("ยืนแกว่งแขน”"ท่ากายบริหารอย่างง่ายที่ผู้สูงอายุทำได้ทุกวัน)

      หลักการออกกำลังกายของผู้สูงอายุ คือการเน้นเผาผลาญร่างกายแบบไม่รุนแรง แต่อาจต้องทำอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง ซึ่งท่ากายบริหารที่เหมาะกับคนหลัก 5 หลัก 6 มากที่สุด คือการยืดเหยียดร่างกายที่สามารถทำเองได้ที่บ้าน ซึ่งหากฝึกบ่อยๆ ก็จะช่วยป้องกันโรคเรื้อรังต่างๆ รวมถึงลดอาการปวดเมื่อยจากการนั่งนิ่งๆ หรือนอนอยู่กับบ้านได้ ครูอ๋อง-ชนาภา คงสว่าง ครูสอนออกกำลังกาย มาแนะนำท่ากายบริหารยืดเหยียดกล้ามเนื้อไว้น่าสนใจ

(ชนาภา คงสว่าง)

      ครูอ๋อง-ชนาภา ครูสอนออกกำลังกาย บอกว่า “การออกกำลังกายที่เหมาะกับคนอายุ 50 และ 60 ปีขึ้นไป คือการ “ยืดเหยียดกล้ามเนื้อ” ที่เรียกได้ว่าง่ายที่สุด อีกทั้งและบางคนก็อยากอยู่กับบ้านไม่อยากออกไปไหน และไม่อยากออกกำลังกับใคร ดังนั้นท่ากายบริหารอย่างการยืดเหยียดร่างกายจึงดีที่สุด เช่น “การแกว่งแขน” เพราะการแกว่งแขน 20 นาที เท่ากับการเต้นแอโรบิก จึงทำให้ได้บริหารหัวใจและปอดด้วย โดยให้นับประมาณ 500 ครั้ง หรือ 1 เซต หากเหนื่อยแล้วพัก จากนั้นก็ให้เริ่มใหม่ หรือทำเท่าที่ผู้สูงวัยรู้สึกว่าตัวเองทำไหวและไม่เหนื่อย หรือหักโหมจนเกินไป

      นอกจากนี้ ท่ากายบริหารอย่างการ “ฝึกโยคะ” ก็ถือว่าเป็นการเผาผลาญพลังงาน และลดการตึงกล้ามเนื้อเส้นเอ็น ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการปวดเมื่อย แต่แนะนำว่าต้องเป็นท่าโยคะที่เบาๆ ไม่รุนแรง หรือ “โยคะท่าเด็ก” เพียงแค่ผู้สูงอายุนั่งเหยียดขา จากนั้นให้ก้มตัวลง เพื่อยืดเส้นเอ็น ยืดหลังและสะโพก หรือแก้ผู้ใหญ่ที่มีอาการปวดข้อเข่า ด้วยท่ากายบริหาร “ยก ย่อ ยืด” ซึ่งที่กล่าวมาเป็นตัวอย่างท่าออกกำลังกายสำหรับผู้สูงอายุที่ค่อนข้างง่าย แต่เมื่อฝึกแล้วดีต่อสุขภาพ

(การเดินออกกำลังกาย วิธีสร้างความแข็งแรงที่ทำง่าย แต่ได้ประโยชน์หลายต่อ ทั้งหัวใจ ปอด และกำลังขาที่แข็งแรง)

      ปิดท้ายกันที่ท่ากายบริหารที่ง่ายแต่ดีต่อหัวใจ ปอด รวมถึงกำลังขากำลังแขน อย่าง “การเดิน” ซึ่งผู้สูงอายุสามารถเลือกเดินจ๊อกกิ้ง หรือเดินชมสวนรอบบ้านก็ได้เช่นกัน แต่แนะนำว่าควรเดินให้ได้ประมาณ 30 นาที หรือเดินจนรู้สึกเหนื่อย แม้ว่าอาการเมื่อยจากการออกกำลังของแต่ละคนจะแตกต่างกัน แต่ถ้าอยากให้ร่างกายแข็งแรง การเหนื่อยกว่าที่เคย หรือการพยามเพิ่มขีดความสามารถในการออกกำลังกายให้เพิ่มขึ้น หรือเหนื่อยขึ้นวันละนิด ผู้สูงอายุก็จะได้รับประโยชน์ต่อสุขภาพสูงขึ้นเช่นกัน.