ลดเหลื่อมล้ำแก้ยากจน


เพิ่มเพื่อน    


    ปัญหาด้านการเงิน ความยากจน และความเหลื่อมล้ำทางรายได้ เป็นหนึ่งปัญหาใหญ่ที่สั่งสม และก่อให้เกิดความทุกข์ยากต่อการดำเนินชีวิต สาเหตุของปัญหา นอกจากปัจจัยภายนอกด้านเศรษฐกิจแล้ว อีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้ประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในกลุ่มชุมชน และผู้ที่มีรายได้น้อย ไม่สามารถหลุดจากปัญหาปากท้อง ได้แก่ ปัจจัยส่วนบุคคล อย่างการขาดความรู้ความเข้าใจเรื่องการบริหารเงิน วินัยทางการเงิน และการวางแผนการออมอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาหนี้สิน และส่งผลกระทบต่อระดับคุณภาพชีวิต
    อย่างไรก็ดี ท่ามกลางปัญหาเรื้อรัง มูลนิธิซิตี้ ร่วมกับมูลนิธิคีนันแห่งเอเชีย และสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) (พอช.) ได้พัฒนาแนวคิด โมเดล “ชุมชนสมาร์ทมันนี่” ที่จะช่วยบรรเทาปัญหาความยากจน ลึกถึงระดับครอบครัว และยกระดับคุณภาพชีวิตให้แก่ชุมชนระยะยาว
    ทั้งนี้ โมเดล “ชุมชนสมาร์ทมันนี่” เป็นโมเดลที่มูลนิธิซิตี้, คีนัน และ พอช. ร่วมกันพัฒนาขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาเครือข่ายชุมชนให้เข้มแข็ง และมีความรู้ความเข้าใจในการจัดการทางการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ พัฒนาสมาชิกชุมชนให้มีศักยภาพทางการเงินที่ดีตั้งแต่ระดับครอบครัว ผ่านการให้ความรู้ด้านการเงิน การฝึกอบรม การให้คำปรึกษา และการติดตามผล
    โดยทีมผู้เชี่ยวชาญทางการเงิน เริ่มตั้งแต่การวางแผนการเงินจากระดับครอบครัว อาทิ การจดบันทึกบัญชี รู้จักลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ กำหนดเป้าหมายทางการเงิน การออมเงิน และการบริหารจัดการหนี้สิน ฯลฯ ให้สามารถนำความรู้ไปช่วยบริหารจัดการค่าใช้จ่ายในบ้าน เพื่อเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินในอนาคต รวมไปถึงการพัฒนาผู้นำในแต่ละชุมชน ให้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้รู้ทางการเงินประจำชุมชนที่สามารถช่วยเหลือ และให้คำปรึกษาคนในชุมชนได้
    อย่างไรก็ตาม “มูลนิธิซิตี้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ให้มีความรู้ความสามารถด้านการเงิน เพื่อให้ทุกคนสามารถพึ่งพาตนเอง โดยนำความรู้ด้านการเงินไปประยุกต์ใช้ในการบริหารค่าใช้จ่ายภายในบ้าน การชำระหนี้สิน ไปจนถึงการออมเงินเพื่อเลี้ยงดู และส่งเสริมอนาคตที่ดีให้แก่บุตรหลานได้อย่างเป็นสัดส่วน และเพียงพอกับปริมาณรายได้ของครอบครัว
    นอกจากนี้ โมเดลชุมชนสมาร์ทมันนี่ ยังมีจุดเด่นในการพัฒนาผู้นำชุมชนให้สามารถเป็นต้นแบบและแบบอย่างให้แก่สมาชิกชุมชน ตลอดจนสามารถให้คำปรึกษา และช่วยเหลือสมาชิกชุมชนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมทางการเงินที่ดีขึ้นได้ โดยมูลนิธิซิตี้ยังคงสานต่อโครงการพัฒนาเครือข่ายองค์กรชุมชน เพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงิน เป็นปีที่ 3 และได้ลงนามในบันทึกความร่วมมือกับมูลนิธิคีนันแห่งเอเชีย และ พอช. เมื่อเร็วๆ นี้
    สำหรับเป้าหมายของโครงการในปี 2562 จะเน้นสร้างทักษะให้ผู้นำชุมชนเป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้แก่สมาชิกในชุมชน และต่อยอดความรู้ให้สามารถเขียนข้อเสนอโครงการ และบริหารโครงการด้านการเงินที่เหมาะสมกับบริบทของชุมชนได้ ส่วนรูปแบบการพัฒนาได้เริ่มดำเนินการมาเป็นระยะเวลามากว่า 2 ปี โดยมีผู้เข้าร่วมเป็นผู้นำชุมชนกว่า 150 คน และสมาชิกชุมชนมากกว่า 1,500 คน จาก 40 ชุมชน ทั้งในจังหวัดกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เพื่อช่วยให้แต่ละครอบครัวสามารถวางแผนการใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตได้ในระยะยาว
    ทั้งนี้ มูลนิธิซิตี้มุ่งหวังให้เกิดการขยายผลไปสู่เครือข่ายชุมชนอื่นๆ ในประเทศต่อไป ซึ่งสอดคล้องกับพันธกิจของมูลนิธิฯ ในการส่งเสริมความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ เพื่อพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของผู้มีรายได้น้อยในชุมชนทั่วโลก
    สำหรับโมเดลชุมชนสมาร์ทมันนี่ เป็นหนึ่งในแนวทางการพัฒนาภายใต้ “โครงการพัฒนาเครือข่ายองค์กรชุมชน เพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงิน” ซึ่งจากการติดตามผลผู้เข้าร่วมโครงการ พบว่าก่อให้เกิดผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมทางด้านการเงินที่ดีขึ้น นอกจากนี้ สมาชิกชุมชนกว่า 55% มีการจดบันทึกบัญชีค่าใช้จ่ายครัวเรือน เพื่อนำมาวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้จ่าย
    และสามารถปรับปรุงการบริหารการใช้เงินให้เพียงพอกับรายจ่ายของครอบครัว รวมถึงกว่า 90% มีพฤติกรรมการออมเงินอย่างสม่ำเสมอ และเล็งเห็นถึงความสำคัญของการออมเงิน เพื่อใช้ยกระดับชีวิตให้กับครอบครัวของตนเองได้ในอนาคต. 

ศรยุทธ เทียนสี


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"