เหลืออีกไม่ถึงเดือน...ก็จะได้เวลา เข้าคูหากาบัตร ได้ เลือกตั้งที่รัก ตามความเรียกร้อง ปรารถนา ของใครต่อใครซะที ถ้าว่ากันตามภาษาม้า ต้องเรียกว่า...ถึงช่วงจังหวะเข้าสู่ โค้งวัดเบญจะฯ เรียบโร้ยย์ย์ย์แล้ว ม้าตัวไหนนำหน้า ตัวไหนไล่เบียด ไล่แซง ก็น่าจะพอประมาณการได้โดยคร่าวๆ และคงไม่ถึงกับ หักปากกา เซียนม้า หรือเซียนมวย มากมายซักเท่าไหร่...
---------------------------------------------
หรืออย่างที่โพลล่าสุดของสำนักฯ กรุงเทพโพลล์ เขาเพิ่งคลอดผลสำรวจคะแนนนิยมม้าแต่ละตัว ออกมาให้เห็นกันจะจะ ซึ่งก็ปรากฏว่า ม้าจันทร์โอชา ยังมีคะแนนนำโด่ง ทิ้งห่างม้าอันดับสอง อย่าง ม้าสุดาหน่อย แห่งคอกเผาไทย เกือบประมาณ 3-4 ช่วงตัวเห็นจะได้ คือพุ่งขึ้นไปถึง 15.1 เปอร์เซ็นต์ ห่างจากอันดับสองที่อยู่แค่ 11.0 เปอร์เซ็นต์ ถึง 3-4 เปอร์เซ็นต์เป็นอย่างน้อย ส่วนที่น่า ขนหัวลุก อยู่บ้างเล็กน้อย ก็คือ ม้าธนาธร แห่งคอก อนาคตหมด ที่อาศัยความ เกรียน ของเด็กรุ่นใหม่ ทะยานตามมาได้ถึง 9.0 เปอร์เซ็นต์ เฉือนม้าคอกประชาธิกัด อย่างอดีตนายกฯ อภิสิทธิ์ ที่ ความหล่อ อาจลดน้อยถอยลงไปบ้าง (เพราะแก่แล้ว) ไปประมาณ 1 ช่วงจมูก ด้วยคะแนนนิยมที่มีอยู่เพียงแค่ 8.9 เปอร์เซ็นต์...
----------------------------------------------
ก็เอาเป็นว่า...ใครจะแพ้-ใครจะชนะ ใครจะเข้าเส้นชัย เป็นเต็งหนึ่ง เต็งสอง เต็มสาม หรือ เต็งหาม ก็แล้วแต่ คงไม่ถึงกับต้องตื่นเต้ลล์ล์ล์ ต้องหูแหก ตาแหก อะไรมากมายนัก แม้แต่ประเภท หัวหน้าเด็ก ที่อาศัยพลังความเกรียนของพวกเด็กๆ สร้างความเปรี้ยวมือ เปรี้ยวเท้า ให้ใครต่อใคร จนเกิดเสียงครวญครางว่า ฟ้ารักพ่อ ดังกระหึ่มไปทั่วโซเชียลมีเดียก็ตาม ก็ต้องถือเป็น ธรรมชาติของระบอบประชาธิปไตย นั่นแหละ คือในเมื่อ ประชาชนเป็นเช่นไร? นักการเมืองก็ย่อมเป็นเช่นนั้น หรือถ้าพวกเด็กๆ ประมาณ 5 ล้าน 6 ล้านคน เขาดันหนักไปทาง เกรียน ซะเป็นส่วนใหญ่ ก็คงต้องปล่อยให้เขา ฟ้ารักพ่อ ซะให้เข็ด จนกว่าเมื่อไหร่ที่เขาเติบโตขึ้นเป็นผู้หลัก-ผู้ใหญ่ เดี๋ยวเขาก็คงหันมา ถีบกันเอง โดยไม่ต้องหันมาพึ่งฝ่าตีนของคนแก่ คนชรา เอาเลยแม้แต่น้อย...
------------------------------------------------
แต่ก็นั่นแหละ...โดย ธรรมชาติของระบอบประชาธิปไตย ที่อภิมหาพระอย่าง ท่านพุทธทาสภิกขุฯ ท่านสรุปไว้ว่า ต้องอาศัย ประชาชนที่มีธรรม เท่านั้น มันถึงจะพอไปรอด ไปได้ตลอดรอดฝั่ง ไม่ถึงกับต้องเป็น ประชาธิป...ตาย ไปซะก่อน จำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งโดยรวม ที่ปาเข้าไปถึง 51 ล้านคน ยังไงๆ...นอกจากคงไม่น่าจะ เกรียน ไปด้วยกันทั้งหมด บรรดาผู้ที่ใฝ่ธรรม หรือผู้ที่ยึดมั่นในธรรมทั้งหลาย ก็น่าจะมีอยู่กันเป็นจำนวนไม่น้อย เผลอๆ...อาจเพิ่มขึ้นกว่าเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว หลังจากที่ใครต่อใครได้เก็บรับบทเรียนจากประสบการณ์อันสุดแสนจะเจ็บปวดรวดร้าว ในช่วงที่เรียกๆ กันว่า ทศวรรษแห่งความมืดมน กันมาบ้างไม่มากก็น้อย...
--------------------------------------------------
หลายต่อหลายครั้งที่ผ่านมา...มันเลยก่อให้เกิดสิ่งที่นักคิด นักวิชาการ อย่างอาจารย์ ธีรยุทธ บุญมี ท่านใช้คำเรียกขานว่า พลังด้านบวก ของสังคม ไม่ว่าครั้งงานพระราชพิธีส่งเสด็จ ร.9, การวิ่งสุดขอบฟ้าของ ตูน บอดี้สแลม”, ไปจนปรากฏการณ์ หมูป่าอะคาเดมี ซึ่งล้วนแล้วแต่สามารถใช้เป็นหลักฐาน ข้อพิสูจน์ ถึงการมีอยู่ของ ประชาชนที่มีธรรม ไปด้วยกันทั้งสิ้น แม้ว่าจะไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องการมง การเมือง ไปซะทั้งหมด แต่พลังเหล่านี้...ก็คงไม่ถึงกับ เอามือซุกหีบ ไว้เฉยๆ เพราะอย่างที่อาจารย์ ธีรยุทธ ท่านแจกแจงเอาไว้นั่นแหละว่า เป็นพลังที่พร้อมจะตรวจสอบ เฝ้าดู พร้อมที่จะแยกแยะความถูก-ความผิด ความดี-ความชั่ว ออกจากกันและกันไปในแต่ละช่วง แต่ละระยะ...
---------------------------------------------------
แม้แต่ใน โลกเสมือนจริง อย่างโลกโซเชียลมีเดีย ก็เถอะ...ไม่ใช่อะไรต่อมิอะไรจะสามารถ เกรียน ไปได้โดยตลอด พลังโซเชียลที่สามารถแยก ข่าวปลอม ออกจาก ข่าวจริง สามารถช่วยรัฐบาล ช่วย บิ๊กตู่ ออกมาจากการถูก รุมกระทืบ ได้ไม่รู้กี่ครั้ง ต่อกี่ครั้ง โดยไม่ต้องพึ่งงบประชาสัมพันธ์ของรัฐเอาเลยแม้แต่น้อย แต่เพียงเพราะไม่ต้องการเห็นการ รุมประชาทัณฑ์ โดยไม่ถูกเรื่อง ถูกราว เท่านั้นเอง หรือแม้แต่สามารถพลิกการ รุมกระทืบประเทศไทย ให้กลายมาเป็นการ SaveThailand ไม่ใช่ BoycottThailand อันส่งผลให้ชาติบ้านเมืองพอรอดมือ รอดตีน จากการถูกเหยียบ ถูกย่ำ โดยฝ่าตีนต่างชาติ อย่างไม่ถูกต้อง เป็นธรรม หรืออย่างเต็มไปด้วยเหลี่ยมเล่ห์เพทุบาย ที่น่าเกลียด น่าทุเรศ เอามากๆ...
--------------------------------------------------
อะไรต่อมิอะไรเหล่านี้นี่แหละ...ที่น่าจะพอช่วยให้ ประชาธิปไตยแบบไทยๆ หรือ ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ไม่ต้องกลายสภาพไปเป็น ประชาธิป...ตาย หลังจากต้องหวนกลับไป เลือกตั้งที่รัก กันอีกครั้ง เพราะไม่ว่าใครแพ้-ใครชนะ ม้าตัวไหนเข้าวิน เข้าเพลส หรือเข้าเส้นชัยกันแบบไหน อย่างไร แต่เมื่อ มองข้ามช็อต แล้ว...ทุกสิ่งทุกอย่างก็น่าจะเป็นไปตาม ธรรมชาติทางการเมือง นั่นแหละ ไม่ถึงกับต้องหวนกลับไปเข้ารก-เข้าพง ต้องย้อนกลับไปสู่พฤษภาทมิฬ หรือตุลาคมทะมึน อย่างที่เคยวิตก กังวล มาก่อนหน้านี้...
--------------------------------------------------
แถมยังไม่ได้ทำให้ความเป็น ประชาธิปไตยแบบไทยๆ ต้องด้อยค่า ด้อยราคา ลงไปแต่อย่างใด เพราะแม้ว่าโดย กรรมวิธี แบบไทยๆ อาจผิดแผกแตกต่างไปจากพวกฝรั่งมังค่าอยู่มั่ง ตามลักษณะพิเศษของสังคม แต่ถ้าหาก ประชาชนที่มีธรรม ยังพอหลงเหลืออยู่ภายในสังคมไทย เผลอๆ...อาจเป็นอะไรที่ดูเก๋ ดูเท่ และดูดีกว่าประชาธิปไตยอเมริกา ทุกวันนี้เอาเลยก็ไม่แน่!!! ที่ต้องรับเวร รับกรรม อย่างแทบไม่มีวันว่างเว้น อันเนื่องมาจากด้วยเหตุเพราะประเทศนี้มันมีกรรม...จึงได้ทรัมป์มาเป็นนายขายหน้าเอย ดังที่อภิมหานักวิชาการ อาจารย์ ปราโมทย์ นาครทรรพ ท่านรจนาเอาไว้ นั่นแล...
-------------------------------------------------------
ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Prabhat Ranjan Sarkar... ประชาธิปไตยจะประสบผลสำเร็จ หากปัจจัยดังต่อไปนี้มีอยู่ท่ามกลางประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งไม่น้อยกว่า 51 เปอร์เซ็นต์ คือ 1.ความรู้หนังสือ 2.ความตื่นตัวทางสังคม เศรษฐกิจ การเมือง และ 3.ความมีศีลธรรม มิฉะนั้น...ประชาธิปไตยก็เป็นเพียงแค่เครื่องมือหลอกลวงประชาชนเท่านั้นเอง...
------------------------------------------------------
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |