สลด เกิดไฟไหม้รุนแรงในย่านเมืองเก่าแออัดของกรุงธากาเมื่อช่วงดึกวันพุธ สารเคมีระเบิดและวัสดุไวไฟทำให้เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็ว เผาผลาญตึกแถวหลายหลัง สภาพถนนคับแคบและขาดแคลนน้ำเป็นอุปสรรค พนักงานดับเพลิงกว่า 200 นายต้องใช้เวลาควบคุมเพลิงกว่า 10 ชั่วโมง พบมีคนสังเวยแล้วอย่างน้อย 78 คน

ภาพ AFP

    รายงานของสำนักข่าวต่างประเทศอ้างคำกล่าวของเจ้าหน้าที่ว่า จำนวนผู้เสียชีวิตอาจจะเพิ่มขึ้นอีกเนื่องจากผู้บาดเจ็บหลายรายอาการวิกฤติ บีบีซีรายงานเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 กุมภาพันธ์ 2562 ว่าจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 78 คนแล้ว ส่วนผู้บาดเจ็บนั้น เอเอฟพีอ้างข้อมูลจากแพทย์โรงพยาบาลวิทยาลัยแพทย์ธากาว่ามีไม่ต่ำกว่า 55 คน โดย 10 อาการวิกฤติ

    เพลิงเริ่มไหม้เมื่อเวลาประมาณ 22.40 น.ของวันพุธ (23.40 น.วันเดียวกันของไทย) ที่ย่านชอคบาซาร์ในเขตเมืองเก่าของกรุงธาการที่มีอายุย้อนยุคถึงสมัยจักรวรรดิมุฆัล เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกล่าวว่า ต้นเพลิงเกิดที่อาคารสูง 4 ชั้นหลังหนึ่ง ที่ลอบเก็บสารเคมีไวไฟและวัสดุติดไฟง่าย ทำให้เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็วถึงอาคาร 4 หลังที่อยู่ติดกัน

    พลจัตวาอาลี อาเหม็ด ข่าน อธิบดีกรมดับเพลิงและป้องกันภัยพลเรือน กล่าวว่า สาเหตุอาจเกิดจากถังแก๊สระเบิดแล้วไฟลามในอาคารหลังนั้น ซึ่งมีห้องเก็บสารเคมีอยู่ปะปนกับห้องพักอาศัย

    คนในเหตุการณ์หลายรายกล่าวด้วยว่า ตึกที่อยู่ติดกันก็เก็บสารเคมีสำหรับผลิตภัณฑ์ในครัวเรือนไว้ด้วย เมื่อไฟลามมาถึงสารเคมีเหล่านี้ก็ระเบิด ผู้คนในละแวกนั้นตกอยู่กลางกองเพลิง โดยเพลิงลามไปถึงงานเลี้ยงแต่งงานและร้านอาหารร้านหนึ่ง ภาพข่าวทางโทรทัศน์เผยให้เห็นด้วยว่า ตึกสูง 5 ชั้นหลังหนึ่งมีโซ่ล่ามประตูไว้ ทำให้ผู้คนภายในหนีออกมาไม่ได้ ขณะที่การจราจรติดขัดภายในถนนแคบๆ ของย่านนั้นยังเป็นอุปสรรคต่อการช่วยชีวิตและกู้ภัย

    พนักงานดับเพลิงมากกว่า 200 นายใช้เวลาเกือบ 12 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ และได้เข้าตรวจค้นเก็บกู้ศพตามชั้นต่างๆ ของอาคารที่เต็มไปด้วยกระป๋องสเปรย์ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงนายหนึ่งกล่าวว่า ปฏิบัติการต้องใช้เวลา เพลิงครั้งนี้ไม่เหมือนเพลิงไหม้ทั่วไป เพราะมีสารเคมีติดไฟง่ายเป็นตัวเร่งให้ไฟโหมไหม้รุนแรงยิ่งขึ้น

    เจ้าหน้าที่กล่าวกันด้วยว่า รถดับเพลิงหลายคันมีปัญหาในการเข้าถึงพื้นที่เนื่องจากถนนคับแคบ และยังขาดแคลนน้ำที่ใช้ดับไฟด้วย