25 ก.พ.62 - นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมด้วยนายศันสนะ สุริยะโยธิน ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 22 เบอร์ 11 ลงพื้นที่หาเสียงพบปะประชาชนเขตธนบุรี และเยี่ยมชมสถานที่สำคัญ โดยได้เข้ากราบสักการะหลวงพ่อโต วัดกัลยาณมิตร ศาลเจ้าเกียนอันเกง อายุมากกว่า 100 ปี และโบสถ์ซานตาครู๊ซ รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวชุมชนต่างๆ เช่น โรงขนมฝรั่งป้าเป้า บ้านเรือนไทยจันทนภาพ และบ้านกุฎีจีน
นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า พื้นที่ฝั่งธนบุรีมีศักยภาพทางวัฒนธรรมและมีบรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยารวมถึงสถาปัตยกรรมต่างๆที่สวยงาม ซึ่งสามารถต่อยอดพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้ ตรงกับนโยบายพรรคเรื่องพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวชุมชน ซึ่งการท่องเที่ยวชุมชนจะช่วยสร้างงานและเป็นแหล่งรายได้ใหม่ให้พี่น้องในเขตธนบุรี นอกจากนี้ในเขตธนบุรีก็มีพื้นที่หลายๆตลาดที่สอดรับกับโครงการตลาดชุมชนของพรรค ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมให้ชุมชนต่างๆมีตลาดและของกินใกล้บ้านที่ ราคาถูก มีมาตราฐาน และเป็นระเบียบ ส่งเสริมให้พี่น้องหาบเร่แผงลอยสามารถประกอบอาชีพในพื้นที่ชุมชนต่างๆได้มากขึ้น จึงมั่นใจว่าเขตธนบุรีมีศักยภาพที่จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักของคนกรุงเทพฯและชาวต่างชาติในอนาคต
นายกอบศักดิ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้เสียงประชาชนที่สนับสนุนพรรคพลังประชารัฐใน กทม.ตอบรับดี มีความคึกคัก ในหลายพื้นที่ที่มีโอกาสเข้าไปสื่อสารนโยบาย และมั่นใจว่าจะได้รับการสนับสนุนมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่เหลือ ซึ่งต้องทำงานอย่างหนัก ส่วนพรรคพลังประชารัฐ จะให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ช่วยหาเสียงและร่วมดีเบตกับผู้ถูกเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคอื่นๆหรือไม่นั้น อยู่ระหว่าง ที่พรรครอฟังความชัดเจนจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ต้องตีความเรื่องดังกล่าวให้เรียบร้อย ในลักษณะที่เป็นทางการ แต่ส่วนตัวเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดตนายกให้กับพรรคถือว่าได้ช่วยพรรคมากแล้ว เพราะ พรรคจะได้รับเสียงสนับสนุน จากประชาชนที่ชื่นชอบพล.อ.ประยุทธ์เพิ่มขึ้น พร้อมยอมรับว่าหากพล.อ.ประยุทธ์ ช่วยหาเสียงได้ พรรคพลังประชารัฐจะยิ้มได้กว้างขึ้น
นายกอบศักดิ์ ยังระบุถึงร่าง พ.ร.บ.ข้าว ว่ายังมีเวลาให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ทบทวนประเด็น ที่ยังมีความเห็นต่าง ควรปรับเปลี่ยน ให้พี่น้องชาวนามีความพอใจมากที่สุด หรืออาจชะลอออกไปก่อนเพื่อรับฟังเสียงประชาชนอย่างครบถ้วน ซึ่งหากยังไม่สามารถตัดสินใจได้ ควรรอรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเป็นผู้ดำเนินการ และยืนยันว่า ส.ว.250คน ไม่ใช่จุดสำคัญในการขับเคลื่อนรัฐบาล เพราะการทำงานจำเป็นต้องมีเสียงเกินกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎร ดังนั้นจึงเห็นว่าการใช้เสียงส.ส.เพียง 126 คน รวมกับส.ว. 250 คนเพื่อจัดตั้งรัฐบาล จึงเป็นไปไม่ได้ ซึ่งใครจะเป็นเสียงข้างมาก ต้องให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ และคิดว่ายังเร็วไปที่จะบอกว่าใครจะเป็นพรรคที่นำการจัดตั้งรัฐบาลและ พรรคพลังประชารัฐจะร่วมกับพรรคการเมืองใด
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |