กู้เงินขุดทองเกาหลี ถูกกดขี่ผูกคอตาย


เพิ่มเพื่อน    

    ผัวเมียชาวบุรีรัมย์วาดฟันหาเงินสร้างบ้านตามคำแนะนำของนายหน้า กู้ ธ.ก.ส. 1.5 แสนซื้อทัวร์ท่องเที่ยวเกาหลี ก่อนหนีไปหางานทำ ที่คิดว่าจะได้ขึ้นสวรรค์กลับเป็นนรกชัดๆ ค่าครองชีพสูง อดมื้อกินมื้อ ผัวตัดใจส่งเมียกลับไทย ตัวเองได้งาน แต่สุดท้ายไม่ได้เงิน เพราะนายจ้างรู้เป็นแรงงานผิดกฎหมาย กดขี่เยี่ยงทาส สุดท้ายผูกคอตาย เมียร่ำไห้สิ้นหนทางหาเงินนำศพกลับ
    เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์นี้ ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องทุกข์จากชาวบ้าน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ว่ากำลังได้รับความเดือดร้อน ไม่มีเงินเดินทางไปดูศพสามีที่ประเทศเกาหลี หลังได้รับแจ้งจากสถานทูตเกาหลีว่าสามีผูกคอตายอยู่ริมทาง จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 138 หมู่ 6 ต.ห้วยสำราญ อ.กระสัง พบชาวบ้านต่างพากันมาให้กำลังใจ น.ส.ออม วงจันทร์ อายุ 40 ปี ผู้เป็นภรรยา หลังทราบข่าวว่าสามีเสียชีวิตจากการผูกคอตายที่ประเทศเกาหลี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา
    น.ส.ออมเล่าว่า อยู่กินกับนายวันสิน บุญกลาง อายุ 40 ปี มาหลายปีแล้ว มีลูกด้วยกัน 3 คน อายุ 16, 12 ปี และคนเล็กอายุ 3 ขวบ โดยเมื่อกลางปี 2560 ได้มีคนมาชักชวนไปทำงานที่ประเทศเกาหลี ด้วยการหนีทัวร์ท่องเที่ยวแล้วไปหางานทำ จึงมีความคิดอยากจะไปทำงานด้วยวิธีนี้เพื่อนำเงินมาสร้างบ้าน จากนั้นตัดสินใจไปกู้เงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จำนวน 150,000 บาท แบ่งจ่ายค่าแพ็กเก็จท่องเที่ยวคนละ 20,000 บาท รวมเป็น 40,000 บาท ส่วนเงินที่เหลือเอาไปใช้หนี้เงินกู้นอกระบบที่กู้มาวิ่งเต้นก่อนหน้านี้ โดยได้บินในนามนักท่องเที่ยว เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.2560 แล้วหนีทัวร์ตามที่นายหน้าแนะนำ
    น.ส.ออมกล่าวว่า ตนและสามีมีเงินติดตัวไป 40,000 บาท เพื่อเอาไปเป็นค่าใช้จ่ายระหว่างติดต่อหางานทำ อยู่ได้ประมาณ 7 วัน ก็รู้ว่าไม่เหมือนที่เคยฝันไว้ ไม่มีงานทำ ค่าครองชีพสูง ต้องพักโรงแรม รวมถึงอาหารการกินไม่เหมือนเมืองไทย สามีเกิดความสงสารตนเองจึงให้เดินทางกลับไทย โดย น.ส.ออมแบ่งเงินให้สามีไว้ใช้ประมาณ 15,000 บาท
    หลังเดินทางกลับมาถึงบ้าน น.ส.ออมก็โทรศัพท์ถามสามีทุกวันถึงชีวิตความเป็นอยู่ ได้รับคำตอบว่า ได้ทำงาน แต่ไม่ได้เงิน เพราะนายจ้างทราบว่าเป็นคนหนีเข้าเมืองจึงฉวยโอกาสกดขี่ ต้องอดมื้อกินมื้อ เงินที่ให้มาก็ร่อยหรอ และอยากกลับบ้านแล้ว น.ส.ออมเมื่อทราบเรื่องก็ได้แต่สงสารสามี แต่ไม่รู้จะช่วยอย่างไร เพราะไม่มีเงินค่าตั๋วเครื่องบินเดินทางกลับ
    กระทั่งล่าสุดเมื่อวันที่ 8 ก.พ.61 น.ส.ออมได้รับโทรศัพท์จากสถานทูตเกาหลีว่า สามีได้ผูกคอเสียชีวิตริมทางที่ประเทศเกาหลีแล้ว ตนและครอบครัวตกใจมาก เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ เพราะครอบครัวก็กำลังหาทางกู้เงินนอกระบบเพื่อส่งไปให้สามีเป็นค่าตั๋วเครื่องบินเดินทางกลับไทย แต่ไม่คาดคิดว่าสามีจะชิงผูกคอตายก่อน
    น.ส.ออมเล่าทั้งน้ำตาว่า ตอนนี้ครอบครัวหมดแล้วทุกสิ่ง ขาดหัวหน้าครอบครัว ทั้งยังมีหนี้สินที่ไม่รู้จะหาเงินที่ไหนไปใช้หนี้ และยังมีภาระที่ต้องเลี้ยงดูลูกอีก 3 คน ที่สำคัญตอนนี้อยากจะนำศพสามีกลับมาฌาปนกิจที่บ้านก็ไม่รู้จะทำยังไง แต่ล่าสุดได้มีคนไทยที่อยู่ในประเทศเกาหลีและทราบเรื่อง ติดต่อมาจะเดินเรื่องช่วยนำศพสามีกลับไทย ก็รู้สึกมีความหวังมากขึ้น เพราะอย่างน้อยก็ยังได้นำศพกลับมาทำบุญที่บ้าน
    ทั้งนี้ น.ส.ออมยังได้ฝากเตือนคนไทยที่คิดจะไปทำงานต่างประเทศด้วยวิธีหนีทัวร์ หรือผิดกฎหมายต่างๆ ว่าไม่เป็นไปอย่างที่คิดแน่นอน จากที่วาดฝันไว้สวยหรู สุดท้ายคือนรกดีๆ เท่าที่ทราบยังมีคนไทยในเกาหลีอีกจำนวนมากที่กำลังลำบาก ถูกนายจ้างกดขี่ข่มเหง เพราะเป็นบุคคลเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"