21 ก.พ.62 - ที่จังหวัดชัยภูมิ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานคณะเดินรณรงค์สมัครสมาชิกพรรครวมพลังประชาชาติไทย(รปช.) นายสำราญ รอดเพชร ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย พร้อมผู้สมัคร ส.ส.เข้าร่วมสักการะอนุสาวรีย์เจ้าพ่อพระยาแล สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ที่ชาวชัยภูมิ ให้ความเคารพและนับถือ หลังทำการสักการะ อนุสาวรีย์เจ้าพ่อพระยาแล 

จากนั้นนายสุเทพพร้อมทีมงาน ได้ลงพื้นที่ ภายในตลาดสด เทศบาลเมืองชัยภูมิ บนถนนหฤทัย บรรยากาศในวันนี้ ค่อนข้างที่จะคึกคัก โดยเฉพาะผู้สมัคร ส.ส.พรรครวมพลังประชาชาติไทย พร้อมทีมงาน ชูป้ายหาเสียง กันอย่างคึกคักนอกจาก จะเป็นการแนะนำตัวผู้สมัคร ของพรรครวมพลังประชาชาติไทยแล้ว ยังเป็นการเดินคารวะแผ่นดินจังหวัดที่ 76 หลังจากที่เดินมาแล้วทั่วทั้งประเทศ โดยยังคงได้รับเสียงตอบรับจากประชาชนพ่อค้าแม่ค้าภายในตลาดสดรวมทั้งผู้ที่สัญจรไปมาเป็นอย่างดี บางคนเข้ามาทักทายโอบกอด พร้อมพูดคุยถึงปัญหาเศรษฐกิจที่ยังคงซบเซาอยู่

นายสุเทพ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ที่จังหวัดชัยภูมิว่า วันนี้เป็นการเดินคารวะแผ่นดินคารวะประชาชนเป็น จังหวัดที่ 76 หลังจากที่เดินมาทั่วประเทศไทยเพื่อเชิญชวนพี่น้องชาวจังหวัดชัยภูมิ ร่วมกับพี่น้องประชาชนคนไทยทั่วประเทศ ช่วยกันสนับสนุนพรรคการเมือง ที่เป็นพรรคการเมืองของประชาชนที่แท้จริง เพียงพรรคเดียวในประเทศไทย คือพรรครวมพลังประชาชาติไทย พี่น้องชาวจังหวัดชัยภูมิไม่ว่าจะอยู่ในเขตเลือกตั้งไหน สามารถลงคะแนนเสียงให้กับพวกเราได้ เพราะว่าเราส่ง ส.ส.ทุกเขตในจังหวัดชัยภูมิ เหมือนกับที่เราส่งในทุกเขตเลือกตั้งทั่วประเทศไทย คนไทยอยู่ที่ไหนก็เลือกพรรครวมพลังประชาชาติไทย ด้วยกฎหมายรัฐธรรมนูญ กฎหมายเลือกตั้งฉบับปัจจุบัน ทุกคะแนนเสียงมีความหมาย จึงขอวิงวอนและขอการสนับสนุน จากพี่น้องลงคะแนนเสียงให้ พรรครวมพลังประชาชาติไทยทุกคะแนน ทุกคน

นายสุเทพ กล่าวว่าส่วนนโยบายหลักของ พรรครวมพลังประชาชาติไทยมี 2 เรื่อง คือการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจชาวบ้าน โดยใช้ศาสตร์พระราชาหลักเศรษฐกิจพอเพียง มาปฏิบัติ ในการยกระดับรายได้ให้กับพี่น้อง ทั้งที่เป็นเกษตรกร และผู้ใช้แรงงาน ให้เขามีรายได้ให้เพียงพอ ที่จะดำรงชีวิตอยู่ ได้อย่างมีศักดิ์ศรี ในยุคนี้สมัยนี้ และมีการพัฒนาต่อไปจนถึง ขั้นที่มีชีวิตอยู่ด้วยความมั่นคง นี่ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ เพราะเราเห็นว่า ทุกวันนี้เศรษฐกิจของชาวบ้าน ซบเซา เนื่องจากพี่น้องประชาชน ขายผลผลิตได้ ราคาต่ำ ไม่เพียงพอที่จะมีเงินไปเลี้ยงครอบครัว นโยบายของเราก็คือเกษตรกรทุกสาขาการผลิต ต้องขายผลิตผล แล้วได้กำไร 100% แบบนี้ชีวิตของ แต่ละครอบครัวจะดีขึ้นและเศรษฐกิจของภาคประชาชน ระดับล่างก็จะดีขึ้นด้วย 

เรื่องที่ สองคือด้านการศึกษา อันนี้จะเป็นการช่วยลดภาระของครอบครัว เรามีนโยบายที่จะจัดการศึกษาฟรี ลูกหลานพี่น้องประชาชนไม่ต้องเสียเงินเรียนจนจบ มีวิชาชีพติดตัว ไปตั้งครอบครัวใหม่ได้ นั่นก็คือจะให้เด็ก 80% ของประเทศนี้ เรียนอาชีวะ และเรียนธรรมะไปด้วยเพื่อที่จะได้เป็นคนดี มีวิชาชีพ และจะได้มีงานทำ ส่วนคนที่เรียนมหาลัย ก็ให้มีเพียงแค่ 20 เปอร์เซ็นต์ แต่ต้องเสียสตางค์เอง คนที่ไม่มีเงินก็ต้องกู้ยืมเงิน กองทุนเพื่อการศึกษาไป แต่ไม่ต้องให้ถึงขั้นค้ำประกัน ให้ใครมาค้ำประกัน ให้เด็กค้ำประกันตัวเอง ไม่ให้มีเรื่องสะเทือนใจเหมือนคราวที่แล้ว ที่ครูต้องถูกฟ้อง เพราะต่อไปนี้เราจะแก้กฎหมาย ว่าเด็กที่กู้เงิน กยศ.ไปเรียน เลขประจําตัว 13 หลัก ไปมีรายได้ ที่ไหน ก็หัก ณ ที่จ่ายเท่านั้นเอง อีกอันก็คือการดูแลเรื่องรักษาพยาบาล ให้กับพี่น้องประชาชน สร้างโรงพยาบาล ตำบลเอาไว้แล้ว แต่ว่าไม่มีหมอ จริงๆแล้วเราต้องการหมอ 8000 คน มีทุกตำบล ยกระดับ โรงพยาบาลอำเภอ ให้รักษาโรคได้ 80% ของโลกทั้งหลาย ที่เหลือก็ เกินกว่านั้น ส่งต่อไปหาโรงพยาบาลที่มีผู้เชียวชาญ โดยที่โรงพยาบาลอำเภอไม่ต้องตามไปจ่ายเงิน อย่างนี้คนก็จะได้มีโอกาสรักษาพยาบาล โดยเท่าเทียมกัน เดี๋ยวนี้คนที่เป็นโรคหัวใจ ก็จะได้รักษาได้ เป็นโรคเส้นเลือดในสมองตีบ ก็ไปไม่ได้ อย่างนี้เป็นต้น

สำหรับการร่วมรัฐบาล นายสุเทพบอกว่า พร้อมที่จะร่วม กับรัฐบาล ที่มีจุดยืนทางการเมือง เกี่ยวกับเรา คือมุ่งที่จะปฏิรูปประเทศ และแก้ปัญหาให้กับประชาชน แต่ที่ชัดเจนคือไม่ร่วมกับ พรรคการเมืองในระบอบทักษิณ ไม่ว่าจะชื่ออะไรก็ตาม ที่เขาแตกแบงค์พันเป็นแบงค์ร้อย เราจะไม่เอาด้วยเพราะเราเห็นว่าระบอบทักษิณ ทำร้ายประเทศ เป็นพิษเป็นภัยต่อประชาชน เป็นพิษเป็นภัยต่อประเทศไทย แม้เมื่อไม่กี่วันเหตุการณ์วันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก็แสดงให้เห็นว่า ทักษิณคิดเฉพาะ เรื่องของตัวเอง อยากจะให้ตัวเองกลับมาประเทศไทยมามีอำนาจในประเทศไทย โดยไม่ยอมเคารพกฎหมาย ไทย ไม่ เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แล้วก็ในการที่จะให้ชนะ ในเรื่องของการเมือง ประเทศจะเสียหายอย่างไร ไม่สนใจทั้งนั้นเพราะฉะนั้นคนแบบนี้เราร่วมไม่ได้ เราชัดเจน ไม่ได้รังเกียจเดียดฉันท์อะไร เพียงแต่ว่าอุดมการณ์ความคิด ที่มีต่อชาติบ้านเมือง ต่อประชาชนไม่เหมือนกันแล้วเขาทำเพื่อตัวเอง ในขณะที่พวกเราทำเพื่อประชาชนประเทศไทย

หลังให้สัมภาษณ์เสร็จ นายสุเทพ ยังคง เดินคารวะแผ่นดินคารวะประชาชน พร้อมกับแนะนำผู้สมัคร ส.ส. ในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ และขอให้พี่น้องประชาชน ลงคะแนนเสียง ให้กับพรรครวมพลังประชาชาติไทย เพื่อที่จะไปเป็นกระบอกเสียงให้กับพี่น้องประชาชนในการปฏิรูป บ้านเมือง และการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ให้ยั่งยืน นอกจากนี้ยังมีการตั้งเวทีปราศรัยพูดคุย กับพี่น้องประชาชน ในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ.