ชงเพิ่มโทษล่าสัตว์ป่า20ปี คุ้ยบ้านพักเจ้าสัวบนภูเรือ


เพิ่มเพื่อน    

    "สนช." เล็งเสนอแก้ กม.เพิ่มโทษล่าสัตว์ป่าสงวน ชงฟันรุนแรงถึงคุก 20 ปี "ศรีวราห์" มั่นใจหลักฐานมัด "เปรมชัย" แน่น ปัดข่าวหนีซุกนอกประเทศ "พงส." เตรียมเรียก "เจ้าสัวอิตาเลียนไทย" แจ้งข้อหาทารุณกรรมสัตว์พร้อมส่ง พฐ.เข้าป่าจำลองเหตุการณ์อีกรอบ "บิ๊กเต่า" สั่งตรวจบ้านพักหรูบนภูเรือ "ศรีสุวรรณ" บุก "ก.ล.ต." จี้สอบธรรมาภิบาล 13 ก.พ.นี้
    เมื่อวันที่ 12 ก.พ. พล.ท.ชัยยุทธ พร้อมสุข ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พร้อมคณะประกอบด้วย พล.ร.อ.วีระพันธ์ สุขก้อน, พล.อ.พิศณุ พุทธวงศ์, พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก และนายสนิท อักษรแก้ว กมธ. ร่วมกันแถลงแสดงความกังวลและห่วงใยต่อกรณีที่มีบุคคลพร้อมด้วยอาวุธเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก โดยเข้าไปพักแรมบริเวณพื้นที่หวงห้ามและล่าสัตว์ป่า ซึ่งเป็นการละเมิดพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 และเป็นการกระทำความผิดหลายฐาน ซึ่งบุคคลที่เกี่ยวข้องกับคดีจะต้องเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย
    พล.ท.ชัยยุทธกล่าวว่า ขอชื่นชมการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่ดำเนินการในครั้งนี้ เพราะถือว่าการคุกคามสัตว์ป่าของประเทศที่กำลังสูญพันธุ์เป็นการกระทำที่โหดร้าย ซึ่งกรรมาธิการฯ ขอให้ทุกฝ่ายมีความมั่นใจในกฎหมาย ระเบียบ ที่เจ้าหน้าที่ใช้ปฏิบัติงานเพื่อปกป้องทรัพยากรธรรมชาติและสัตว์ป่า มีอำนาจขอบเขตการทำงานที่ครอบคลุมในการบังคับใช้ที่ชัดเจน 
    "ในการประชุมคณะกรรมาธิการฯ วันที่ 15 ก.พ. เวลา 08.30 น. ได้เชิญ น.ส.กาญจนา นิตยะ ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และนายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตกมาให้ข้อมูล เพื่อประกอบการพิจารณาในการเสนอขอแก้พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 พร้อมกับให้กำลังใจในการทำงานด้วย  ส่วนการตรวจสอบในเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามพยานหลักฐาน" ประธาน กมธ.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดวล้อม สนช.ระบุ
    นายสนิทยอมรับว่า กฎหมายที่บังคับใช้ในปัจจุบันยังมีบทลงโทษน้อยเกินไป ซึ่งล่าสุดก็ได้พยายามติดตามการแก้ไขกฎหมายดังกล่าวจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เท่าที่ทราบขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาว่าจะมีการแก้ไขกฎหมายดังกล่าว 
    "ส่วนตัวเห็นว่าควรจะมีการแก้ไขบทลงโทษแก่ผู้ที่ล่าสัตว์ป่าสงวนให้หนักและรุนแรง อาจจะเพิ่มถึง 10-20 ปี ซึ่งต้องพิจารณาอีกครั้งเพื่อให้เกิดความเหมาะสม ส่วนการเข้าไปพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่านั้นก็ต้องพิจารณาให้รอบคอบ ไม่ใช่ว่าผู้ใหญ่ขอมาก็ให้เข้าไป วัฒนธรรมเช่นนี้ควรจะเลิกได้แล้ว" กมธ.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมฯ กล่าว
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ร.อ.วีระพันธ์ สุขก้อน กรรมาธิการฯ ได้สวมเสื้อยึดสีดำมีรูปเสือดำพร้อมข้อความ CRY FOR BLACK LEOPARD ขณะที่ด้านหลังมีข้อความว่า "สาปแช่งให้แรงกรรมทำหน้าที่ อย่าได้มีวิถีสุขทุกสถาน ตีแผ่แต่ละคำย้ำสันดาน ให้เห็นเดรัจฉานผ่านใจคน" ซึ่งเป็นเสื้อรณรงค์ห้ามล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าด้วย
    ขณะที่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. กล่าวถึงนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารและกรรมการ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) 1 ใน 4 ผู้ต้องหาลักลอบล่าเสือดำและสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรว่า ขณะนี้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.)  ยังไม่มีข้อมูลว่านายเปรมชัยหลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้าน แต่จะหลบหนีไปทางช่องทางธรรมชาติหรือไม่ยังไม่มีข้อมูล
    "หากพบมีหลักฐานก็สามารถขอศาลพิจารณาเพิกถอนคำสั่งประกันตัวได้ เนื่องจากนายเปรมชัยได้ประกันตัวในชั้นศาล ตำรวจก็ไม่มีอำนาจก้าวล่วง ซึ่งเมื่อครบกำหนดฝากขัง 12 วันนับจากวันที่ศาลให้ประกันตัว นายเปรมชัยก็จะต้องเดินทางมารายงานตัวต่อศาล หากไม่เดินทางมาศาลก็จะยึดเงินประกันตามขั้นตอน" พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าว
    ถามถึงเรื่องบ้านพักนายเปรมชัยในพื้นที่ อ.ภูเรือ จ.เลย รอง ผบ.ตร.กล่าวว่าไม่ใช่บ้านนายเปรมชัย  แต่มีชื่อของ บจก.ซี.พี.เค. อินเตอร์เนชันแนล เป็นผู้ครอบครอง นายเปรมชัยเป็นเพียงกรรมการบริหารเท่านั้น ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวจะมีความผิดฐานรุกล้ำพื้นที่ป่าหรือไม่ ต้องให้กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ตรวจสอบ 
    "ไม่กังวลว่านายเปรมชัยจะหลุดคดี เพราะตำรวจมีพยานหลักฐาน ขอยืนยันไม่ว่าอย่างไรนายเปรมชัยก็มีความผิด เพียงแค่นำอาวุธปืนเข้าไปในอุทยานฯ ก็ถือว่ามีความผิด แม้จะไม่ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือยิงก็ตาม" พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าว
    ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี (บก.ภ.จว.กาญจนบุรี) พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช  รอง ผบช.ภ.7 พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี, พ.ต.อ.พูนศักดิ์ ประเสริฐเมธ  รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี, พ.ต.อ.วุฒิพงษ์ เย็นจิตต์ ผกก.สภ.ทองผาภูมิ, พ.ต.ท.ประภาส อ่องมะลิ รองผกก.ปทส. ร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าการดำเนินคดีนายเปรมชัยและพวก
    พล.ต.ต.กฤษณะกล่าวว่า ขณะนี้ตำรวจไม่ทราบว่านายเปรมชัยอยู่ในประเทศไทยหรือไม่ แต่เมื่อครบกำหนดนัดจากศาลนายเปรมชัยก็ต้องเดินทางมา อย่างไรก็ดีเรายังมีประเด็นสงสัยที่ต้องออกหมายเรียกนายเปรมชัยอีกหลายประเด็น รวมทั้งที่ป่าไม้มาแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาทารุณกรรมสัตว์ที่ต้องแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบ
    "ตอนนี้เรากำลังรวบรวมข้อมูลจากกล้องอยู่ รวมทั้งอยู่ระหว่างการตรวจสอบอาวุธปืน ดีเอ็นเอ คราบเลือด เดี๋ยวจะมีพยานหลักฐานอื่นๆ อีก ที่เราจะต้องไปขอป่าไม้ส่งให้พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบ  ซึ่งกองพิสูจน์หลักฐานพยายามเร่งรัดคดีอยู่ ที่สำคัญพิสูจน์หลักฐานจะต้องเข้าป่าไปจำลองเหตุการณ์อีกครั้ง" พล.ต.ต.กฤษณะกล่าว
    ถามถึงคลิปการพูดคุยที่อ้างว่าเป็นเสียงนายเปรมชัย รอง ผบช.ภ.7 กล่าวว่า ในส่วนคลิปเสียงเป็นหน้าที่ของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ต้องตรวจสอบว่ามีการแต่งเสียงหรือไม่ และคงต้องเรียกผู้เกี่ยวข้องมาสอบถามและยืนยัน
    ขณะที่ พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงข่าวบ้านพักนายเปรมชัยบนพื้นที่ภูเขา อ.ภูเรือ จ.เลย ใกล้กับรีสอร์ตชื่อดังไม่ห่างจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวงว่า ศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งตรวจสอบกรณีดังกล่าว
    "หากตรวจสอบพื้นที่แล้วพบการบุกรุกปลูกสร้างบ้านพักในพื้นที่ป่าอนุรักษ์หรือป่าสงวนแห่งชาติจริง ต้องถูกดำเนินคดีทางกฎหมายทันที" พล.อ.สุรศักดิ์กล่าว 
    วันเดียวกัน นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ได้ให้นายพิมล พูลสง่า เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดเลย และเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเข้าพบ พร้อมสั่งให้รวบรวมข้อมูลหลักฐานในกรณีที่ดินแปลงของรังเย็นรีสอร์ท ตั้งอยู่ระหว่าง อ.ภูเรือ และ อ.ด่านซ้าย จ.เลย เป็นรีสอร์ตใหญ่ที่สุดใน จ.เลย ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาและฝายน้ำขนาดใหญ่ ปรากฏเป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัท ที่มีนายเปรมชัยเป็นเจ้าของ
    นายพิมล กล่าวว่า จากหลักฐานที่ดินของนายเปรมชัยถือกรรมสิทธิ์ในพื้นที่อำเภอภูเรือ และมีชื่อโดยตรงมีจำนวน 5 แปลง เป็นโฉนดที่ดินเลขที่ 2633-2637 ตั้งอยู่ที่ตำบลร่องจิก อ.ภูเรือ โดยได้ซื้อมาจากชาวบ้าน โฉนดออกปี 2543 เป็นการออกที่ไม่มีเอกสารหรือเป็นที่ดินมือเปล่า ส่วนกิจการที่ตั้งรังเย็นรีสอร์ทนั้น ไม่ใช่ชื่อของนายเปรมชัย เป็นชื่อของบริษัท ซีพีเค ที่มีนายชัยยุทธ กรรณสูต บิดาของนายเปรมชัยเป็นประธานกรรมการ ซึ่งลักษณะที่ดินเป็นสภาพภูเขา อยู่คาบเกี่ยวกับ อ.ภูเรือ และ อ.ด่านซ้าย มีหลักฐานที่เป็น นส.3 ก.ทั้งหมด 147 แปลง ปรากฏทั้งหมดรวม 147 แปลง ออกไม่ชอบด้วย นส.3 ปี 2547
    "ยังคงเหลืออีก 16 แปลง ซึ่งอยู่ระหว่างรอการตรวจสอบจากกรมพัฒนาที่ดินว่า ที่ดินเป็นที่ภูเขา ลาดชันหรือไม่ หลักหมุดได้เพิกถอนไปแล้วก็กลับไปอยู่ในสถานะที่ดินไม่มีหลักฐาน และตกเป็นที่ดินของป่า แต่การที่จะทำประโยชน์กิจการได้ขออนุญาตกรมป่าไม้หรือไม่ ต้องเป็นหน้าที่ของกรมป่าไม้เข้าไปตรวจสอบ" เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดเลยกล่าว 
    ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า สำหรับพื้นที่รังเย็นรีสอร์ท ก่อนหน้านี้เป็นพื้นที่ที่ชาวบ้านบุกรุกทำไร่ ต่อมามีการกว้านซื้อที่ดินจากชาวบ้านนับพันไร่ในเขตพื้นที่ป่าภูหมี ภูขี้นาค บ้านร่องจิก บ้านหนองสะนุน ต.ร่องจิก อ.ภูเรือ เขตรอยต่อระหว่าง อ.ภูเรือและ อ.ด่านซ้าย นายทุนได้นำที่ดินไปออกเอกสารสิทธิ ต่อมามีการร้องเรียนว่าออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบ จนมีการเพิกถอนเอกสารสิทธิบางส่วนไป 147 แปลง ในปี 2547
    ด้านนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวว่า ในวันที่ 13  ก.พ. เวลา 10.30 น. จะเดินทางไปร้องเรียนเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อให้ตรวจสอบพฤติกรรมนายเปรมชัย ว่าขัดต่อหลักธรรมาภิบาลและกฎหมายข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับ พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 หลายมาตรา. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"