หนาว!ศาลตัดสิทธิตามกกต. จัดคิว‘ดีเบต’นโยบาย6ด้าน


เพิ่มเพื่อน    

  กกต.ถก ตร.คุมเข้มความปลอดภัยเลือกตั้ง ดูแลหีบบัตร พบซื้อเสียงแล้ว 42 เรื่อง จับสลาก 54 พรรคดีเบตนโยบาย 6 ด้าน ออนแอร์ทีวี-วิทยุ-ยูทูบ 15-21 มี.ค. ศาลฎีกายืนตัดสิทธิ์ "จีรเดช" ผู้สมัครโคราช "ลูกเสี่ยตือ" ร้องคืนสิทธิลง ส.ส.ภท.

    ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ในฐานะประธานศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง และตัวแทนจากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9 นครบาล ร่วมประชุมพิจารณากำหนดแนวทางปฏิบัติในการดำเนินคดีอาญาตามกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งและพรรคการเมืองครั้งที่ 2/2562 
          พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวว่า สั่งการให้กองบัญชาการตำรวจภูธรภาคต่างๆ ส่งแผนการดูแลความเรียบร้อยดูแลการเลือกตั้ง และให้ส่งกลับมาภายในวันที่ 1 มี.ค. เพื่อรายงานให้ กกต.ทราบ พร้อมทั้งเฝ้าระวังการกระทำผิดกฎหมาย เช่น การทำลายป้ายหาเสียง ยอมรับว่าการเลือกตั้งครั้งนี้มีรายละเอียดของข้อกฎหมายที่ต้องบังคับใช้มากพอสมควร
       ด้าน พ.ต.อ.จรุงวิทย์กล่าวว่า สิ่งที่ กกต.เป็นห่วงคือเรื่องการรักษาความปลอดภัย ยิ่งช่วงใกล้วันเลือกตั้ง จะมีความเห็นไม่ตรงกัน แต่คิดว่าคงไม่เกิดความรุนแรง ส่วนภาคใต้ยังน่าเป็นห่วงสถานการณ์ความปลอดภัย พร้อมทั้งได้ขอความร่วมมือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เน้นดูแลความปลอดภัย การขนส่งหีบบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าที่จะต้องจัดส่งมาที่กรุงเทพมหานคร เพื่อรอนับคะแนนพร้อมกันในวันที่ 24 มี.ค. โดยขอให้ตำรวจคุ้มครองหีบบัตรเลือกตั้งตลอดเส้นทาง พร้อมให้สถานีตำรวจใช้ห้องขังผู้ต้องหาในการจัดเก็บบัตรเลือกตั้ง ที่จะใช้ก่อนวันลงคะแนน และให้ดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นพิเศษ เพราะวันดังกล่าวอาจจะต้องใช้เวลาการนับคะแนนถึงเวลา 21.00 น.  
          นอกจากนี้ ขอความร่วมมือให้ตำรวจจัดสรรกำลังพลเฝ้าสังเกตการณ์ทุกหน่วยเลือกตั้งกว่า 92,000 หน่วยทั่วประเทศ หน่วยละ 2 นาย เพื่อรักษาความเรียบร้อย และขอให้ตำรวจดูแลเรื่องการจราจร โดยเฉพาะหลายหน่วยเลือกตั้งของ กทม. หาที่จอดรถไม่ได้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนได้มากที่สุด ขณะที่ ตร.ขอให้ กกต.สนับสนุนงบประมาณ 37.28 ล้านบาท เตรียมเสนอต่อคณะกรรมการ กกต. พิจารณาอนุมัติต่อไป 
    เลขาธิการ กกต.กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ได้รับข้อมูลการซื้อเสียงเลือกตั้งแล้ว 42 เรื่อง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องการเก็บบัตรประชาชน แต่ยังไม่พบการกระทำผิดซึ่งหน้า โดยยังอยู่ระหว่างแสวงหาหลักฐาน และขอความร่วมมือประชาชนขอหลักฐานการกระทำผิด โดยย้ำว่าจะมีเงินรางวัลสำหรับผู้แจ้งเบาะแส และปกปิดพยาน ขณะเดียวกันได้ร่วมหารือกับตำรวจถึงแนวทางการไต่สวนคดีที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง หากเป็นคดีอาญา เป็นอำนาจของตำรวจดำเนินการได้ทันที แต่หากเป็นคดีอาญาที่กำหนดไว้ในกฎหมายเลือกตั้ง เช่น การแจกเงินซื้อเสียง ให้แจ้ง กกต. พิจารณาภายใน 72 ชั่วโมง
    ที่โรงแรมเซ็นทรา ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ นายแสวง บุญมี รองเลขาธิการ กกต. เป็นประธานการประชุมพรรคการเมือง เพื่อจับสลากเลือกคำถาม ในการประชันนโยบายที่ กกต. จะจัดขึ้นให้กับ 54 พรรคการเมือง ที่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. และแจ้งความประสงค์ที่จะร่วมเวทีประชันนโยบายของ กกต. โดยการจับคู่พิจารณาจากจำนวนการส่งผู้สมัครของพรรคการเมือง ซึ่งหัวข้อการประชันแบ่งเป็น 6 ด้าน คือ ด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม การศึกษา การเกษตร และสาธารณสุข ซึ่งพรรคการเมืองจะพบกันในลักษณะ 2 พรรค และ 3 พรรค จะเริ่มบันทึกเทปตั้งแต่วันที่ 26 ก.พ.-4 มี.ค. และจะนำไปเผยแพร่ทางสถานีโทรทัศน์ 21 สถานี สถานีวิทยุ 7 สถานี และช่องยูทูบ ตั้งแต่วันที่ 15-21 มี.ค. โดยพรรคการเมืองสามารถส่งผู้แทนของพรรค หัวหน้าพรรค หรือผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเข้าร่วมดีเบตได้
    สำหรับผลการจับคู่ ประชัน 6 นโยบายบริหารประเทศ 1.นโยบายด้านศึกษา คู่ที่ 1 พรรคพลังท้องถิ่นไท-พรรคประชานิยม, คู่ที่ 2 พรรคแผ่นดินธรรม-กรีน, คู่ที่ 3 พรรคมติประชา-พรรคคลองไทย, คู่ที่ 4 พรรคภาคีเครือข่ายไทย-พรรครวมใจไทย 2.ด้านการเกษตร คู่ที่ 1 พรรคอนาคตใหม่-พรรคประชาชนปฏิรูป, คู่ที่ 2 พรรคประชาชาติ-พรรคไทรักธรรม, คู่ที่ 3 พรรคถิ่นกาขาวชาววิไล-พรรคกลาง, คู่ที่ 4 พรรคเครือข่ายชาวนาแห่งประเทศไทย-พรรคสังคมประชาธิปไตยไทย
    3.ด้านสังคม คู่ที่ 1 รักษ์ผืนป่าประเทศไทย-พรรคเพื่อชาติ, คู่ที่ 2 พรรคพลังประชารัฐ-พรรคประชาภิวัฒน์, คู่ที่ 3 พรรคภราดรภาพ-พรรคไทยธรรม, คู่ที่ 4 พรรคทางเลือกใหม่-พรรคประชากรไทย, คู่ที่ 5 พรรคพลังรัก-พรรคพลังแรงงานไทย, คู่ที่ 6 พรรคผึ้งหลวง- พรรคชาติพันธุ์ไทย, คู่ที่ 7 พรรคประชาไทย-พรรคพลังไทยดี 4.ด้านเศรษฐกิจ คู่ที่ 1 พรรคภูมิใจไทย-พรรคเสรีรวมไทย-พรรคประชาธิปัตย์, คู่ที่ 2 พรรคเศรษฐกิจใหม่-พรรคพลังชาติไทย, คู่ที่ 3 พรรคเพื่อไทย-พรรคไทยศรีวิไลย์, คู่ที่ 4 พรรคพลังธรรมใหม่-พรรคความหวังใหม่, คู่ที่ 5 พรรคคนงานไทย-พรรคไทยรักษาชาติ -พรรคเพื่อแผ่นดิน
    5.ด้านความมั่นคง คู่ที่ 1 พรรคครูไทยเพื่อประชาชน-พรรคชาติไทยพัฒนา, คู่ที่ 2 พรรคประชาธรรมไทย-พรรคประชาธิปไตยใหม่, คู่ที่ 3 พรรคพลังปวงชนไทย-พรรคชาติพัฒนา, คู่ที่ 4 พรรคพลังไทยรักชาติ-พรรคฐานรากไทย, คู่ที่ 5 พรรคคนธรรมดาแห่งประเทศไทย-พรรคพัฒนาประเทศไทย, คู่ที่ 6 พรรคพลังครูไทย-พรรคพลังสังคม 6.ด้านสาธารณสุข ไม่มีพรรคไหนจับได้
    ที่ศาลฎีกา ถ.แจ้งวัฒนะ นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สมาชิกพรรคภูมิใจไทย เดินทางมายื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง ให้วินิจฉัยคุณสมบัติและคืนสิทธิการเป็นผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย หลัง กกต.ไม่ประกาศรับรองการเป็นผู้สมัคร โดยได้นำเอกสารหลักฐานในการยื่นต่อศาลกรณีได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเดิมและเอกสารยืนยันสถานะการเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย เกินกว่า 90 วัน ตามที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งใบเสร็จรับเงิน ภาพเหตุการณ์วันสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรค     
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งได้มีคำพิพากษายกคำร้องในคดีที่นายจีรเดช ทองย้อย ผู้สมัคร ส.ส.เขต 12 นครราชสีมา พรรคประชาชาติ ยื่นคำร้องขอให้วินิจฉัยคุณสมบัติและคืนสิทธิการเป็นผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา กรณีผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งที่ 12 จ.นครราชสีมา ไม่ประกาศชื่อให้เป็นผู้สมัคร  
    โดยศาลเห็นว่า ข้อเท็จจริงตามคำร้อง คำคัดค้าน และเอกสารประกอบ นายจีรเดชเป็นสมาชิกพรรคประชาชาติ เมื่อวันที่ 26 พ.ย.61 ตามหนังสือรับรองของหัวหน้าพรรคประชาชาติ ที่ ปช.2562/0164 แต่ปรากฏว่านายจีรเดชสิ้นสภาพการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อแผ่นดิน เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.61 แสดงว่าในระหว่างวันที่ 26 พ.ย.61 จนถึงวันที่ 6 ธ.ค.61 นายจีรเดชเป็นสมาชิกพรรคเมืองสองพรรคซ้ำซ้อนกัน นายจีรเดชจึงไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งแต่เพียงพรรคการเมืองเดียว เป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 90 วัน นับถึงวันเลือกตั้ง ขาดคุณสมบัติในการเป็นผู้สมัคร ส.ส. ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 97 (3)  และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.2561 มาตรา 41 (3) ดังนั้นที่ผู้อำนวยการการเลือกตั้งฯ ไม่ประกาศรายชื่อนายจีรเดชเป็นผู้สมัคร ส.ส.เขต 12 นครราชสีมา จึงชอบแล้ว.  


 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"