้น จากการสอบสวนทราบว่าเป็นชาวบ้านกะเลงเวก ต.เทพรักษา จำนวน 14 ราย และเป็นชาวต.ตาตุม อีก 3 ราย ทุกคนต่างให้การว่าตนเองได้มาตัดไม้จำพวกนี้เพื่อไปทำเป็นยาสมุนไพรเท่านั้น ไม่คิดว่าจะมาถูกจับกุมดังกล่าว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหาคดีลักลอบร่วมกันทำลายไม้พฤกษชาติในเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน – ห้วยสำราญ จากนั้นจึงนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 17 ราย ส่งร้อยเวรสอบสวน สภ.ดมพร้อมด้วยของกลางเป็นไม้พฤกษชาติ จำนวน 1505 กิโลกรัม และรถจักรยายนต์อีก 17 คัน โดยผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพ เนื่องจากจำนนด้วยหลักฐานชัดเจนว่า ได้เข้ามาตัดไม้เพื่อที่จะนำไปเป็นยาสมุนไพร เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาและของกลางทั้งหมด ส่งดำเนินคดี ตามกฎหมายทันที

สำหรับการเข้าตรวจยึดจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากมาตรการป้องกันและปรามปรามการลักลอบทำลายทรัพยากรป่าไม้ ที่มีมาอย่างต่อเนื่องกำลังในทุกภาคส่วนจึงลงพื้นที่สำรวจตรวจสอบอย่างเข้มค้นหากพบการกระทำผิดจะควบคุมตัวดำเนินการตามกฎหมายทันทีไม่มีละเว้น